×

4 HOURS LIFE with ‘โบว์ลิ่ง Eat & Shout’ แนะนำ 11 ร้านเนื้อสำหรับ Beef Lover!

11.11.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

10 MIN READ
  • เมื่อเราหันไปถามนักกินในวงการว่าจะชวน ‘โบว์ลิ่ง  Eat & Shout’ ไปลุยกินอะไรดี ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คนนี้สายเนื้อตัวจริง!” วันนี้เราจึงจะพาไปดูกันว่า หากมีเวลาเพียง 4 ชั่วโมง เธอจะเลือกพุ่งไปนั่งกินเนื้อที่ร้านไหนบ้าง ใน ‘4 HOURS LIFE with โบว์ลิ่ง Eat & Shout’ กับ 11 ร้านเนื้อที่อยากแนะนำสำหรับสาย Beef Lover!

ใครที่ชอบเรื่องอาหารจะรู้จัก ‘โบว์ลิ่ง-ชลทิพย์ ระยามาศ’ ทั้งในฐานะกรรมการรายการแข่งขันทำอาหาร และเจ้าของอินสตาแกรม ‘Eat & Shout’ ที่ชอบชี้เป้าของกินอร่อยๆ ให้ทุกวี่วัน แต่เมื่อเราหันไปถามนักกินในวงการว่าจะชวนโบว์ลิ่งไปลุยกินอะไรดี ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คนนี้สายเนื้อตัวจริง!” เพราะฉะนั้น ทุกร้านที่เธอเลือกมาจะต้องมีแต่เนื้อเด็ดๆ ดีต่อใจ Beef Lover อย่างแน่นอน

 

“โบว์ชอบกินเนื้อ เป็นมนุษย์ Beef Lover เพราะว่าเนื้อมันมีเสน่ห์ แต่เนื้อที่ดีต้อง Perfect Cook นั่นคือสิ่งสำคัญ การที่โบว์เลือกไปกินเนื้อสักร้านมันไม่ใช่เรื่องของราคา ไม่ใช่เรื่องของคัต แต่มันเป็นเรื่องของการ Cooking ที่เนื้อสุกตามที่เราสั่งพอดี แล้วผิวด้านนอกก็ต้องมีความกรอบเบาๆ จากการย่าง (Crust) กลิ่นเนื้อต้องถูกจริตเรา นี่คือตอบโจทย์ชีวิตโบว์แล้ว”

 

 

วันนี้เราจึงจะพาไปดูกันว่า หากโบว์ลิ่ง Eat & Shout มีเวลาเพียง 4 ชั่วโมง เธอจะเลือกพุ่งไปนั่งกินเนื้อที่ร้านไหนบ้าง ใน ‘4 HOURS LIFE with โบว์ลิ่ง Eat & Shout’ กับ 11 ร้านเนื้อที่อยากแนะนำสำหรับสาย Beef Lover!

 


 

 

Mahasan (มหาสาร)

 

“โบว์ชอบมหาสารเพราะเขาสามารถเอาเนื้อส่วนรอง (Secondary Cut) มาทำให้มันดีจนเกินเนื้อส่วนนิยม (Primary Cut) ได้” โบว์ลิ่งที่กินเนื้อของ Mahasan มาตั้งแต่ร้านเปิดแรกๆ บอก และเล่าให้ฟังว่า “ถ้าย้อนกลับไปก่อนที่มหาสารจะดัง เนื้อใบพายเป็นส่วนที่แทบไม่มีคนกิน มีน้อยร้านมากที่จะเอามาใช้ แล้วตอนนั้นมหาสารก็ใช้เนื้อไทยด้วย แถมเป็นเนื้อ Secondary แต่ทำได้อร่อยแบบที่ลืมไม่ลง”

 

ถ้าใครจองได้ เมนูที่โบว์แนะนำว่าต้องสั่งก็คือ เนื้อใบพาย Flat Iron, ลิ้นย่าง, ไข่ดอง, ซี่โครงหมูทอด

 

Mahasan (เปิดจองเป็นรอบ) ราคาเริ่มต้น 1,000-3,000 บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 16.30-21.30 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/axdNdZDnzbRKh8LG6 

 

 

 


 

 

Ten Suns

 

ร้านนี้อาจดังเรื่องก๋วยเตี๋ยวเนื้อมิชลินไกด์ แต่ด้วยความที่โบว์เป็นสายเนื้อที่ชอบความกรุบ จึงแนะนำเมนู ‘ข้าวหน้าลิ้น’ ของที่นี่เป็นพิเศษ

 

“ข้าวหน้าลิ้นเขาโรยกระเทียมเจียว ราดน้ำนิดหนึ่ง แต่เขาไม่ใช่ลิ้นสไตล์กรุบนะ เป็นสไตล์นิ่มที่มีความกรุบเบาๆ กินกับข้าวที่มีน้ำซอสแล้วเข้ากัน นัวดี”

 

Ten Suns ไร้เทียมทาน 十光 ราคาเริ่มต้น 100-300 บาท เปิดวันอังคาร-เสาร์ เวลา 09.00-16.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/7bGBRUu9JctJGDis6

 

 

 


 

 

ยี่สับหลก

 

อดีตร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ยเจ้าดังที่สืบทอดโดยรุ่นลูก ซึ่งบอกเลยว่าไม่ทิ้งลายพ่อ เพราะเขานำสูตรเนื้อมาต่อยอดเป็นเมนูใหม่ๆ ได้น่ากินมาก โบว์บอกว่ารู้จักร้านนี้เพราะมีคนซื้อมาฝาก ทว่าตอนแรกไม่คาดหวังอะไรกับข้าวหน้าเนื้อจานนี้ แต่กลายเป็นว่าขนาดเดินทางจากร้านมาถึงบ้าน พอกินแล้วกลับยังอร่อย

 

“ข้าวหน้าเนื้อของยี่สับหลกคืออาเมน ต้องใส่พริกน้ำมันของเขาเองด้วย แล้วก็บีบมะนาว ใส่กระเทียมกับพริกสดนิดหนึ่ง กินคู่กันกับเนื้อแล้วอร่อยมาก”

 

26Braised Beef ยี่สับหลก Yih/sahp/luhk -容易淥- สาขาสี่กั๊กพระยาศรี ราคาเริ่มต้น 120-250 บาท เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/ZjrePYVNb7GpaHMS8 

 

 


 

 

วัฒนาพานิช

 

ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่เชื่อว่าหลายคนก็ชอบ นี่คือร้านที่โบว์กินมาตั้งแต่สมัยอยู่โรงเรียนประจำ และเมนูที่กินบ่อยมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ ‘หม้อไฟ’ ใส่เนื้อกระด้ง เนื้อสด 

 

“ทุกวันศุกร์พ่อจะมารับกลับบ้าน แล้วจะซื้อเนื้อวัฒนากลับไปทำหม้อไฟกินกัน เราก็เลยคุ้นชินกับรสชาติเนื้อวัฒนาพานิช ซึ่งโบว์ว่ารสชาติน้ำซุปเขาหาตัวจับยากนะ เขาทำมานานมาก มันมีความนัว เป็นรสชาติที่คุ้นชินด้วย”

 

วัฒนาพานิช ราคาเริ่มต้น 70-600 บาท เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.30 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/787KbGRoYgbn2a996 

 

 

 


 

 

Shabu Nashi

 

“ร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นที่รสชาติซื่อๆ น้ำซุปไม่ปรุงแต่งอะไรมาก อยากให้ได้สัมผัสของเนื้อที่แท้จริง เพราะเนื้อเขาดีมาก มีทั้งเนื้อโลคัล เนื้ออิมพอร์ต มีเนื้อ A4, A5 แล้วเสิร์ฟชิ้นหนึ่งใหญ่ๆ เลย ซึ่งคนที่ช่วยจัดการเนื้อให้ร้านก็คือเชฟจากร้าน 35 Dry Aged Beef”

 

สำหรับร้านนี้ทุกคนเลือกเนื้อที่อยากลองได้เลย เพราะร้านคัดมาให้แล้ว มีให้เลือกหลายเกรด หลายสไตล์ โดยจะเสิร์ฟมาพร้อมเซ็ตชาบู มีผัก ข้าวหรือเส้น และน้ำจิ้มงากับพอนสึ 

 

Shabu Nashi ราคาเริ่มต้น 850 บาท เปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.00 และ 17.00-22.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/jTuayeNi8dsBH3GF6 

 

 

 


 

 

Masa Garden

 

“เรียกว่าเป็นรสชาติที่คุ้นเคย เพราะกินมานานเกือบ 10 ปีแล้ว เวลาไปกินจะมีทั้งชาบู สุกี้ยากี้ ซึ่งถ้าย้อนกลับไปหลายปีก่อน สุกี้ยากี้ในเมืองไทยจะมาเป็นซุปน้ำดำแล้วเทเลย แต่ร้าน Suki Masa เป็นร้านแรกๆ ที่เอาน้ำตาลมาเคี่ยวแล้วค่อยๆ ทำทีละชิ้นให้เรา แล้วเนื้อที่ใช้ก็ดี”

 

เนื้อที่โบว์สั่งบ่อยๆ ทุกครั้งที่มาคือ เนื้อวากิวส่วนร่องซี่โครง เพราะจะมีความกรุบๆ หน่อยมาช่วยตัดเลี่ยนเนื้อวากิว A5 แต่ถ้าใครสั่งชาบูชาบู โบว์แนะนำเนื้อ A4 เพราะกินจบแล้วน้ำซุปจะได้ไม่มีไขมันมากเกินไป จะซดน้ำได้แบบไม่เลี่ยน

 

Masa Garden ราคาเริ่มต้น 1,000-2,000 บาท เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/c6d5uzqUBuhS4fiE6

 

 

 


 

 

ชาบูแต้จิ๋ว เลิศเลิศ

 

สายชาบูหม่าล่าต้องตามไปร้านนี้เลย โบว์บอกว่า “ที่นี่เป็นร้านชาบูสไตล์หม่าล่าเจ้าแรกๆ ที่เน้นเนื้อ ชอบตรงที่มีเนื้อให้เลือกเยอะ และหั่นสดๆ โดยใช้มือ เพราะฉะนั้นแต่ละชิ้นเวลากินจะมีรสสัมผัสไม่เหมือนกัน บางชิ้นหนา บางชิ้นบาง ซึ่งมันเป็นเสน่ห์นะ”

 

แถมเนื้อแต่ละส่วนจะมีเวลาแนะนำกำกับมาให้ตอนเสิร์ฟด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะลวกสุกเกินดิบเกิน โดยเนื้อส่วนที่แนะนำคือ ลิ้น น่องหลัง และ ‘เนื้อหิมะ’ ที่ต่อวันมีน้อยมาก เป็นเนื้อขาวๆ แบนๆ ลวกขึ้นมาจะเหมือนกินเอ็นทั้งชิ้น เป็นอีกส่วนที่อร่อย

 

ชาบูแต้จิ๋ว เลิศเลิศ ราคาเริ่มต้น 500-1,500 บาท เปิดทุกวัน เวลา 11.00-00.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/yWYQS8Q4nFn3ZTD1A 

 

 

 


 

 

Korasha Yakiniku

 

ร้านยากินิกุที่ใช้เนื้อพรีเมียม โบว์บอกว่าถ้ามาร้านนี้ต้องลองเนื้อใบพาย เนื้อชาโตบริยองด์ และ ‘ชาบูลิ้น’ ที่ไม่ใช่ว่าไปกินร้านไหนแล้วจะถูกใจ เช่นเดียวกับเมนูลับอย่าง ‘หมี่เย็น’ ที่แตกต่างจากร้านอื่นๆ เหมือนกัน

 

“นอกจากเนื้อร้านนี้จะดีแล้ว เขามีชาบูลิ้นที่จะแล่ลิ้นเป็นแผ่นบางๆ แล้วให้จุ่มกับน้ำดาชิเบาๆ กินคู่กับพอนสึ โอ้โฮ ดีเหมือนกัน ส่วนหมี่เย็นจะไม่ใช่หมี่เย็นน้ำเค็มๆ จะเป็นหมี่เย็นที่เปรี้ยวๆ หวานๆ แล้วเค็มปลาย กินแล้วช่วยแก้เลี่ยนได้ดี”

 

Korasha Yakiniku ราคาเริ่มต้น 1,000-2,000 บาท เปิดทุกวัน เวลา 12.00-15.00 และ 16.30-22.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/79iw9bNPvG6SpiVM8

 

 

 


 

 

Ginzado

 

ร้านเนื้อย่างที่ไม่ใช่แค่คนไทย แต่คนญี่ปุ่นเองก็แวะมาเหมือนกัน โบว์บอกว่า “ชอบร้านนี้เพราะเป็นร้านที่ไม่ต้องคิดเยอะ ราคาก็ดี โดยเฉพาะมื้อกลางวันที่จัดเซ็ตมาให้แล้ว ส่วนเนื้อที่ชอบกินก็คือเนื้อซี่โครง A1 หรือ A2”

 

Ginzado ราคาเริ่มต้น 500-2,000 บาท เปิดทุกวัน เวลา 11.30-22.30 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/h6D8RAFkiCfEs5SCA

 

 

 


 

 

Yakiniku Great 

 

“ร้านโอมากาเสะเนื้อที่เรียงรสชาติเนื้อได้ดี มีการขึ้นลง มีตัวมาตัดเลี่ยน แต่โบว์แนะนำว่าคนที่ไม่ค่อยชอบเนื้อเลี่ยนๆ อาจไม่ถูกจริตกับที่นี่ แต่ถ้าถามว่าอร่อยไหม อร่อยมาก”

 

โดยที่นี่จะเสิร์ฟเนื้อเป็นคอร์ส ถ้าเลือกคอร์สใหญ่สุดแบบโบว์รับรองว่าอิ่มจุกตึงถึงหัวคิ้ว

 

Yakiniku Great Bangkok ราคาเริ่มต้น 2,500-4,900 บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.30-23.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มมื้อกลางวัน เวลา 12.00-14.00 น.) แผนที่: https://maps.app.goo.gl/CHGkMYqV7jiFBtvE8 

 

 

 


 

 

Beauty in The Pot

 

ร้านชาบูสไตล์จีนที่ไม่จีนจนเกินไป แถมมีเนื้อคุณภาพสมราคาให้กินกับชาบูด้วย นี่จึงเป็นอีกร้านที่โบว์แนะนำหากใครเป็นสายชาบูหม่าล่าและอยากได้เนื้อเกรดดีๆ

 

“ร้านชาบูหลายๆ ที่จะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเนื้อ ถ้าอยากกินเนื้อก็ต้องสั่งเนื้อแพง แต่โบว์ไม่ชอบกินเนื้อแพงกับชาบู เพราะว่ามันเลี่ยน จะชอบกินเนื้อดีแค่ประมาณหนึ่ง แบบกินกับชาบูแล้วอร่อยพอดี ซึ่งที่ Beauty in The Pot จะมีจานเนื้อรวม มีหลายๆ ส่วนผสมกันมา กินแล้วกำลังดี” โดยโบว์จะชอบสั่งซุปคอลลาเจนหากมาร้านนี้ เพราะเข้มข้น ซดน้ำซุปได้กำลังดี

 

Beauty in The Pot TH ราคาเริ่มต้น 1,000-3,000 บาท เปิดทุกวัน เวลา 11.00-01.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/XBbYC6BdnBWmwWy48

 

 

 


 

4 HOURS with:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising