ณ พิมาน 49 อันเป็นที่สิงสถิตของเหล่าร้านอาหารมากมาย บนชั้น 4 ของอาคารสีสันแสบทรวงมีบาร์เล็กๆ แห่งหนึ่งซ่อนเร้นตัวอยู่ ซึ่งเป็นบาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์ผู้กว้างขวางในวงการบาร์ประจำอยู่ที่นั่นเพื่อคอยรังสรรค์ค็อกเทลดีๆ หลังเคาน์เตอร์ สถานที่แห่งนี้เป็นบาร์ที่เรียกได้ว่า ‘คราฟต์’ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ลากยาวมาจนถึงสงครามเย็น จึงไม่น่าแปลกใจที่คอนเซปต์หนักแน่นของที่นี่คือ Propaganda หรือโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ส่วนชื่อร้าน Libértaion ที่แปลว่า ‘การปลดแอก’ ก็เปรียบเสมือนการที่นักดื่มจะมาปลดแอกตัวเองจากปัญหาทางบ้าน ที่ทำงาน เรื่อยไปจนถึงการเมือง  

 

 

The Vibe

ทันทีที่ขึ้นลิฟต์หรือบางคนอาจจะเดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้น 4 คุณจะเจอกับบาร์บรรยากาศสลัวๆ ลึกลับ น่าค้นหา ที่ถูกออกแบบแนวมินิมัลลิสม์ ด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย สะอาดตา แต่แบ่งสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ที่หมายใจจะมาหย่อนก้นลงนั่งรู้สึก ‘ปลอดภัย’ ว่าความลับของพวกเขาจะไม่รั่วไหลออกไปไหน ยิ่งพอเหลือบไปเห็นรูปปั้นเอานิ้วจุ๊ปาก ที่ถ้าไม่หลอนว่าโดนดุเรื่องส่งเสียงดังก็ยิ่งรู้สึกว่าบาร์แห่งนี้มีความมิดชิดปลอดภัย รับประกันได้ว่าความลับจะไม่รั่วไหลออกไปไหนแน่นอน (แต่พอลูกค้าเยอะๆ แน่นๆ ก็กลายเป็นบาร์สปีกอีซี่เก๋ๆ ไปโดยปริยาย) ส่วนเรื่องดนตรี เน้นสไตล์เฮาส์สบายๆ ขยับนิดๆ กระดิกเท้าตามจังหวะหน่อยๆ พองาม เคล้าสุราในมือและแสงไฟอันสลัวของบาร์ได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันแขกที่นั่งอยู่ก็สามารถแลกเปลี่ยนบทสนทนาลับๆ ได้โดยไม่ต้องตะเบ็งเสียงแข่ง

 

 

The Drinks

เนื่องจากแรงบันดาลใจจากโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง พวกเขาจึงนำประโยคหรือเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มาต่อยอดเป็นค็อกเทลให้ทุกท่านได้ดื่มกัน

 

เริ่มจาก Vegan War (390 บาท) ต่อยอดมาจากโฆษณาชวนเชื่อ ‘Dig for Victory’ ในปี 1939 มีส่วนผสมเป็นเหล้าคอร์เดียลแครอตที่ทางร้านทำขึ้นเอง กับสวีตเบซิลที่นำไป redistilled น้ำมะเขือเทศที่มีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีสีแดงจากเปลือกหรือเนื้อเจือปน และผักกาดม่วงที่ทำให้สีของดริงก์ตัวนี้ซึ่งรสชาติออกไปทางเอิร์ธธี (Earthy) เมาท์ฟีลจะเคลียร์ๆ ไม่เหนียวหนืดหรือบาดคอ และที่สำคัญไม่เหม็นเขียวผัก

 

Vegan War

 

Blink1963 (390 บาท) ตัวนี้ได้มาจากเหตุราชนาวีชาวอเมริกันกะพริบตาส่งเป็นรหัสมอร์สให้กับพวกพ้อง ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามแถลงข่าวทางทีวีในช่วงสงครามเย็น ดริงก์ตัวนี้ใช้เบอร์เบิร์นและวิสกี้ในโซนไอเลย์ (Islay) ซึ่งทำให้ดริงก์มีความพีทที (Peaty) และสโมกกี้ เติมด้วยเวอร์มุทที่ถูกเบลนด์มา ตามด้วย D.O.M. และคมบุ ดาชิ ไบรน์ (Kombu Dashi Brine) ที่มอบกลิ่นสาหร่าย ออกรสเค็มหน่อยๆ ก่อนตกแต่งด้วยผำอบแห้ง

 

Blink1963

 

SHHHHZZZZ (390 บาท) ได้แรงบันดาลใจมาจากโปสเตอร์ Silence Means Security ซึ่งเป็นแคมเปญที่แพร่หลายมากระหว่างปี 1941-1954 ตัวนี้จะออกหวานๆ จากอุเมชู เหล้าเชอร์รี Tio Pepe ลิเคอร์แอพริคอต และ Fingers Cordial ซึ่งทำมาจากกระชายและผักแขยง ท็อปด้วยโซดา ตกแต่งด้วยมะม่วงฝานบางๆ

 

SHHHHZZZZ

 

อีกแก้วที่ไม่น่าพลาด Across Borders (390 บาท) มาจากโฆษณาชวนเชื่อ Come on Canada! ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีวัตถุดิบสำคัญเป็นเมเปิ้ลไซรัปผสมกับกระเจี๊ยบ นับเป็นดริงก์ซาวเออร์เบสด้วยคัลวาดอส ลิเคอร์แอพริคอต ไดรเวอร์มุท น้ำมะนาว และไข่ขาว เรียกได้ว่าเป็นดริงก์ที่ดื่มง่าย นุ่มนวลทั้งเรื่องรสชาติและเท็กซ์เจอร์

 

Borders

 

Libération

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 19.00-02.00 น.

Address: โครงการพิมาน 49 สุขุมวิท 49

Budget: 1,000 บาทต่อคน

Contact: 09 3654 2500

Page: www.facebook.com/liberationbkk/

Map:her.is/2Q04ODG