เคยเจอกับตัวหรือมีคนใกล้ตัวตกอยู่ในอาการนี้ไหม?
แค่สบตากับใครไม่กี่นาทีก็รู้สึกว่าคนนี้ใช่แล้ว?
อยากคบ!
อยากบอกรัก!
หรือบางทีเพิ่งคุยกันไม่กี่วันก็รู้สึกผูกพันเหมือนรู้จักกันมาเป็นปี
ความรู้สึกเหล่านี้อาจไม่ได้แค่โรแมนติกธรรมดา แต่มันคือสิ่งที่เรียกว่า ‘Emophilia’ คำที่กำลังเริ่มฮิตในวงการจิตวิทยาความรักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ‘Emophilia’ หรือ ‘คนตกหลุมรักง่าย’ เป็นหนึ่งในรูปแบบการรักที่พบได้บ่อยในยุคโซเชียลมีเดีย
จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก พฤติกรรมนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการเปิดใจเร็ว แต่เป็นแนวคิดที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการเข้าใจรูปแบบความรักของตัวเองและการสร้างสมดุลทางอารมณ์เพื่อรักอย่างแท้จริง แต่มันก็มีความเสี่ยงด้วยนะ อะไรที่เร็วเกินไป ผลที่ตามมามันอาจจะทำให้เราเสียใจมาก หรือเจ็บปวดก็ได้นะ
LIFE จึงอยากพาผู้อ่านไปรู้จักกับ Emophilia ว่ามันคืออะไร และจะจัดการกับตัวเองอย่างไรถ้าตกอยู่ในอารมณ์แบบนี้?
‘Emophilia’ คืออะไร?
Emophilia เป็นคำที่ผสมระหว่าง emotion (อารมณ์) กับ philia (ความหลงใหล) ที่มีความหมายว่า คนที่มีแนวโน้มจะตกหลุมรักง่ายและถลำลึกกว่าคนทั่วไป เรียกว่าเป็นคนที่เปิดใจเร็วและรู้สึกผูกพันอย่างรุนแรง แม้จะเพิ่งรู้จักกันไม่นานก็ตาม ซึ่งเป็นรูปแบบที่คนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นในยุคปัจจุบัน
ทำไมบางคนถึงตกหลุมรักง่าย?
แนวคิดเบื้องหลัง Emophilia นี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ นะ แต่มันตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำงานของระบบอารมณ์และประสบการณ์ในวัยเด็กอย่างมีเหตุผลรองรับ เช่น บางคนอาจจะเคยขาดความมั่นคงทางอารมณ์ในวัยเด็ก เมื่อเติบโตมาในครอบครัวที่ขาดความมั่นคงทางอารมณ์ หรือไม่เคยรู้สึกว่าตัวเอง ‘มีค่าพอ’ ความรักจึงกลายเป็นเครื่องมือยืนยันตัวตน เวลามีใครมาสนใจ เราอาจเทใจให้ทันทีโดยไม่ทันคิด
หรือไม่ก็มีเหตุผลจากการที่สมองปลดปล่อยสารเคมีมากเกินไป สมองของ Emophilia มักปลดปล่อยโดพามีนและออกซิโทซินในปริมาณมากเมื่อได้รับความสนใจ ทำให้รู้สึกสุขล้นสุดๆ จนมองข้ามสัญญาณเตือนอันตรายในช่วงต้นของความสัมพันธ์ นอกจากนี้เป็นการแสวงหาการยอมรับด้วยนะ บางคนอาจมีความต้องการการยอมรับสูง จึงมักปล่อยใจตัวเองไปอย่างรวดเร็วทั้งทางอารมณ์และร่างกาย เพราะต้องการความรู้สึกที่ว่า “ตัวเองเป็นที่ต้องการและมีค่า”
อันตรายของการเป็น Emophilia
แน่นอนว่าอาการนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะการตัดสินใจโดยไม่ทันระวัง และไม่คิดให้รอบคอบ ไม่ดูคนให้นานพอ จะกลายเป็นพฤติกรรมที่อาจทำให้เราตัดสินใจคบใครสักคนโดยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ทำให้มองข้ามความเข้ากันได้ในระยะยาว แถมยังเสี่ยงต่อการเจ็บปวดซ้ำซาก เพราะเมื่อตกหลุมรักเร็วเกินไป แถมยังรักแบบสุดโต่งไม่เผื่อใจเลย มันอาจเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ไม่มีรากฐานอันแข็งแกร่ง เรายังรู้จักเขาไม่ดีพอเลย เหมือนเราจะไปซื้อบ้านสักหลัง แค่มองเห็นหน้าบ้าน ก็ซื้อแล้ว ทั้งที่ความจริงหากเปิดประตูเข้าไปเช็กบ้านแต่ละห้องให้ดี อาจจะเจอกับความจริงที่ไม่คุ้มค่าก็ได้ ในแง่ความสัมพันธ์มันมักส่งผลให้เกิดความผิดหวังและเจ็บใจเมื่อความรักจบลง นอกจากนี้ยังเสี่ยงที่จะเกิดความเบื่อหน่ายเร็ว เมื่อไฟรักที่ลุกโชนในวันแรกเริ่มจางลง อาจพบว่าคนที่ตกหลุมรักนั้นไม่ได้เหมาะกับเราจริงๆ ทำให้เกิดความรู้สึกผิดหวังกับตัวเองและอีกฝ่าย
วิธีจัดการกับตัวเองถ้าเป็น Emophilia
- เช็กความรู้สึกตัวเองก่อนตัดสินใจ ก่อนจะทุ่มเทให้กับใครสักคน ลองถามตัวเองว่า “ฉันชอบเขาจริงๆ หรือแค่รู้สึกดีเพราะได้รับความสนใจ?” ให้เวลาตัวเองคิดอย่างเป็นกลาง อย่าด่วนตัดสินใจ ลองให้เวลาเรียนรู้ตัวตนของเขามากขึ้นอีก
- ฝึกให้เวลาในการทำความรู้จักกัน แทนที่จะตัดสินในวันแรกที่เจอ ลองใช้เวลาสังเกตอีกฝ่ายในสถานการณ์ต่างๆ ดูว่าเขาแสดงออกยังไงเมื่อโกรธ เมื่อเครียด หรือเมื่อต้องเผชิญปัญหา จะทำให้เรารู้จักมายด์เซตและพฤติกรรมของเขาดียิ่งขึ้น
- ตั้งขอบเขตให้ตัวเอง สร้างกฎง่ายๆ เช่น ไม่บอกรักใครเร็วเกินไป ให้คุณค่ากับตัวเอง การมีขอบเขตช่วยให้เราไม่หลงทางในอารมณ์ชั่วคราว
- ฟังสัญชาตญาณของตัวเอง เรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่าง “ความรู้สึกดีชั่วคราว” กับ “ความเข้ากันได้จริงๆ” สังเกตว่าเราสบายใจกับเขาหรือไม่ เมื่อไม่ได้คุยแค่เรื่องโรแมนติก
- สร้างฐานความมั่นใจในตัวเอง ทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกมีค่า เช่น การเรียนรู้สิ่งใหม่ การดูแลสุขภาพ หรือการใช้เวลากับเพื่อนที่ดี เมื่อเรามีความสุขกับตัวเอง จะไม่ต้องพึ่งพาความรักเป็นแหล่งความมั่นใจเพียงอย่างเดียว