Delphini คือแบรนด์สกินแคร์น้องใหม่สัญชาติไทยที่น่าจับตามองที่สุดในเวลานี้ การที่แบรนด์ไทยแบรนด์นี้ถูกเลือกให้จำหน่ายใน Sephora ได้นั้นเป็นข้อพิสูจน์ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากพลังของวิทยาศาสตร์และความทุ่มเทของเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่เก่งกาจจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งดีกรีของแต่ละคนที่ร่วมกันคิดค้นสูตรของแบรนด์ Delphini ขึ้นมา บอกเลยว่าทุกคนล้วนมีผลงานการวิจัยระดับโลก ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานกว่า 30 ปี ผสานกับความหลงใหลในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นี่จึงไม่ต่างจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่น่าสนใจภายใต้เป้าหมายหลักที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เมื่อใครได้ใช้จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช้ดีจริง” สำหรับใครที่อยากจะรู้จักกับแบรนด์ Delphini ให้มากขึ้น ตาม THE STANDARD LIFE มาเลย เรารวบรวมทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ Delphini มาให้แล้ว
What is it?
Delphini เป็นแบรนด์สกินแคร์สัญชาติไทยที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2020 เป็นการรวมตัวกันของนักวิทยาศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่แต่ละคนล้วนมีผลงานวิจัยระดับโลกมาแล้วทั้งนั้น ด้วยความสนใจในการดูแลผิว ผสานกับและแพสชันในเรื่องของสกินแคร์ ทีมผู้ก่อตั้งแบรนด์จึงรวบรวมชั่วโมงบินของการทำงานด้านวิทยาศาสตร์จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นนานกว่า 30 ปี ในการวิจัยและคิดค้นสูตรสกินแคร์ที่เน้นในเรื่องของผลลัพธ์ (Result-Oriented) ที่เห็นผลได้จริง โดยผู้ก่อตั้งมองว่าคนส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อสกินแคร์ตามความรู้สึกหรือตามเทรนด์ แต่ Delphini ต้องการเป็นแบรนด์ที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ในเรื่องของประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่ได้ผลและปลอดภัย และอยากให้ผู้บริโภคพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช้ดีจริง” ซึ่งกว่าที่แบรนด์ Delphini จะคิดค้นผลิตภัณฑ์และวางขายโปรดักต์แต่ละตัวนั้นใช้เวลามากกว่า 1 ปี กับการใส่ใจอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการวิจัยและทดลองในห้องแล็บ โดยมีการร่วมทดลองทางคลินิกกับกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้จริงจนแน่ใจว่าสามารถจำหน่าย Delphini ออกสู่ตลาดความงามสกินแคร์ได้อย่างมั่นใจ
The Ingredients
Delphini ให้ความสำคัญกับส่วนผสมหลัก (Active Ingredients) ซึ่งหมายถึงส่วนผสมที่จะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้นเมื่อใส่ในปริมาณที่เหมาะสม ส่วนผสมที่แบรนด์ได้จดสิทธิบัตรเป็นรายแรกและรายเดียวของไทย ได้แก่ Anti-Pollution Complex หรือสูตรต้านมลภาวะ ซึ่งช่วยปกป้องชั้นผิว (Skin Barrier) ไม่ให้ถูกทำร้ายจากมลภาวะและฝุ่นต่างๆ รวมไปถึง PM2.5 ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดสิวผดตามกรอบหน้าและผิวอักเสบแล้ว ยังทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย จึงเป็นที่มาของ Intense Serum with Anti-Pollution Complex ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของแบรนด์ที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เลือกใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น Natural Hyaluronic และ Golden Herb ที่มีการใช้ในวงการการแพทย์มาเป็นเวลานาน และกลายมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางในภายหลัง โดยมีคุณสมบัติเด่นเรื่องปลอบประโลมผิว ลดสิวอักเสบ ซึ่งตรงกับ Tagline ของแบรนด์ ‘ลดสิว สร้างผิวแข็งแรง’
The Product Range
ปัจจุบัน Delphini มีไลน์ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 5 SKU ซึ่งทุกตัวจะช่วยแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับสิวอย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากการสร้างรากฐานของผิวที่แข็งแรง ไอเท็มที่ได้รับการตอบรับดีที่สุดคือ Intense Serum ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องมีติดบ้าน ใช้หมดไปนับขวดไม่ถ้วน ซึ่งแบรนด์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วงที่ทุกคนต้องใส่หน้ากากและต้องเจอกับปัญหาสิวตามกรอบหน้า อีกสินค้าที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้แก่ Anti-Acne Cream ครีมลดสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวเสี้ยน ที่ทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหาสิว ผิวมัน สามารถใช้ต่อเนื่องได้ ไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เหมือนกลุ่มยาสิว ซึ่งวางขายแบบ Exclusive เฉพาะกับ Sephora เท่านั้น ซึ่งแบรนด์มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปลายปีนี้ก็จะมีสกินแคร์ตัวใหม่ออกมา เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและมีวิตามินซีเป็นส่วนผสมหลัก
The Sustainability Efforts
ด้วยความที่ผู้ก่อตั้งเป็นทีมนักวิทยาศาสตร์สาขาชีวเคมี (Biochemistry) Delphini จึงคำนึงถึงองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอยู่เสมอ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตที่เลือกใช้ Ingredient ที่มาจากธรรมชาติ แต่ไม่ทำลายธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ในส่วนของแพ็กเกจจิ้งก็สามารถนำบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ไปรีไซเคิลได้ นอกจากนี้ Delphini ยังพยายาม Endorse ในเรื่องของการใช้สกินแคร์ให้หมดก่อนที่จะซื้อใหม่ ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่สนับสนุนให้เปลี่ยนสกินแคร์บ่อยๆ เพราะสินค้าเหล่านั้นสุดท้ายจะกลายไปเป็น Waste ส่วนเกินในระบบนิเวศได้
ภาพ: Courtesy of Delphini
