หลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ประเทศสิงคโปร์ ไปเมื่อเดือนมีนาคม ในที่สุด Dyson Airstrait™ เครื่องหนีบผมไร้แผ่นความร้อนรุ่นแรกจาก Dyson ก็แลนดิ้งประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมให้สาวก Dyson จับจองกันในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้!
What is it?
Dyson Airstrait™ เป็นเครื่องหนีบผมไร้แผ่นความร้อนที่ใช้เวลากว่า 6 ปีในการพัฒนา จนได้มาซึ่งนวัตกรรมสุดล้ำนี้ที่เราเชื่อว่าตอบโจทย์ Pain Point ของผู้หญิงที่หนีบผมเป็นประจำ เพราะเจ้าเครื่องนี้สามารถยืด เป่าแห้ง และจัดแต่งทรงให้ผมเรียบลื่นได้ ใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผม แม้กระทั่งขณะผมเปียก (Wet-to-Dry) ด้วยกระแสลมโดยไม่ใช้แผ่นความร้อน แปลว่าหลังสระผมคุณไม่ต้องใช้ไดร์แยกก่อนหนีบ ไม่ต้องรีดผมจนกรอบแห้งควันออก สะดวกสบาย ประหยัดเวลา เซฟผม จบครบในเครื่องเดียว
The Disruptive Innovation
เรามีโอกาสได้เข้าร่วมงานเปิดตัวที่สิงคโปร์ และยังจำความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัส Dyson Airstrait™ ได้ดี ตัวเครื่องสีสวยหรู โดยเฉพาะ Prussian Blue / Rich Copper ที่สะดุดตาตั้งแต่ร้อยเมตร
ผิวสัมผัสบนตัวเครื่องเรียบลื่น ให้ความรู้สึกพรีเมียม ไม่เปราะบางก๊องแก๊ง
ในส่วนของฟังก์ชันการใช้งานจะมีทั้งหมด 5 ปุ่ม ได้แก่ Heat Settings, Airflow Settings, Cool Shot, Mode Selector และ Power Button การใช้งานนั้นไม่ซับซ้อน เพียงเปิดเครื่องแล้วเลือกโหมดจัดแต่งทรงผม โดยจะมีให้เลือกทั้ง ‘เปียก’, ‘แห้ง’ รวมถึงโหมด ‘เป่าเย็น’ โหมดเปียกและแห้งเป็นโหมดที่ถูกตั้งระดับความร้อนและกระแสลมไว้ล่วงหน้า เพื่อผลลัพธ์ทรงผมที่ดีที่สุด
สำหรับโหมด ‘เปียก’ เราสามารถเลือกอุณหภูมิความร้อนได้ 3 ระดับ ตั้งแต่ 80, 110, และ 140 องศาเซลเซียส ส่วนโหมด ‘แห้ง’ จะสามารถเลือกอุณหภูมิระหว่าง 120 หรือ 140 องศาเซลเซียส หรือสามารถเพิ่มอุณหภูมิด้วยตัวเองในโหมด ‘Boost’
ขณะที่ระบบควบคุมกระแสลมจะมีทั้งหมด 2 ระดับความเร็ว ได้แก่ แรงลมต่ำและแรงลมสูง รวมถึงลมเย็นและโหมดเป่าแห้งที่โคนผม
กระแสลมพร้อมระบบควบคุมที่แม่นยำ
ไฮไลต์แรกเลยคือพลังของกระแสลม Dyson ออกแบบให้ตัวแกนหนีบผมทั้งสองด้านประกอบไปด้วย 2 ช่องลมสำหรับปล่อยกระแสลมขนาด 1.5 มิลลิเมตร เมื่อหนีบผมตัวเครื่องจะปล่อยกระแสลมจากใบพัดแรงดันสูงออกจากแกนทั้งสองด้านในมุม 45 องศา ซึ่งกระแสลมที่ถูกควบคุมทิศทางนี้ถูกวิจัยมาแล้วว่าสามารถเป่าแห้งและยืดผมให้เรียบตรง ลื่น เงางาม
อย่างที่บอกว่าเราสามารถเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นการเป่าแห้งได้ ดังนั้นแล้วไม่ว่าผมคุณจะสั้นหรือยาวแค่ไหนก็สามารถใช้ได้หมด แค่สวิตช์โหมดแล้วประกบแกนเข้าหากันก็ใช้งานได้เลย
มอเตอร์ Dyson Hyperdymium
หัวใจสำคัญของเครื่องหนีบผมสุดล้ำนี้อยู่ที่มอเตอร์ Hyperdymium ที่น้ำหนักเบา และมีขนาดเล็กเพียง 27 มิลลิเมตร เล็กพอที่จะใส่ไปในด้ามจับ แต่ทรงพลังมากพอที่จะสร้างกระแสลมเพื่อเป่าแห้งและรีดผมให้เรียบตรงได้ในเวลาเดียวกัน ด้วยใบพัด 13 แฉกหมุนพัดเร็วถึง 106,000 รอบต่อนาที ซึ่งสร้างกระแสลมได้กว่า 11.9 ลิตรต่อวินาที และสร้างแรงดันอากาศมากถึง 3,500 กิโลปาสกาล
วิทยาศาสตร์เบื้องหลังการจัดแต่งทรงผม
อิงจากที่เราบอกข้างต้นว่า Dyson Airstrait™ เครื่องนี้สามารถจัดแต่งได้กับทุกสภาพผม ซึ่งจุดนี้เราได้ไปเห็นการทดลองเบื้องหลังกับตาตัวเอง ณ สำนักงานใหญ่ของ Dyson ที่สิงคโปร์
