×

24 เรื่องฟิลเลอร์ที่ต้องรู้จากปาก นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ แพทย์ผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์ระดับประเทศ

12.06.2023
  • LOADING...
ฟิลเลอร์

HIGHLIGHTS

  • ฟิลเลอร์ชนิดที่ปลอดภัยจริงๆ ต้องเรียกว่าฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. และเป็นฟิลเลอร์ชนิด HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น ไม่มีตัวอื่นปน ต้องมีความบริสุทธิ์มากๆ มันถึงแพง
  • ฟิลเลอร์สามารถปรับรูปหน้าทำให้เล็กลงและมีมิติได้ เรียกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปกระดูกใบหน้า (Butterfly Lift) 
  • ถ้าฟิลเลอร์อยู่ผิดที่ผิดทาง ไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรมียาอยู่ อย่างไรก็ไม่สลาย
  • ประสบการณ์ของคนที่ฉีดไขมันเกือบ 100% ไม่แฮปปี้ แต่อย่างฟิลเลอร์ถ้าไม่ชอบตรงไหนสามารถฉีดสลายทิ้งหายหมด

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ‘ฟิลเลอร์’ (Filler) หรือสารเติมเต็มที่ใช้ในวงการความงามนั้นมีข่าวคราวในแง่ลบไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดแล้วตาบอด ฉีดแล้วฟิลเลอร์เน่า ติดเชื้อเป็นหนอง หรือเป็นก้อนไม่สวยดั่งใจ จนทำให้ใครหลายคนที่คิดจะเข้าวงการล้มเลิกความคิดพร้อมตีตราว่าการฉีดฟิลเลอร์นั้นอันตราย คำถามคือ “การฉีดฟิลเลอร์ที่ดีและปลอดภัยจริงๆ 100% ยังมีอยู่ไหมในโลกใบนี้?” 

 

การฉีดฟิลเลอร์

ภาพ: Getty Images

 

งานนี้ LIFE เลยบุกไปล้วงลึกและไขข้อสงสัยทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงเทรนด์ความงามในปัจจุบันกับ นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ หรือ คุณหมอบอย แพทย์ที่คร่ำหวอดในวงการความงามและการชะลอวัยมากว่า 20 ปี 

 

การฉีดฟิลเลอร์

 

ผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์ระดับประเทศ (Certified Country Mentor Trainer) สำหรับเขตเอเชีย-แปซิฟิก ผู้ริเริ่มการใช้เข็มปลายทู่ในการฉีดฟิลเลอร์ของเมืองไทย การฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูก (Bone Touching Filler Injection) และยังถือเป็นแพทย์ไทยคนแรกที่ได้รับเชิญให้เขียนเผยแพร่เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าด้วยเทคนิคสัมผัสกระดูก (Butterfly Lift) ลงตำราแพทย์ Non-Surgical Rejuvenation of Asian Faces จากสำนักพิมพ์ Springer ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ AIC หรือ AIC Clinic อีกด้วย

 

 

หากคุณเคยแวะเวียนเข้าคลินิกเวชกรรมต่างๆ แล้วลองเดินเข้ามาที่ AIC Clinic ก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างอย่างชัดเจนด้วยการตกแต่งที่เรียบง่าย ไม่ได้เน้นความหรูหราโอ่อ่าดุจสปาเหมือนคลินิกส่วนใหญ่

 

 

AIC Clinic เป็นคลินิกระดับพรีเมียมเฉพาะทางก่อตั้งในปี 2012 ที่ให้บริการด้านความงามแบบกึ่งศัลยกรรม รวมทั้งนวัตกรรมความงามใหม่ๆ เพื่อการดูแลผิว โดยเน้นเป็นบริการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ที่ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีทุกคน และต้องมีทักษะฝีมือชั้นสูงเท่านั้น โดยทางคลินิกจะจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามารับบริการไม่เกินวันละ 10 คนแบบไม่รับวอล์กอิน 

 

 

นอกจากนี้ AIC Clinic ยังใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมและให้ความรู้ใหม่ๆ ทางด้านความงามแก่แพทย์ไทยและแพทย์ต่างชาติในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย

 

 

เทรนด์รูปหน้าและผิวพรรณในปัจจุบันเป็นอย่างไร  

ปัจจุบันเราเน้นรูปหน้าที่คมชัด มีมิติ มีสัดส่วนที่ชัดเจน กรอบหน้าชัด โหนกแก้มชัด ไม่ V-Shape อีกแล้ว แบบนั้นมันไม่มีมิติ ส่วนในเรื่องผิวพรรณก็จะเน้นเรื่องคุณภาพของผิวที่ดูเนียนใส ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้เราจะมีนวัตกรรมตัวใหม่ที่ชื่อว่า Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวแรกของโลก และผ่านการรับรองจาก US FDA ในไทยแล้วเรียบร้อย

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Sculptra USA (@sculptrausa)


 

 

การฉีดฟิลเลอร์ HA สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้บางส่วน ร่างกายเรามีต้องมีไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เซลล์ที่สร้างคอลลาเจนอยู่แล้ว แต่พออายุมากขึ้นไฟโบรบลาสต์น้อยลง Sculptra เลยจะเป็นตัวที่ช่วยเพิ่มไฟโบรบลาสต์นี่แหละ การฉีดจะแนะนำอยู่ที่ 3 เซสชัน เดือนละครั้ง จะอยู่ได้ 2 ปี 

 

นิยามของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็ม สมัยก่อนทุกตัวเป็นฟิลเลอร์หมด ซิลิโคนเหลวก็คือฟิลเลอร์ แต่ถ้าจะให้เรียกว่าฟิลเลอร์ชนิดที่ปลอดภัยจริงๆ ต้องเรียกว่าฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. และเป็นฟิลเลอร์ชนิด HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น ไม่มีตัวอื่นปน ต้องมีความบริสุทธิ์มากๆ มันถึงแพง

 

ไม่ว่าอย่างไรฟิลเลอร์ก็ต้องแพง

ไม่มีของดีราคาถูก ถ้าคุณจ่ายถูก ใช้ยาถูกคุณภาพต่ำ หมอที่ฉีดก็คุณภาพต่ำลงเช่นกัน หมอดีๆ ที่มีชื่อเสียงไม่เสี่ยงใช้ของไม่ดีอยู่แล้ว ปัจจุบันฟิลเลอร์ในท้องตลาดเยอะมาก ถ้าคลินิกที่พรีเมียมหน่อยก็จะใช้ยี่ห้อที่พิสูจน์มาแล้ว ราคาสูง มีงานวิจัย ความแพงมันอยู่ที่เทคโนโลยีและงานวิจัยนี่แหละ 

 

 

มีหลายเคสที่เลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพดีราคาแพงแล้วแต่ก็ยังพลาด เช่นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ทั้งนี้เกิดจากอะไร

  1. หมอไม่เก่ง เป็นความผิดพลาดของหมอที่ฉีด
  2. เลือกยาผิด คุณสมบัติของยาบางตัวอาจจะเหมาะกับฝรั่งแต่ไม่เหมาะกับคนไทย อย่างตัวยาที่มีในไทยเราก็ฉีดไม่เหมือนฝรั่งนะ สภาพผิวต่างกัน มียี่ห้อหนึ่งที่หมอฝรั่งมาสาธิตฉีดในคนเอเชีย ปรากฏว่าตุ่ยปูดเพียบ  
  3. เดิมทีใต้ตาเป็นก้อนอยู่แล้ว เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อการตรวจดูสภาพผิวก่อนฉีดครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งการจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเพอร์เฟกต์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความเหนียวของเส้นเอ็นและความหนาตัวของกล้ามเนื้อหัวตาด้วย

 

 

เมื่อฟิลเลอร์เป็นก้อนแล้ว สามารถปล่อยให้สลายไปเองโดยธรรมชาติได้หรือไม่

ถ้าอยู่ผิดที่ผิดทาง ไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรมียาอยู่ ไม่สลายแน่นอน 

 

เราสามารถฉีดฟิลเลอร์หลายตัวพร้อมกันได้ไหม

ได้ ถ้าเป็นยี่ห้อเดียวกัน เราควรฉีดยี่ห้อเดียวเพราะยี่ห้อเดียวมีคุณสมบัติให้หมดแล้ว อย่าง Restylane ที่คลินิกใช้เป็นตัวพรีเมียม แพงที่สุด มีงานวิจัยรองรับมากที่สุด ใช้มานานที่สุด เรียกว่าเป็น Gold Standard ของฟิลเลอร์ทั้งหมดในโลกนี้ ถ้ามีตัวไหนผลิตใหม่มาก็ต้องมาเทียบกับมาตรฐานตัวนี้

 

 

ถ้าเทียบระหว่างการฉีดฟิลเลอร์กับการฉีดไขมันของตัวเองแบบไหนดีกว่ากัน

การฉีดไขมันคือตัวปัญหาเลย อย่าคิดว่าไขมันเป็นของตัวเอง มีความเป็นธรรมชาติ แต่มันสร้างความคมชัดให้ใบหน้าไม่ได้ ทำให้หน้าไม่มีมิติ หน้าจะดูบวมตุ่ยๆ 

 

บางคนบอกฉีดทั้งหน้าต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์เยอะมาก ต้องจ่ายแพงมาก เลยเลือกฉีดไขมันแทน

จะเอาสวยไหมล่ะ (คุณหมอบอยถามติดตลก) ถ้าฉีดไขมันมาแล้วไม่สวยก็ต้องไปแก้ ซึ่งต้องใช้เงินมากกว่า 2-3 เท่าตัว แล้วการฉีดไขมัน 10 ซีซี จะเหลือบนใบหน้าแค่ 20% บางคนหายหมด

 

บางคนสลายไม่เท่ากัน ติดข้าง อีกข้างไม่ติด อันนี้แก้ยากมาก ประสบการณ์ของคนที่ฉีดไขมันเกือบ 100% ไม่แฮปปี้ 

 

แต่อย่างฟิลเลอร์ถ้าไม่ชอบตรงไหนสามารถฉีดสลายทิ้งหายหมด ขอย้ำว่าเป็นชนิดที่ดีนะ ถ้าฉีดของดีมันก็เหมือนมีปุ่มรีเซ็ตให้เราเพื่อความปลอดภัยอยู่ตลอด

 

 

นอกจากการใช้ฟิลเลอร์ถูก การฉีดไขมันแล้ว มีหัตถการไหนที่คุณหมอบอยไม่สนับสนุนให้ทำบ้าง

การผ่าตัดเสริมหน้าผาก หน้าผากเป็นส่วนที่ฉีดฟิลเลอร์สวยกว่า มันเป็นงานละเอียดอ่อน เราสามารถปรับแต่งได้เหมือนรูปปั้น แต่ข้อเสียคือหน้าผากเป็นจุดอันตราย คนที่ไปฉีดไขมันหน้าผากเขาจะทะลวงเป็นโพรง ซึ่งเป็นวิธีที่โบราณ ปัจจุบันต้องทำแบบไร้โพรง เพราะเซาะปั๊บมันจะนิ่มเป็นถุงน้ำ พอสลายปุ๊บถุงน้ำโพรงก็ยังอยู่ ฉีดของใหม่ไปอันเก่าก็ยังอยู่ วิธีที่ถูกคือเราต้องฉีดไปตรงเยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งมันเป็นเทคนิคที่ยาก แต่มันจะเนียนไปเลย ได้หน้าผากนูนสวย กดแล้วไม่นิ่ม

 

อันต่อมาคือผ่าตัดถุงใต้ตา หมอบางคนวินิจฉัยว่าเป็นถุง แต่จริงๆ เป็นกล้ามเนื้อ พอยิ้มแล้วกล้ามเนื้อหดตัวมันก็จะป่องเป็นถุง 

 

วิธีแก้ง่ายๆ คือฉีดฟิลเลอร์ไปกลบก่อนแล้วใช้โบท็อกซ์ให้มันเรียบขึ้น ยิ้มแล้วตาจะไม่ปูดตุ่ย แต่อาจกลบได้ไม่ 100% แต่ถ้าเลือกไปผ่าถุงใต้ตาก็จะอ้า จะทำให้ดูปลิ้น แต่กรณีที่เป็นเยอะมากก็อาจจะผ่าตัดก่อน แต่ผ่าเสร็จก็ต้องมาฉีดอยู่ดีถึงจะสวย 

  

ส่วนการผ่าตัดดึงหน้าก็จะได้หน้ามิติเดียว ดูแบน ควรฉีดฟิลเลอร์เพื่อสร้างมิติให้ใบหน้าแทน

 

เห็นว่าทางคุณหมอมีเทคนิคฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูก (Bone Touching Filler Injection) ที่สามารถทำให้หน้าเล็กได้

ใช่ คนเข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์ทำให้หน้าใหญ่นูนขึ้น แต่ฟิลเลอร์สามารถปรับรูปหน้าทำให้เล็กลงและมีมิติได้ 

 

โหนกแก้มใหญ่ก็ปรับให้เล็กลงได้แบบมีมิติ มันเรียกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปกระดูกใบหน้า (Butterfly Lift) ไม่ได้มองที่เนื้อหนัง แต่มองที่กระดูก ซึ่งการนำตัวยาไปฉีดแปะบนกระดูกมันเป็นงานวิจัยที่ใช้ในคนไข้ที่มีอุบัติเหตุ ฟิลเลอร์สามารถแก้กระดูกที่มันแหว่งได้ แต่ก็ต้องเลือกตัวยาที่เหมาะสม การฉีดฟิลเลอร์ไปวางบนกระดูกมันจะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เพราะบนกระดูกไม่มีเลือดไปเลี้ยง ยาไม่สลาย ถ้าฉีดไม่โดนกระดูกลอยๆ ฟิลเลอร์ก็สลายไวไปเร็ว

 

 

ถ้าเทียบเทคนิคการฉีด Butterfly Lift ของคุณหมอกับการทำ Ulthera แบบไหนยกกระชับได้ดีกว่ากัน

โอ้โห ลิฟต์แบบคนละเรื่อง! (คุณหมอบอยตอบด้วยน้ำเสียงตื่น) Ulthera คือเทียบไม่ได้เลย การฉีดแบบ Butterfly Lift คือแก้มหดยกทันที ยกชัดกว่า ไม่ต้องรอ เห็นผลทันที แต่ราคาก็คนละเรื่องเช่นกัน เพราะใช้ยา 6-7 หลอด ตัวเครื่องมีข้อจำกัด การทำ Ulthera มันคือการยิงพลังงานลงบนผิวลึก 4.5 มิลลิเมตร แต่การฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูกลงลึกถึง 20-30 มิลลิเมตร สามารถฉีดแก้ได้ทุกชั้นผิว

 

ฉีดฟิลเลอร์จุดไหนอันตรายที่สุด

จมูก เสี่ยงตาบอดสุด ตามมาด้วยหน้าผาก และร่องแก้ม ตรงร่องหว่างคิ้วก็เสี่ยงนะ ต้องดูว่าเป็นร่องแบบไหน ถ้าร่องติด หมายถึงการที่หน้าอยู่เฉยๆ ก็เห็นเป็นร่อง ถ้าเอามือดึงไม่ออกแสดงว่าโบท็อกซ์ไม่ช่วย ก็จะต้องฉีดโบท็อกซ์ก่อนแล้วฟิลเลอร์เลาะ แต่หมอส่วนใหญ่จะไม่ทำเพราะมันเข้าตาบ่อย เป็นส่วนอันตราย ถ้าหมอเก่งมีความรู้จะไม่ฉีด แค่โบท็อกซ์ก็พอ

 

ภาพ: Getty Images

 

อายุต่ำกว่า 18 ปี ฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม

ฉีดได้ แต่ต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม

 

เด็กบางคนมีปมด้อยเรื่องรูปหน้า เช่น คางสั้น บ้างก็โดนสื่อโซเชียลบูลลี่ เกิดภาวะซึมเศร้า ซึ่งถ้าเลือกลงมีด มันจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของกระดูก โครงสร้างใบหน้า แต่ถ้าฉีด มันเป็นการเจาะรูนิดเดียว ปรับนิดเดียว ปลอดภัยกว่า

 

ใครไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หรือคนที่มีเริม ถ้ามีสิวก็ต้องเป็นสิวที่คุมการอักเสบได้

 

สรุปสิ่งที่ต้องคำนึงก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

อันดับแรกดูว่ายาดีไหม อย่าดูราคา ส่วนใหญ่ข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตาบอดหรืออะไร มาจากฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพทั้งนั้น รู้ไหมว่าฟิลเลอร์เกาหลีราคาแค่ 1 ใน 10 ของฟิลเลอร์ยุโรป ต้นทุนแค่ 10%  

หมอที่เอาราคาเป็นหลักก็จะเน้นต้นทุนต่ำ หมอที่มีความรู้จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน สองต้องเป็นเลือกยาถูกประเภท เหมาะกับบริเวณจะฉีด ฟิลเลอร์ตัวเดียวจะฉีดทั้งหน้าไม่ได้ สามคือฝีมือหมอ อย่าดูรีวิว บางทีก่อนทำกับหลังทำนี่เป็นภาพคนละมุม คนละองศา ลองศึกษาก่อน ซึ่งมันก็สอดคล้องกัน ต่อให้หมอเก่งฉีดให้แต่ถ้าเลือกยาผิด ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะไม่เพอร์เฟกต์อยู่ดี

 

ภาพ: Cottonbro Studio / Pexels

 

 

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดูแลตัวเองอย่างไร

แนะนำให้งดออกกำลังกาย 3 วัน แต่ออกกำลังกายเบาๆ ได้ ไม่ควรออกหนักไม่อย่างนั้นจะบวมเขียว แต่วันแรกควรงด ห้ามนวดหน้า 3 วัน ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 3 วัน

 

พวกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าชนิดเอนไซม์ การขัดผิวต่างๆ ก็ควรงด 3 วัน จะก้มนอนได้หมด ไม่มีผลต่อการรักษา 

 

หากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วไม่ชอบ ทำอย่างไรให้สลายไวด้วยตัวเอง

ถ้าอยู่ผิดที่ทำอย่างไรก็ไม่สลาย


ระยะเวลาการสลายตัวของฟิลเลอร์ในแต่ละจุดเท่ากันไหม

ไม่เท่า จุดที่เคลื่อนไหวน้อยจะอยู่ได้นานกว่า จุดที่ฉีดลึกไปที่กระดูก โดยเฉพาะหน้าผากอยู่นานที่สุด มาตรฐานอยู่ได้ 12 เดือน แต่ฉีดจริงๆ หน้าผากอยู่ได้ 3-4 ปี

 

วิเคราะห์ปัญหารูปหน้าของผู้เขียน

บริเวณที่ผู้เขียนมีความกังวลคือใต้ตากับร่องกลางแก้ม


ใต้ตากับร่องกลางแก้มมันเป็นโซนเดียวกัน เส้นใต้ตาคือเส้นเอ็นที่วิ่งต่อเนื่องลงมาถึงร่องกลางแก้ม

 

ร่องมันเกิดได้จากกระดูกใต้เนื้อเยื่อที่ยุบลงตามวัย เส้นเอ็นที่เกาะจากกระดูกขึ้นมาที่ผิว พอมันหล่นมันก็จะดึงไว้ แก้มห้อยลงแต่เส้นเอ็นมันยังดึงไว้อยู่ การที่มันเกิดแรงดึงก็จะทำให้เกิดร่องชัดขึ้น

 

 

วิธีแก้ก็คือการดันมันกลับไปโดยการฉีดฟิลเลอร์ LYFT Lidocaine ที่แนวเส้นเอ็นเกาะกระดูก แก้มจะยกขึ้น ตรงส่วนที่ห้อยๆ จะดีขึ้นเลย 

 

จากนั้นก็ฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตาด้วยตัว Skinboosters Vital Light ซึ่งยาฉีดใต้ตาต้องเป็นยาเนื้อละเอียดและต้องกระจายตัวดี แทรกตัวในผิวเรียบเนียน ซึ่งตัวที่ฉีดให้มีคุณสมบัติ Hydrobalance ป้องกันการเกิดพังผืดได้ ช่วยรักษาความสมดุลชุ่มชื่นในผิว ให้ผิวหน้าดูโกลวสดใส

 

 

จากนั้นจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์คลายกล้ามเนื้อใต้ตาที่ยิ้มแล้วตุ่ย แต่ตาฝั่งซ้ายมีปัญหา มีก้อนนิดๆ ซึ่งประเด็นนี้บอกไม่ได้ว่าเกิดจากฟิลเลอร์เก่าสลายไม่หมดหรือเป็นธรรมชาติแต่แรก 

 

 

Result

หลังทำเห็นได้ทันทีว่าร่องหน้าแก้มตื้นขึ้น แก้มมีความยกขึ้นเล็กน้อย ใต้ตาดูคล้ำน้อยลง และผลจากโบท็อกซ์ก็ช่วยให้ความบวมใต้ตายุบลง ซึ่งผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะอยู่ได้ราว 1 ปี ส่วนโบท็อกซ์จะอยู่ได้ราว 6 เดือน

  

 

Good for

จากการได้เข้ามาพูดคุยกับคุณหมอบอย และสัมผัสการฉีดฟิลเลอร์โดยมือหมอด้วยตัวเองแล้วรู้สึกได้ว่าคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ตัวจริง ระหว่างการทำนั้นไวมาก ยาชาชนิดทาและแบบฉีดทำให้มีความรู้สึกน้อยลงไปเยอะ บอกได้เลยว่า AIC Clinic ค่อนข้างเหมาะกับคนที่มีความสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์อย่างจริงจัง รวมไปถึงใครที่อยากปรับรูปหน้า เน้นผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานโดยไม่พึ่งศัลยกรรม

 

ศูนย์นวัตกรรมความงาม AIC (สาขาพระราม 4)

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.

Address: ปากซอยงามดูพลี ติดภัตตาคารจันทร์เพ็ญ 1032/10-12 ชั้น 1-2 ถนนพระราม 4 

Budget: เคสคุณหมอบอย เริ่มต้นที่ 35,000 บาทต่อซีซี 

Tel.: 0 2287 1200

Website: https://www.aic-clinic.com/  

Map:

 

 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์, AIC Clinic

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X