สัมผัสครั้งแรกของทรีตเมนต์ Augustinus Bader ในไทยที่ ESS Wellness & Aesthetics

เราเชื่อว่าสายสกินแคร์ลักชูรีต้องเคยได้ยินกิตติศัพท์ของ Augustinus Bader แบรนด์สกินแคร์สัญชาติเยอรมันในแพ็กเกจจิ้งคู่สีไอคอนิกน้ำเงิน-คอปเปอร์สวยหรู แน่นอนว่านอกจากความโดดเด่นสะดุดตาของภาพลักษณ์แล้ว แน่ทีเดียวว่าคุณภาพก็ต้องดีสมกับความเป็นพรีเมียมแบรนด์ และยังเป็นที่ไว้วางใจในวันสำคัญของเหล่าเซเลบริตี้แถวหน้าของวงการ เช่น Sharon Stone, Emily Ratajkowski, Julia Garner, Barbie Ferreira ฯลฯ

View this post on Instagram

A post shared by Augustinus Bader Thailand (@augustinusbader_th)

แบรนด์นี้ถือกำเนิดโดย Augustinus Bader ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาสาขาสเต็มเซลล์ และแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ที่ได้แรงบันดาลใจจากการรักษาผู้ป่วยที่ถูกไฟลวกโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือปลูกถ่ายผิวหนัง แต่ให้ร่างกายเป็นนักบำบัดที่ดีที่สุดของตนเอง จากการค้นคว้าวิจัยด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์มากว่า 30 ปี

View this post on Instagram

A post shared by Augustinus Bader Thailand (@augustinusbader_th)

เขาได้ค้นพบส่วนผสมเอกสิทธิ์อันเป็นหัวใจหลักของแบรนด์อย่าง TFC8® ด้วยการผสมผสานของกรดอะมิโนธรรมชาติ วิตามินคุณภาพสูง รวมถึงโมเลกุลสังเคราะห์ที่พบตามธรรมชาติในผิวหนัง และได้นำมาไว้ในทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ก็ได้วางจำหน่ายในไทยมาร่วมสองปีแล้ว ทว่าข่าวดีที่จะทำให้แฟนๆ Augustinus Bader ใจฟูก็คือ ล่าสุดแบรนด์ได้จับมือเป็นพาร์ตเนอร์กับ ESS Wellness & Aesthetics คลินิกเสริมความงามชั้นนำย่านเอกมัยในการรังสรรค์ Augustinus Bader Facial Treatment ทรีตเมนต์ผิวด้วยผลิตภัณฑ์ Augustinus Bader แบบจัดเต็มเป็นครั้งแรก และถือเป็นที่แรกในประเทศไทยอีกด้วย

What is it?

ESS Wellness & Aesthetics เป็นคลินิกเสริมความงามที่เชื่อว่า “Beauty & Bliss are Our Essentials – เพราะเราเชื่อมั่นว่า ความสวยและความสุขนั้น คือสิ่งสำคัญ”

แค่ก้าวเข้ามาในตัวคลินิกก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นเย็นใจเหมือนสปา ด้วยบรรยากาศที่โปร่งสบาย มองเห็นต้นไม้เขียวขจีด้านนอก ทุกอย่างดูสะอาดสบายตา

พื้นที่ภายในคลินิกมีทั้งห้องรับรองอย่างเป็นส่วนตัว มีโซนสำหรับดริปวิตามินที่หันหน้าเข้าหน้าต่าง และห้องทรีตเมนต์แยกเป็นสัดส่วน

เดิมทีที่ ESS จะเลื่องชื่อเรื่องทรีตเมนต์ของ Biologique Recherche แบรนด์สกินแคร์พรีเมียมสายนิชเก่าแก่จากฝรั่งเศสที่สามารถดูแลและจัดการกับปัญหาผิวได้อย่างล้ำลึก ซึ่งการได้มาจับมือกับ Augustinus Bader ในฐานะ Wellness Partner แรกในไทยได้สร้างความฮือฮาให้กับแฟนตัวยงของแบรนด์นี้ รวมถึงเหล่าลูกค้า ESS ด้วยเช่นกัน

สำหรับ Augustinus Bader Facial Treatment ใหม่แกะกล่องนี้จะช่วยเน้นเรื่องการยกกระชับผิวและกรอบหน้า ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อใบหน้า เผยผิวเนียนนุ่ม แลดูกระจ่างใสขึ้นทันที นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณทั่วใบหน้า ลำคอ บ่า ไหล่ และมือระหว่างทรีตเมนต์อีกด้วย

Experience

ไม่รอช้า ขอกระโดดขึ้นเตียงดูดวิญญาณของที่นี่ที่แค่เอนตัวลงก็พร้อมหลับแล้ว เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าด้วย The Cream Cleansing Gel เทคนิคการล้างหน้าของที่นี่จะไม่ใช่แค่การวนคลีนซิ่งบนผิว แต่เป็นการนวดไปด้วย เรียกว่าได้ผ่อนคลายตั้งแต่สเต็ปแรก

หลังจากเช็ดทำความสะอาดผิวอย่างเบามือด้วยผ้าอุ่นแล้วจึงต่อด้วย The Essence เอสเซนส์อันเลื่องชื่อที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนพร้อมปรับสมดุลของผิว โดยจะเป็นการหยดลงบนสำลีหมาดแล้ว Tapping ทั่วใบหน้า

ต่อด้วย The Face Oil เพื่อช่วยเติมความยืดหยุ่นและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ขั้นตอนนี้เทอราปิสต์จะใช้เทคนิคนวดกดจุดเพื่อเพิ่มความผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั่วใบหน้า ผสมผสานเทคนิคยกกระชับตามแนวมัดกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น

ออยล์สำหรับใบหน้าอย่างเดียวไม่พอ ทรีตเมนต์นี้ยังเพิ่มความผ่อนคลายมากขึ้นด้วยการนวดมือและแขนล่างด้วย The Body Oil ต้องขอชื่นชมว่ารีดโดนเส้นทั้งแขนแบบฟินสุดๆ

สเต็ปต่อไปเพิ่มความเข้มข้นในการบำรุงด้วย The Face Cream Mask ที่ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส พร้อมเสริมสร้างการผลิตคอลลาเจนไปในตัว

ระหว่างที่มาสก์นั้นเราจะไม่ได้นอนเฉยๆ เทอราปิสต์จะมอบความฟินต่อด้วยการนวดกดจุดและคลึงเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั่วศีรษะ แล้วตามด้วยการกลิ้ง Cryo Sticks เย็นฉ่ำบนผิวเป็นเวลา 5 นาทีก่อนล้างมาสก์ออก ขั้นตอนนี้เป็นอะไรที่สบายผิวมากจริงๆ

ปิดท้ายด้วยการบำรุงแบบครบจบทุกสเต็ป เริ่มที่ The Serum ที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น ซึมซาบไว

เพิ่มความกระชับของผิวพร้อมลดอาการบวมใต้ตาด้วย Eye Cream ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าผิวรอบดวงตานั้นบอบบางกว่าผิวบริเวณอื่นเป็นพิเศษ แต่เทอราปิสต์สามารถลงน้ำหนักมือได้อย่างเบาและให้ความรู้สึกผ่อนคลายเคลิ้มชวนหลับอีกรอบ

ต่อด้วย The Cream มอยส์เจอไรเซอร์ตัวดังที่ควรมีติดบ้านด้วยคุณสมบัติในการเติมความสดชื่นให้แก่ผิวในทันทีที่ใช้ เผยผิวดูเปล่งปลั่งแบบสุขภาพดียิ่งขึ้น สำหรับใครที่ผิวแห้งมาก เทอราปิสต์จะสลับไปใช้เป็น The Rich Cream แทน

ปิดท้ายด้วยการเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากด้วย Lip Balm

Result

ในช่วงระหว่างทรีตเมนต์ เทอราปิสต์จะนำกระจกมาให้ส่องหลังจากนวดเสร็จครึ่งหน้าเพื่อเทียบให้เห็นความต่าง เห็นได้ชัดเลยว่าใบหน้ามีความยกกระชับขึ้นทันที ผิวหน้ามีความเอิบอิ่ม เนียนเรียบ และชุ่มชื้นขึ้น เมื่อเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ว ผลลัพธ์สำหรับเราคือผิวดูโกลวแบบสุขภาพดี สามารถออกไปใช้ชีวิตแบบหน้าสดหลังทำทรีตเมนต์ได้เลย

Good for…

ใครที่ชอบนวดหน้าจริงจังและมองหาการปรนนิบัติผิวด้วยสกินแคร์ระดับพรีเมียมที่สามารถช่วยกู้ให้ผิวอิดโรยดูสดใส เปล่งปลั่ง ดูกระชับขึ้นทันที เราอยากให้มาลองทรีตเมนต์ตัวใหม่นี้ที่ ESS นอกจากนี้ต้องขอชื่นชมว่าเทอราปิสต์ที่นี่เชี่ยวชาญมาก นอกจากจะนวดให้เราแบบมืออาชีพแล้ว ยังแนะนำเทคนิคให้เรากลับไปนวดหน้าด้วยตัวเองที่บ้านเพื่อให้ผิวยกกระชับในระยะยาวอีกด้วย