ห้องทดลองหนึ่งของ Dyson ประกอบไปด้วยช่อเส้นผมจริงเรียงรายเต็มแผง แต่ละช่อมีสภาพผมที่แตกต่างกันไป ทั้งผมทำเคมี ผมเส้นหนาเล็ก ผมหยักศก ผมเปียก ผมแห้ง ซึ่งยังแตกย่อยออกไปหลายระดับ ซึ่งมองผิวเผินก็คิดว่าอยู่ในซาลอนต่อผม
ทีมวิศวกรของ Dyson ทำการวิจัยตั้งแต่โครงสร้างเส้นผมไปจนถึงพลวัตหรือการเคลื่อนไหวของกระแสลม พร้อมศึกษาเพื่อทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ทำร้ายเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นความร้อน การดูแลที่ไม่เหมาะสม และสารเคมี ไปจนถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อสุขภาพผม ในการจัดแต่งทรงผม เพื่อพัฒนาให้ Dyson Airstrait™ ถูกออกแบบมาได้ตอบโจทย์ทุกสภาพเส้นผมจริงๆ
อีกหนึ่งจุดที่ใครหลายคนอาจมองข้ามคือเรื่องของ ‘เสียง’ เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านจุดที่ไดร์ผมทีไรคิดว่าอยู่กลางพายุ โดยเฉพาะกับไดร์ขนาดใหญ่ ซึ่งที่ Dyson มีห้องวัดระดับเสียงของผลิตภัณฑ์ขณะใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่าเสียงจากตัวอุปกรณ์จะอยู่ในระดับที่พอดี ซึ่งห้องนี้เป็นห้องที่มีออกซิเจนต่ำกว่าข้างนอก เพียงเราเข้าไปแค่ไม่กี่นาทีก็เริ่มรู้สึกหน้ามืดเลยทีเดียว
ระบบอัจฉริยะควบคุมความร้อน
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ครองใจแฟน Dyson คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากระบบอัจฉริยะควบคุมความร้อน เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ Dyson Airstrait™ มีเทอร์มิสเตอร์หุ้มแก้วสำหรับวัดอุณหภูมิกระแสลมที่ปล่อยออกมาได้ถึง 16 ครั้งต่อวินาที ข้อมูลอุณหภูมิดังกล่าวจะถูกส่งไปให้ไมโครโปรเซสเซอร์ที่ทำหน้าที่กำหนดอุณหภูมิ เพื่อให้แน่ใจว่ากระแสลมจะไม่มีอุณหภูมิที่ร้อนเกินมาตรฐานที่ตั้งไว้ เพื่อป้องกันความเสียหายของเส้นผม
Try
บางคนอาจสงสัยว่าผลลัพธ์จากการหนีบผมด้วย Dyson Airstrait™ จะเรียบเท่าการใช้เครื่องหนีบผมแบบดั้งเดิมไหม คำตอบคือ ไม่ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นผมที่ดูตรง แต่ยังมีความพลิ้วเป็นธรรมชาติ ดูมีน้ำหนัก ในขณะที่เครื่องหนีบผมแบบดั้งเดิมจะให้ลุคตรงเรียบเป๊ะดุจใช้เตารีด ซึ่งตรงนี้เรามองว่าขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
View this post on Instagram
สิ่งที่เราชอบคือเครื่องนี้สามารถประหยัดเวลาจริง จากการทดลองทั้งขณะผมเปียก หมาด และแห้ง ก็พบว่าใช้เวลาในการจัดแต่งน้อย ไม่ต้องหนีบซ้ำเยอะ และไม่รู้สึกว่าผมแห้งเสียหลังหนีบ หมดกังวลว่าจะเผลอโดนเครื่องหนีบร้อนๆ ลวกมือไปได้เลย
เครื่องหนีบผม Dyson Airstrait™ พร้อมวางจำหน่ายในราคา 19,900 บาท โดยแฟน Dyson คนไหนที่รอวันนี้มานานสามารถไปจับจองกันได้ที่ Dyson.co.th และ Dyson Demo Store ทุกสาขา ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ แต่หากใครที่รอไม่ไหวอยากได้เครื่องไปใช้เป็นคนแรกๆ ของประเทศไทย สามารถแวะไปจับจองกันได้ที่ Dyson Demo Store สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 25 กรกฎาคม เพียงสาขาเดียวเท่านั้น หรือรอจับจองพร้อมกันวันที่ 1 สิงหาคม นี้ ณ จุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Dyson ทั่วประเทศ
รายละเอียดเพิ่มเติม
Website: https://www.dyson.co.th/th-TH/
Facebook: https://www.facebook.com/DysonTH
Instagram: https://www.instagram.com/dyson_th/
