ในชีวิตที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน หลายคนอาจมองข้ามสิ่งสำคัญอย่างการนอนหลับ ทั้งที่จริงแล้วการนอนคือช่วงเวลาที่ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง และช่วยให้สมองจัดระเบียบข้อมูลใหม่ การนอนอย่างมีคุณภาพจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการมี Longevity ที่ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีทั้งทางกายและใจอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันเราเองมีอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable device) มากมายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราเข้าใจการนอนมากขึ้น ล่าสุด Apple ได้ต่อยอดแนวคิดนี้ด้วย “Sleep Score” ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นภาพรวมของคุณภาพการนอนในแต่ละคืนได้อย่างชัดเจน ซึ่งเราสามารถใช้งาน Apple Watch ตรวจจับได้เลย
และเพื่อทำความเข้าใจเบื้องหลังการออกแบบและแนวคิดของฟีเจอร์นี้ยิ่งขึ้น ได้พูดคุยกับดร. Matt Bianchi นักวิจัยด้านสุขภาพจากทีม Health Technologies ของ Apple และผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและเวชศาสตร์การนอน (Board-Certified Neurologist & Sleep Medicine Specialist) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและตรวจสอบความถูกต้องของฟีเจอร์ด้านการนอนทั้งหมดบน Apple Watch
และนี่คือบทสัมภาษณ์พิเศษที่คุณหมอได้แชร์ให้กับ The Standard LIFE
อยากรู้ถึงเหตุผลที่ทำให้ Apple ตัดสินใจให้ การนอนหลับเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญด้านสุขภาพ?
เพราะ Apple มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้คนต่อสุขภาพ และช่วยให้พวกเขาติดตาม ดูแล และเข้าใจสุขภาพของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านฟีเจอร์ที่เป็นมิตรและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เพราะการนอนหลับมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งสุขภาพกายและใจ อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนมากในปัจจุบันกลับประสบปัญหาในการนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายในการนอน เราจึงได้พัฒนาฟีเจอร์อย่างโหมดพักผ่อน (Wind Down) โฟกัสการนอน (Sleep Focus) และ การติดตามการนอน (Sleep Tracking) และในปัจจุบันเรายังมี Sleep Score ที่เพิ่มวิธีที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้เห็นภาพรวมของคุณภาพการนอนในแต่ละคืนได้ดียิ่งขึ้น และใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการปรับพฤติกรรมเพื่อการนอนที่มีคุณภาพและฟื้นฟูร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
อธิบายเพิ่มเติมได้ไหมว่า Sleep Score ใช้ตัวชี้วัดอะไรในการคำนวณ และผู้ใช้ควรอ่านค่าคะแนนอย่างไร?
Sleep Score จะพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ระยะเวลาการนอน (Sleep Duration) ความสม่ำเสมอของเวลาเข้านอน (Bedtime Consistency) และ การถูกรบกวนระหว่างการนอน (Interruptions) ระบบถูกออกแบบให้โปร่งใสและเข้าใจง่าย โดยคะแนนเต็ม 100 คะแนนจะประกอบไปด้วยระยะเวลาการนอน คิดเป็น 50 คะแนน (รวม 40 คะแนนสำหรับชั่วโมงการนอนทั้งหมด และ 10 คะแนนสำหรับการมีช่วงหลับลึกและ REM ถึงระดับขั้นต่ำที่แนะนำ) ความสม่ำเสมอของเวลาเข้านอนคิดเป็น 30 คะแนน การถูกรบกวนระหว่างการนอนคิดเป็น 20 คะแนน (พิจารณาทั้งจำนวนครั้งและระยะเวลา)
ส่วนแนวทางการพัฒนา Sleep Score เราอ้างอิงจากคำแนะนำขององค์กรทางการแพทย์ชั้นนำ ได้แก่ American Academy of Sleep Medicine, National Sleep Foundation และ World Sleep Society
เบื้องหลังของ Sleep Score คืออะไร? ฟีเจอร์นี้มุ่งหมายที่จะทำให้การนอนหลับเหมือนเกมหรือไม่?
จุดประสงค์ของ Sleep Score คือการช่วยให้ผู้ใช้สามารถนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้ความสำคัญกับการนอนให้เพียงพอ มีเวลาเข้านอนที่สม่ำเสมอ และลดสิ่งรบกวนระหว่างการนอน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักการสำคัญของแนวทางการนอนหลับเพื่อสุขภาพที่เผยแพร่โดยสถาบันทางการแพทย์ระดับโลก
แนวทางของเรามุ่งเน้นที่ ความโปร่งใสและเกณฑ์ที่เป็นวัตถุวิสัย ตามข้อมูลจากงานวิจัยทางคลินิก เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจคะแนนของตนเองได้ง่าย และสามารถรู้ได้ว่าควรให้ความสำคัญกับปัจจัยใดเพื่อการนอนที่ดีขึ้น
Apple Watch Ultra3
ถ้าอย่างนั้นผู้ใช้ควรมองการเปลี่ยนแปลงของ Sleep Score ในแต่ละวัน กับ แนวโน้มในระยะยาว อย่างไร?
คะแนน Sleep Score ของแต่ละคนอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละวัน เช่น บางคืนอาจนอนดึกเพราะดูหนังกับครอบครัว หรือบางวันอาจตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะต้องเดินทาง นั่นคือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตปกติครับ
เป้าหมายของ Sleep Score คือการมอบกรอบการประเมินที่อิงหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจว่าการนอนของคุณเป็นอย่างไรในแต่ละคืน และสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นในระยะยาวได้ ข้อมูลทั้งในรายวันและแนวโน้มระยะยาวสามารถดูได้อย่างชัดเจนในแอปสุขภาพ (Health App) เพื่อช่วยสนับสนุนเส้นทางการดูแลการนอนของคุณ
มีคำแนะนำหรือขั้นตอนปฏิบัติใดที่ผู้ใช้ Apple Watch สามารถทำได้เพื่อปรับปรุง Sleep Score ของตนเอง?
จากหลักฐานทางการแพทย์ การนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน และการเข้านอนในเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพ
หากคะแนนลดลงจากการถูกรบกวนระหว่างการนอน เราสามารถปรับสภาพแวดล้อมให้การนอนหลับดีขึ้น เช่น ใช้โหมดโฟกัสการนอน (Sleep Focus) เพื่อปิดการแจ้งเตือนก่อนนอน จัดห้องให้เงียบ มืด และอุณหภูมิสบาย รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอก่อนนอน นอกจากนี้ ผู้ใช้อาจสังเกตเห็นรูปแบบกิจกรรมในช่วงกลางวันที่ส่งผลต่อการนอน เช่น การดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน เป็นต้น
Apple Watch Ultra3
ตอนนี้มี Apple Watch รุ่นใดบ้างที่รองรับฟีเจอร์ Sleep Score?
ฟีเจอร์ Sleep Score ที่รองรับใน Apple Watch ทุกรุ่นที่สามารถใช้งาน watchOS 26 ได้ โดยต้องจับคู่กับ iPhone 11 เป็นต้นไป ที่ใช้ iOS 26 และผู้ใช้ควรสวมใส่ Apple Watch ขณะนอนหลับเพื่อให้สามารถติดตามข้อมูลการนอนได้อย่างถูกต้อง
บทสรุปการนอนที่ดี เริ่มจากการรู้จักตัวเอง
อย่าลืมว่า Sleep Score ไม่ได้มีไว้เพื่อแข่งขัน หรือเพื่อให้เราหมกมุ่นกับตัวเลขเกินเหตุ แต่มีไว้เพื่อให้เราเข้าใจคุณภาพการนอนของตนเองในแต่ละคืนได้อย่างเป็นระบบ และเห็นภาพแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นในระยะยาว เพราะในท้ายที่สุด Longevity สามารถเริ่มต้นได้จากการพักผ่อนที่เพียงพอ และความเข้าใจในร่างกายของเราเอง เพื่อให้เรานั้นมีสุขภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน