×

ชีวิต | รัก | นักกีฬา (3)

13.02.2020
  • LOADING...

 

ภาพ: @shakira / Instagram 

 

1.

 

“ที่นั่นอากาศเป็นอย่างไรบ้าง”

 

ข้อความนี้เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ ความจริงแล้วมันเป็นคำถามโง่ๆ สำหรับชายหนุ่มสักคนที่ไม่รู้จะหาเรื่องชวนหญิงสาวคุยอย่างไร 

 

เพียงแต่บางครั้งเรื่องของหัวใจก็ไม่จำเป็นต้องใช้ความคิดอะไรฉลาดหลักแหลมนัก

 

“อากาศเย็นทีเดียวล่ะ” 

 

ข้อความนี้ถูกส่งกลับมาที่โทรศัพท์ของชายหนุ่ม และไม่ต้องบอกว่าหัวใจของเขาพองโตขนาดไหน

 

ความจริงแล้วทั้งคู่อยู่บนโลกคนละใบ ดาวคนละดวง ในจักรวาลที่ขนานกัน

 

เธอคือนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์ที่ผู้คนทั้งโลกต่างคลั่งไคล้ในตัวเธอ ใช่เฉพาะชายหนุ่ม แม้แต่หญิงสาวเองก็หลงใหลกับเสน่ห์สาวละตินผมสีบลอนด์ ที่มีองค์ประกอบของความงามครบสมบูรณ์ในคนเดียวกัน

 

เขาเองเป็นนักฟุตบอลที่ดังพอสมควร ชื่อเสียงของเขามากพอที่จะทำให้ถูกเชิญเพื่อมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ของเธอ ที่จะเป็นเพลงประจำการแข่งขันในรายการที่เขากำลังจะลงชิงชัยพอดี

 

แต่เขาก็ไม่ได้ดังมากพอที่เธอจะรู้จัก หรืออาจเป็นเพราะเธอไม่ได้สนใจเกมกีฬาชนิดนี้ และคงไม่เข้าใจว่าทำไมคน 22 คนในสนามต้องมาแย่งลูกกลมๆ ลูกเดียวกันด้วย

 

เพลงที่หญิงสาวร้องเป็นเพลงที่สนุก ฟังแล้วคึกคัก แต่น่าแปลกที่หัวใจของเธอนั้นเต้นตึกตักเมื่อได้เห็นภาพของชายหนุ่มปรากฏในมิวสิกวิดีโอของตัวเอง

 

“น่ารักอยู่นะ” เธอแอบคิด โดยไม่ทันรู้ตัวว่าหัวใจของเธอมีธนูที่ถูกคิวปิดน้อยยิงใส่ไปเรียบร้อยแล้ว

 

จากข้อความแรกที่ชายหนุ่มส่งมาหลังได้เห็นเธอขึ้นแสดงในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปแอฟริกา หน้าจอโทรศัพท์ของทั้งสองก็มีแสงแวบวาบตลอดเวลา

 

คำถามโง่ๆ ของเขานำไปสู่บทสนทนาผ่านข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันยืดยาวราวกับไม่มีวันที่ทั้งสองจะยอมปล่อยให้อีกฝ่ายได้อยู่เงียบๆ คนเดียวสักนาที

 

บทสนทนานั้นทำให้ชายหนุ่มมีความมั่นใจบางอย่าง

เขารู้ว่าเธอจะขึ้นแสดงอีกครั้งในพิธีปิดการแข่งขัน วันที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกเฝ้ารอคอยมากว่า 4 ปี เพื่อจะได้ชมการชิงชัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดว่าชาติใดที่จะได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้

 

“ถ้าสเปนได้เข้าชิงผมคงจะได้พบคุณอีกทีใช่ไหม”

 

คราวนี้เป็นหัวใจของเธอบ้างที่เต้นระรัวไม่หยุด – หัวใจเจ้าเอยที่เคยบอบช้ำและเข็ดหลาบกับความรัก กับคนรักเก่าและรักครั้งเก่าที่ทำให้เธอสูญเสียศรัทธาต่อพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

การหย่าร้าง การถูกฟ้องร้อง การขึ้นศาล จำนวนเงินค่าเสียหายที่คนรักเก่าเรียกร้องจากเธอด้วยข้อกล่าวหา “ความสูญเสียในโอกาสทางธุรกิจ” นั้นสำหรับเธอแล้วมันช่างน่าเจ็บปวดราวกับว่าความรักครั้งนั้นไม่เคยมีอยู่จริง และเธอเป็นเพียงแค่คนที่มีหน้าที่ทำเงินให้แก่เขาเท่านั้น

 

ในวันที่หัวใจของเธอถูกโยนทิ้งลงในหุบเหวที่มืดมนอนธการ เขาก็เข้ามา

 

“ในวันที่ฉันไม่รู้สึกถึงความรักในแบบที่มันควรจะเป็น ฉันเริ่มคิดว่าบางทีพระเจ้าคงไม่มีจริงหรอก ทันใดนั้นฉันก็ได้พบกับเคราร์ด และชีวิตของฉันก็เหมือนได้พบกับพระอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าอีกครั้ง”

 

ข้อความโง่ๆ ของเขาคือสิ่งที่กอบกู้หัวใจที่แตกสลายของเธอ ให้ความอบอุ่นในวันที่หนาวเหน็บทั้งที่แสงแดดร้อนแรงแยงท้องฟ้า

ชายหนุ่มผู้เปรียบดัง Waka – เปลวไฟอันลุกโชติช่วงในภาษา Swahili 

 

ชากีรา ขึ้นแสดงในพิธีปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกตามหน้าที่ของเธอ ในชามอ่างยักษ์กลางกรุงโจฮันเนสเบิร์ก ด้วยเพลงเก่งของเธอที่เป็นเพลงของพวกเราทุกคน

 

ที่ห้องพักนักกีฬา เคราร์ด ปิเก ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เขาพาตัวเองและทีมชาติสเปนมาถึงนัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

 

Tsamina mina eh eh 

 

Waka waka eh eh 

 

Tsamina mina zangalewa 

 

This time for… 

 

ภาพ: @lewishamilton / Instagram 

 

2.

 

ในสนามแข่งไม่มีใครแรงไปกว่าเขา

 

ถึงแม้ทีมคู่แข่งจะแต่งรถใหม่มาแรงแค่ไหน แต่คำถามในใจของแฟนรถแข่งฟอร์มูลาวันทั่วโลกมีเพียงแค่คำถามเดียว

 

ลูอิส แฮมิลตัน จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 ได้หรือไม่ในการแข่งฤดูกาลนี้

 

แชมป์ที่จะทำให้เขาขึ้นมาเทียบเท่ากับตำนานตลอดกาลอย่าง ‘ชูมี’ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ยอดนักขับผู้อาภัพที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนเกือบถึงชีวิตในระหว่างการเล่นสกีเมื่อหลายปีก่อน และยังไม่มีใครเคยได้เห็นเขาอีกเลย

 

มากกว่านั้นหลายๆ คน – อาจจะรวมถึงแฟนของชูมีด้วย – เผื่อใจเอาไว้แล้วว่ายอดนักขับชาวอังกฤษคนนี้อาจจะก้าวไปถึงจุดที่สูงกว่านั้น เพราะไม่ว่าจะด้วยฝีมือ ประสบการณ์ และไฟฝัน ในวัย 35 ปีเขายังเก็บรักษามันเอาไว้ได้อย่างดี

 

โดยเฉพาะหัวใจนักสู้ผู้ทะเยอทะยาน เหมือนที่เราต่างเคยได้เห็นมานับไม่ถ้วนถึงความไม่ยอมใครของแฮมิลตัน

 

ในสนามแข่งเขาไม่ยอมให้ใครแรงกว่า

 

นอกสนามแข่งเขาก็ไม่ยอมให้ใครเหนือกว่า 

 

แม้กระทั่งกับพ่อของตัวเอง

 

ใต้ภาพชีวิตและความสำเร็จที่สวยงามของเหล่ายอดนักกีฬา สิ่งที่คนภายนอกอาจไม่เคยรู้คือ มีนักกีฬาจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาครอบครัว

 

ไม่ใช่เฉพาะกับครอบครัวในปัจจุบัน ไม่ใช่กับสามี ภรรยา หรือลูก แต่บ่อยครั้งที่นักกีฬาจะมีปัญหากับคนสายเลือดเดียวกัน เพราะหนึ่งในสิ่งที่เป็นแรงขับสำคัญของชีวิตนักกีฬาเหล่านี้คืออีโก้ คือความทะนงตน ความรู้สึกที่จะทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชนะในสนามแข่ง

 

ครอบครัวแฮมิลตันก็เป็นหนึ่งในครอบครัวนักกีฬาเหล่านั้น

 

และเราอาจจะกล่าวได้ว่าพวกเขาน่าจะเจ็บปวดมากที่สุดในบรรดาครอบครัวนักกีฬาก็ว่าได้

 

ลองจินตนาการถึงภาพของเด็กคนหนึ่งที่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ อยากจะเป็นนักแข่งรถที่เก่งที่สุดในโลก

 

ไม่มีความฝันใดที่ได้มาเปล่าๆ มันมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ และนั่นคือสิ่งที่ แอนโธนี แฮมิลตัน ในฐานะพ่อต้องจ่ายเพื่อเติมเต็มความฝันให้แก่ลูกชาย

 

ราคาที่ต้องจ่ายไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องเงิน แต่ยังมีเรื่องของแรงกาย กำลังใจ และเวลาในชีวิตที่ต้องเสียไป

 

หากลูอิสคือรถแข่ง แอนโธนีก็คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่พร้อมจะเติมให้รถได้วิ่งไปข้างหน้าโดยไม่มีวันหยุด

 

แต่เพราะพ่อก็คือลูก และลูกก็คือพ่อ ทั้งสองคือกระจกสะท้อนของกันและกัน เลือดนักสู้และความไม่ยอมใครของทั้งสองทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยดีถึงคราวร้าวราน

 

ลูอิส ไล่พ่อออกจากการเป็นผู้จัดการที่คอยดูแลชีวิตเมื่อปี 2010

 

และมันทำให้ทั้งสองไม่ได้คุยกันอีกเลยเป็นเวลาหลายปี

 

เหตุผลลึกๆ ของลูอิส คือเขาไม่ชอบที่ถูกพ่อบงการทุกอย่างในชีวิต ควบคุมทุกอย่างไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น

 

แม้แต่คำพูดถ้อยแถลงใดๆ แอนโธนี จะเป็นคนที่เขียนกำกับให้ลูอิสพูดตามทุกครั้ง

 

สำหรับคนหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ที่ก้าวมาถึงจุดสูงสุดของโลกนักแข่งได้แล้ว เขารู้สึกว่าเขาโตเกินกว่าที่จะถูกบังคับเป็นเด็กๆ

 

แต่สำหรับแอนโธนี ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน ในสายตาของเขาลูอิสก็คือเด็กน้อยคนเดิม

 

ลูอิสคือโลกทั้งใบของพ่อ และไม่มีสิ่งใดที่เขากลัวมากกว่าการที่ลูกจะล้มเหลว

 

การถูกลูกปิดประตูใส่ทำให้หัวใจของแอนโธนีแตกสลาย

 

แต่อีกฟากของประตู หัวใจของลูอิสก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมประกอบเช่นกัน

 

อย่างไรก็ดี เมื่อเวลาผ่านพ้นไป คืนและวันค่อยๆ เยียวยาความรู้สึกของทั้งคู่

 

อายุที่มากขึ้นทำให้ลูอิสเข้าใจอะไรได้ดีขึ้น และเขาเริ่มคิดถึงวันเวลาเก่าๆ ที่เคยใช้ชีวิตตัวติดกันกับพ่อ

 

ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง มองตากันอีกครั้ง และหัวใจที่แตกร้าวก็ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมของมันอีกครั้ง

 

คืนหิมะโปรยในปี 2018 ครอบครัวแฮมิลตันได้กลับมาทานคริสต์มาสด้วยกันพร้อมหน้าอีกครั้ง

 

พ่อและลูกที่เคยอยู่ด้วยกันและแยกจากกัน ได้กลับมาอยู่ร่วมกันและใช้จ่ายวันเวลาด้วยกันเหมือนเก่า แม้อาจจะไม่มากเท่าเดิม

 

จากที่เคยถูกพ่อเคี่ยวเข็ญ คราวนี้ลูอิสเป็นฝ่ายเคี่ยวเข็ญพ่อให้หมั่นออกกำลังกายและดูแลตัวเองให้ดี

 

เพื่อที่ทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆ

 

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ลูอิส ตัดสินใจโพสต์ภาพหนึ่งพร้อมข้อความบรรยายความรู้สึก และความสัมพันธ์ของเขาที่มีต่อพ่อและครอบครัว และสิ่งสำคัญที่สุดในโลก

 

“เราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ดังนั้นในการที่ผมได้ใช้เวลาดีๆ กับพ่อในที่สุดแล้วนั้น มันทำให้ผมมีความสุขมากจริงๆ” 

 

ในภาพนั้นคือภาพของพ่อและลูกชายที่เดินกอดคอเคียงกันไปบนชายหาดแห่งหนึ่ง

 

ราวกับจะไม่มีวันที่ทั้งสองจะยอมปล่อยมือจากกันและกันอีกต่อไป

 

 

ภาพ: @sbird10 / Instagram 

 

 

3.

หากคุณตื่นเช้ามาในวันหนึ่ง แล้วพบว่าผู้นำประเทศกำลังวิพากษ์วิจารณ์คนรักของคุณอย่างสาดเสเทเสีย คุณจะทำอย่างไร?

 

โดยเฉพาะหากผู้นำประเทศคือผู้ชายอกสามศอก และคนรักของคุณแม้จะดูแข็งแกร่ง แต่ธรรมชาติโดยกำเนิดของเธอคือผู้หญิงคนหนึ่ง

 

 

สิ่งที่กล่าวถึงข้างบนไม่ได้เป็นเรื่องแต่ง แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเช้าวันหนึ่งของ ซู เบิร์ด นักกีฬาบาสเกตบอลสาวเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกถึง 4 สมัยที่ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้า เพื่อจะพบข้อความบนทวิตเตอร์ที่ประธานาธิบดีในประเทศของเธอ ตั้งป้อมด่าคนรักของเธอราวกับมากดกริ่งแล้วชี้หน้าด่าที่หน้าประตูบ้าน

 

ทั้งๆ ที่คนรักของเธอเพิ่งจะทำให้คนทั้งชาติมีความสุขกับแชมป์ฟุตบอลโลกหญิง

 

สิ่งที่เธอขัดใจเขาก็แค่…ปฏิเสธจะไปเข้าพบที่ทำเนียบขาว 

 

ไม่ได้มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น

 

แต่เอาเถิด ถึงจะงงๆ นิดหน่อยว่า “นี่มันเรื่องจริงเหรอ?” แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หัวใจของเบิร์ดต้องสั่นคลอนอะไรเท่าไร

 

และเธอก็รู้ว่าไม่มีอะไรที่ต้องห่วงคนรัก – เมแกน ราปิโน นักฟุตบอลหญิงที่เก่งที่สุดในโลกเวลานี้ และเป็นนักฟุตบอลหญิงผู้ที่กล้าเปิดเผยตัวตนว่าเธอไม่เคยมอบหัวใจให้กับผู้ชาย เพราะหัวใจดวงเดียวที่เธอมีถูกยกให้นักบาสเกตบอลคนสวยไปเรียบร้อยแล้ว

 

ความพิโรธของ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ถึงกับทำให้ทั้งสองมองเขาเป็นเหมือนโดนัลด์ ดั๊ก ที่ยืนตะโกนโหวกเหวก เพราะลึกๆ แล้วพวกเธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ แค่สองคน ขณะที่อีกฝ่ายคือผู้นำประเทศที่มีอำนาจล้นฟ้า

 

แต่เพราะมือที่กุมกันแน่น ทำให้ซู และเมแกน ไม่กลัวอะไร

 

เมแกน ใช้วิกฤตชีวิต (ที่เธอไม่คิดว่ามันเป็นวิกฤต) เป็นโอกาสในการยกระดับสถานะของเธอจากนักฟุตบอลธรรมดาๆ ให้กลายเป็นวีรสตรีที่ยืนหยัดเพื่อต่อสู้ในเรื่องของสิทธิความเท่าเทียมกันของคนทุกเพศสภาพ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของหัวใจ แต่ยังเป็นเรื่องของปากท้องของนักฟุตบอลหญิงที่ไม่เคยได้รับในสิ่งที่เท่าเทียมกันกับนักฟุตบอลชาย

 

ขณะที่ซู ผู้พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ในวงการของเธอเอง ซูเป็นหนึ่งในสุดยอดนักบาสเกตบอลหญิง เป็นผู้นำคนสำคัญ และมีส่วนช่วยให้วงการบาสเกตบอลหญิงในสหรัฐอเมริกาได้รับความสนใจจากแฟนๆ และนักลงทุนที่มองเห็นคุณค่าของนักกีฬาหญิงที่ทำได้ดีไม่น้อยไปกว่านักกีฬาชาย

 

ในวัย 39 ปี เธอประสบความสำเร็จมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่สิ่งที่เธออยากฝากเอาไว้เป็นผลงานสุดท้าย คือการนำวงการยัดห่วงหญิงไปสู่จุดที่เธอสามารถวางใจได้ว่าจะปลอดภัย และก้าวเดินไปอย่างแข็งแรงในวันข้างหน้า

 

คู่รักคู่นี้จึงเป็นคู่รักที่ทรงอิทธิพลที่สุดคู่หนึ่งในวงการกีฬาสหรัฐอเมริกา

 

อันที่จริงแล้วสิ่งที่ทั้งสองต่อสู้และยืนหยัดนั้นไม่ง่าย เพราะในโลกของความเป็นจริงเราต่างรู้ดีว่าระยะห่างระหว่างนักกีฬาชายและนักกีฬาหญิงนั้นมีระยะทางไกลแค่ไหน

 

มันต้องใช้ความพยายาม กำลังกาย กำลังใจ และเวลาที่ต่อให้ทั้งชีวิตก็อาจจะไม่พอจะได้รับชัยชนะนอกสนามแข่ง

 

แต่อย่างน้อยที่สุดซู ก็มีความสุขที่มีเมแกนอยู่เคียงข้าง

 

ได้เรียนรู้ ได้แบ่งปันความคิด ได้รับและส่งรอยยิ้ม

 

ได้ภูมิใจในตัวคนรัก

 

เธอไม่อยากได้อะไรไปมากกว่านี้

 

ภาพ: @vanessabryant / Instagram 

 

4.

ฉันรู้สึกทำตัวไม่ถูกที่จะถ่ายทอดความรู้สึกของฉันออกมาเป็นคำพูด สมองของฉันปฏิเสธที่จะยอมรับว่าทั้งโคบี และจีจี ได้จากไปแล้ว

 

ฉันไม่สามารถที่จะประมวลผลทั้งสองเรื่องได้ในเวลาเดียวกัน มันเหมือนกับว่าฉันพยายามจะยอมรับว่าโคบีได้จากไปแล้ว แต่ร่างกายของฉันปฏิเสธจะยอมรับว่าจีจีของฉันจะไม่มีวันกลับมาหาฉันอีกตลอดไป

 

ฉันรู้สึกผิด ทำไมฉันจึงสามารถจะลืมตาตื่นมาอีกวัน ในขณะที่สาวน้อยของฉันไม่มีโอกาสแบบนั้นอีก?! ฉันรู้สึกบ้ามาก เธอควรจะได้ใช้ชีวิตไปอีกยาวนาน

 

แต่นั่นทำให้ฉันได้รู้ว่าฉันจำเป็นจะต้องเข้มแข็งเพื่อลูกสาวอีก 3 คนของฉัน 

 

มันบ้ามากที่ฉันจะไม่ได้อยู่กับโคบีและจีจีแล้ว แต่ขอบคุณที่ฉันยังได้อยู่กับนาตาเลีย เบียงกา และคาปรี

 

ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันรู้สึกขณะนี้เป็นเรื่องปกติ มันคือกระบวนการก้าวผ่านความโศกเศร้า ฉันแค่อยากจะแบ่งปันเรื่องนี้กับทุกคนที่เคยมีประสบการณ์ในการสูญเสียแบบเดียวกัน

 

พระผู้เป็นเจ้า ฉันหวังว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่ และฝันร้ายนี้จะจบลงเสียที

 

ขอภาวนาแก่ผู้สูญเสียทุกคนจากเหตุโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ และขอได้โปรดช่วยกันภาวนาให้ทุกคนต่อไป

 

– วาเนสซา ไบรอันต์

 

 

 

FYI
  • ชากีรา และเคราร์ด ปิเก เกิดในวันเดียวกันคือวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และน่าเหลือเชื่อที่เป็นวันที่ชากีราได้ขึ้นแสดงช่วงพักครึ่งของซูเปอร์โบวล์ด้วย
  • รถโกคาร์ทที่แอนโธนีซื้อให้ลูอิสเป็นของขวัญนั้นไม่ใช่รถใหม่ แต่เป็นรถที่ผ่านการมีเจ้าของมาแลัวนับสิบมือ แต่กระนั้นเจ้าหนูลูอิสก็ดีใจที่สุดในโลกอยู่ดี
  • หลังจากที่ เมแกน ราปิโน ถูก โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตโจมตี ทำให้ ซู เบิร์ด ตัดสินใจเขียนบทความลงใน The Players’ Tribune ในหัวข้อว่า ‘So the President F*cking Hates My Girlfriend.’ เพื่อยืนหยัดข้างคนรักของเธอ
  • ร่างของ โคบี ไบรอันต์ และ จานนา ไบรอันต์ ได้รับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และทั้งสองได้พักผ่อนอย่างสงบตลอดกาลในสุสานที่แปซิฟิก วิว เมโมเรีล ปาร์ค โดยในใบมรณบัตรของโคบีระบุว่าเขาคือ ‘นักประพันธ์ โปรดิวเซอร์ และนักกีฬา’ ส่วนของจานนาระบุว่า ‘โค้ช และนักเรียน’
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising