ถ้าพูดถึงย่านสีลม-สาทรที่เต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศและนักท่องเที่ยว นอกจากร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่แบบสแตนด์อโลน หรือบ้างก็อยู่ในโรงแรม ศูนย์อาหารเป็นส่วนใหญ่ เราว่าย่านนี้ยังไม่ค่อยมีคอมมูนิตี้ให้พวกเรามานั่งแฮงเอาต์ชิลๆ ด้วยกันได้จริงๆ นั่นล่ะ
‘BLOQyard (บล็อกยาร์ด)’ จึงผุดไอเดียนี้ขึ้นมา เป็นคอมมูนิตี้แห่งใหม่ติดบีทีเอสช่องนนทรีที่รวมทั้งร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมมีสเปซส่วนรวมให้ทุกคนสั่งเมนูจากหลายๆ ร้านมานั่งแฮงเอาต์ด้วยกันได้ เริ่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำไปเลย
Why here?
เราว่าความน่าสนใจของ BLOQyard คือการมีร้านกินดื่มครบทุกสไตล์ในที่เดียว ตั้งแต่อิซากายะ เบอร์เกอร์ สลัด พาสต้า ของหวาน และค็อกเทลบาร์ แถมการตกแต่งก็มีชีวิตชีวาน่าพักผ่อน มาในบรรยากาศกึ่งเอาต์ดอร์ เพราะทุกร้านมีที่นั่งด้านในของตัวเองเช่นกัน ที่สำคัญเดินทางมาง่าย อยู่ไม่ไกลจากโซนสีลม-สาทรด้วย
ส่วนด้านในมีร้านอะไรน่าสนใจบ้าง เราจะพาไปดูทั้ง 7 ร้านเลย
Worth it
No Drama Burger
ร้านแรกที่ทุกคนต้องเจอก็คือ ร้านเบอร์เกอร์สไตล์แอลเอที่ขายอยู่เมนูเดียว Smashburger แถมขายเพียงวันละ 50 ชิ้นเท่านั้น เพราะด้วยขนาดพื้นที่ที่จำกัด ทำให้ร้านทำบันโฮมเมดได้เพียงวันละ 50 ที่ ส่วนไฮไลต์ก็ต้องอยู่ที่แพตตี้เนื้อดรายเอจ กัดแล้วมีความฉ่ำและหอม เข้ากับซอสสูตรประจำร้านกับชีสเยิ้ม ทุกคนเลือกขนาดเบอร์เกอร์ได้ทั้ง Single, Double หรือ 4 Stacks ราคาเริ่มต้นที่ 189-399 บาท
Crepever
จากความชอบตะลุยหาร้านเครปอร่อยๆ กับครอบครัว จนเริ่มทำกินเองที่บ้าน น็อต-วริทธ์ สินทวีวงศ์ จึงตัดสินใจเปิดร้านเครปของตัวเองขึ้นมาแบบจริงจัง ซึ่งความพิเศษของ Crepever ก็คือตัวแป้งที่น็อตกับครอบครัวช่วยกันคิดสูตรขึ้นมาเอง กัดไปแล้วมีความบาง แต่ยังกรอบนาน กินคู่กับไส้แน่นๆ หอมๆ แล้วเข้ากันอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเมนูไฮไลต์ที่ต้องลองคือ ทาโกะยากิ (125 บาท)
Salad Smith
โปรเจกต์ร้านอาหารครั้งแรกของทีม Sloane’s ที่อยากเสิร์ฟอะไรนอกจากเนื้อสัตว์บ้าง พวกเขาจึงหันมาทำสลัดบาร์และเฮลตี้โบวล์ เสิร์ฟอาหารสุขภาพแบบกินอิ่ม มีให้เลือกทั้งแบบ Grab & Go หรือใครจะนั่งกินในร้านก็ได้
ทุกคนสามารถเลือกออกแบบโบวล์ของตัวเองได้ด้วย หรือจะเลือกเมนูที่ร้านมีให้อยู่แล้วก็ได้เช่นกัน โดยราคาเริ่มต้นที่ 229-349 บาท
Scarletta
หนึ่งในโปรเจกต์ใหม่ของทีม Sloane’s หลังจากทำเนื้อรูปแบบต่างๆ กับพาสต้าเส้นสดแบบพร้อมทำ (Ready-to-Cook Box) ส่งให้แห่งอื่นๆ มาสักพัก พวกเขาจึงตัดสินใจเปิดร้านพาสต้าบาร์ของตัวเองขึ้นมาเสียเลย โดยเจ้าของร้านบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารอิตาเลียน แต่เป็นร้านพาสต้าที่ทุกคนแวะมาสั่งอาหารหนึ่งอย่าง จิบไวน์หนึ่งแก้วได้แบบไม่ต้องพิธีรีตองมาก ส่วนราคาอาหารเริ่มต้นที่ 275-395 บาท
Nihon Saiseisakaba
ร้านอิซากายะแบบยืนกินสไตล์มตสึยากิจากประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อมาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยอยู่ที่ Warehouse 26 ย่านสุขุมวิท จึงออกแบบให้มีที่นั่งด้วย เช่นเดียวกับสาขาใหม่ใน BLOQyard โดยที่นี่เชี่ยวชาญเรื่องการจัดการส่วนต่างๆ ของหมูแบบ Nose-to-Tail แถมต้องส่งเชฟไปเรียนถึงประเทศต้นตำรับก่อนมายืนเสิร์ฟอาหารให้เราชิม เพราะฉะนั้นแต่ละคำ แต่ละชิ้นส่วน รับรองว่ารสชาติใกล้เคียงกับสาขาต้นฉบับ
เมนูที่ต้องลองก็มี เนื้อซี่โครง (149 บาท), ตับ (49 บาท), คอหอย (99 บาท), หลอดลม (79 บาท) หรือ ซึคุเนะลูกชิ้น (79 บาท)
The Fresh Mix
บาร์ค็อกเทลสไตล์อเมริกันไวบ์สนุกสนาน เปิดอยู่บนชั้น 2 ของโครงการ BLOQyard เน้นหยิบวัตถุดิบท้องถิ่นมาเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มน่าสนใจ นำโดย เดวิด บาร์เทนเดอร์และเจ้าของบาร์แห่งนี้ที่ถือว่าเป็นร้านแรกของเขาเอง หลังจากเดินทางทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์มาแล้วในหลายๆ เมือง เช่น แอตแลนตา ลาสเวกัส โคโลราโด หรือฮาวาย
ตอนนี้ร้านมีซิกเนเจอร์ค็อกเทลอยู่ 8 เมนู เน้นทวิสต์มาจากค็อกเทลคลาสสิกหรือหยิบผลไม้เมืองร้อนมาเป็นแรงบันดาลใจ เมนูแนะนำเช่น Sathorn Sour (350 บาท), Dead Hipster (400 บาท) หรือ Sargeant Pepper (400 บาท)
Kana Pure
ร้านสุดท้ายเป็นคาเฟ่กัญชาของ Kana Wellness Clinic ที่เชี่ยวชาญด้านกัญชาทางการแพทย์ โดยทำร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดน่าน ก่อนจะเปิดแบรนด์ย่อย Kana Pure คาเฟ่กัญชาเพื่อการสันทนาการและดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ
Good for…
หากเป็นช่วงกลางวัน BLOQyard เหมาะกับมานั่งกินมื้อเที่ยงเร็วๆ หรือแวะซื้อขนมมื้อบ่าย แต่หากถึงเวลาหลังเลิกงานหรือตอนค่ำเมื่อไร เราว่าที่นี่เป็นอีกสเปซบรรยากาศดี น่ามานั่งแฮงเอาต์สบายๆ ด้วยกัน เพราะมีร้านนั่งดื่มเปิดจนดึก พร้อมอาหารหลายแบบสำหรับทุกคน
ถ้าวันไหนใครผ่านมาย่านช่องนนทรีแต่ไม่รู้จะแวะกินอาหารที่ไหน ลองมานั่งเล่นที่ BLOQyard ดูกันนะ เพราะเราเองก็คงได้แวะมาที่นี่บ่อยๆ เช่นกัน
Location: BLOQyard
Budget: เริ่มต้น 100-1,000 บาท
Facebook: BLOQyard
Map: