หนึ่งในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย นั่นคือธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า ในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 12.9 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าในปี 2565 ที่มีจำนวน 11.2 ล้านคน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ 25-30 ล้านคน
เมื่อภาคการท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอีกครั้ง แน่นอนว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยตรงอย่างธุรกิจโรงแรมก็ได้รับความสนใจอีกครั้ง เช่นเดียวกับ ‘ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL)’ ซึ่งเป็นกองทรัสต์ที่เข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมระดับ Upper Upscale ขึ้นไป โดยเตรียมลงทุนเพิ่มเติมในโรงแรม 2 แห่ง เพื่อรับโอกาสเติบโตไปกับเทรนด์การท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา
โรงแรม 2 แห่งนี้มีความโดดเด่นอย่างไร เมืองพัทยายังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมอยู่หรือไม่? มาดูกัน!
ทำความรู้จักทรัพย์สินใหม่ 2 แห่งของ LHHOTEL
สำหรับนักลงทุนสายกองทรัสต์ หรือสายอสังหา คงรู้จัก LHHOTEL กันมาบ้าง ในฐานะของกองทรัสต์ที่ลงทุนในโครงการโรงแรมระดับ 5 ดาว 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และการบริหารกองรีทโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LHFund)
แค่ฟังจากชื่อของ Sponsor และผู้จัดการกอง LHHOTEL ก็มั่นใจได้ถึงคุณภาพและความสามารถในการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ LHHOTEL เข้าลงทุน ว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ลงทุนได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ที่อัตราการเข้าพักของโรงแรม 3 โครงการของ LHHOTEL สูงถึงประมาณ 90% โดย LHHOTEL ประกาศจ่ายปันผลรวมครึ่งปีที่อัตรา 0.58 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น Annualized Yield สูงถึงประมาณ 9.6% (บนสมมติฐานราคาต่อหน่วยที่ 12.00 บาท) เลยทีเดียว
นอกจากนี้ LHHOTEL ยังถือเป็นกองรีทประเภทโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งเร็วๆ นี้ LHHOTEL เตรียมลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ในสิทธิการเช่าของโรงแรม 2 แห่งในเมืองพัทยา ด้วยมูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 9,800 ล้านบาท โดยจะมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 540 ล้านหน่วย และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินไม่เกิน 4,500 ล้านบาท
โดยการเพิ่มทุนครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้ LHHOTEL มีขนาดและสภาพคล่องสูงขึ้น แต่ยังช่วยขยายกลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการ และเป็นการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนทรัพย์สินของกองทรัสต์ ให้มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้น ซึ่งหลัง LHHOTEL ลงทุนเพิ่มเติม จะทำให้มีทรัพย์สินในกรุงเทพฯ เป็นสัดส่วนประมาณ 56% และเมืองพัทยาอีกประมาณ 44%
สำหรับโรงแรมทั้ง 2 แห่งที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติม มีรายละเอียด ดังนี้
- โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา: โรงแรมระดับ Luxury จำนวน 490 ห้องพัก ที่มาพร้อมรางวัลด้านการออกแบบระดับนานาชาติหลายรางวัล โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบในธีมอวกาศแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น สวนน้ำอวกาศ Space Water Park ขนาดยักษ์ Convention Hall สุดทันสมัย ออนเซนโรงแรมวิวทะเลแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยว และตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพักได้เป็นอย่างดี โดยโรงแรมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2565 และมีอัตราการเข้าพักในช่วงครึ่งปี 2566 อยู่ที่ 91%
- โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา: โรงแรมระดับ Upper Upscale จำนวน 396 ห้องพัก ในโครงการ Mixed-Use ซึ่งโรงแรมเชื่อมต่อกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา จึงแวดล้อมไปด้วยร้านอาหาร สถานบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน รวมถึงอยู่ห่างจากชายหาดพัทยาเพียง 500 เมตร และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยช่วงครึ่งปี 2566 ที่สูงถึง 91% เช่นเดียวกัน
ทรัพย์สินของ LHHOTEL ในปัจจุบัน (Portfolio)
สำหรับทรัพย์สินของ LHHOTEL ในปัจจุบัน ประกอบด้วยสิทธิการเช่า/เช่าช่วงของโรงแรม 3 แห่ง ในเครือโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ของกลุ่ม ‘แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์’ ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลทอง ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ได้แก่
- โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21: ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกอโศก ใจกลางเมืองย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ โดยอยู่บนศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ติดกับจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้ง BTS สถานีอโศก และ MRT สถานีสุขุมวิท มีความสะดวกสบายในการเดินทาง และสามารถเชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวได้หลากหลาย จึงมีลูกค้าทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเข้าพักเป็นจำนวนมาก
- โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ: อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีราชดำริ ใกล้แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญทางธุรกิจที่มีทั้งอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรมระดับ 5 ดาว สวนสาธารณะ และศูนย์ประชุมใจกลางเมือง
- โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55: อยู่ในซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ซึ่งถนนสุขุมวิท 55 เป็นถนนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงเทพฯ โดยเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม ร้านอาหารที่หลากหลาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังอื่นๆ
สำรวจภาพรวมการท่องเที่ยวไทยและเมืองพัทยา
การฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่พยุงการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวระดับโลก มีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และวิวทิวทัศน์ที่งดงามติดอันดับโลก ประกอบกับเทรนด์ที่เกิดขึ้นหลังยุคโรคระบาด อย่างเทรนด์ Workation หรือ Work From Anywhere ที่เป็นการทำงานออนไลน์ โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้คนออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
ในส่วนของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวแลนด์มาร์กในด้านสถานที่พักผ่อนระยะใกล้ กิจกรรมชายหาด แหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ งานดนตรีหรือสถานบันเทิงยามค่ำคืน และเป็นสถานที่ในการจัดงานเทศกาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมอย่างสม่ำเสมอจากนักท่องเที่ยว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2565 กว่า 14.7 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มองหาสถานที่พักผ่อนจากความวุ่นวายและความเร่งรีบในกรุงเทพฯ ซึ่งเมืองพัทยาก็สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก และท่องเที่ยวได้ง่ายโดยไม่ต้องวางแผนล่วงหน้านาน (Unplanned Vacation) โดยใช้เวลาขับรถเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพฯ เท่านั้น สอดคล้องกับอุปสงค์ของธุรกิจโรงแรมในเมืองพัทยา ซึ่งส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวที่มาเพื่อการพักผ่อน อบรมสัมมนา หรือเข้าพักในระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว และกลุ่มบริษัท
สำหรับใครที่สนใจโอกาสในการร่วมเติบโตไปกับเทรนด์ท่องเที่ยวไทยและ LHHOTEL สามารถติดตามศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lhhotelreit.com
อ้างอิง:
