เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (9 เม.ย.) เวลาประมาณ 10.30 น. กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิความหลากหลายทางเพศ รวมถึงตัวแทนภาคประชาสังคมต่างๆ ทั้งไทยและอาเซียนประมาณ 20-30 คน รวมตัวกันบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตบรูไนดารุสซาลาม ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงจุดยืนและเรียกร้องให้รัฐบาลบรูไนพิจารณาการบังคับใช้กฎหมายอิสลามที่มีโทษรุนแรงถึงขั้นตัดมือ แขวนคอ หรือปาหินจนเสียชีวิตใหม่ เพราะอาจเป็นกฎหมายที่นำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
องค์กรภาคประชาสังคมในอาเซียน 132 องค์กรร่วมลงนามเรียกร้องให้รัฐบาลบรูไนยุติการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญาตามหลักกฎหมายอิสลาม หรือ กฎหมายชารีอะห์ (Sharia Penal Code) เนื่องจากตัวบทกฎหมายดังกล่าวขัดแย้งกับหลักการว่าด้วยสิทธิมนุษยชนสากลที่ประเทศบรูไนได้ลงนามในสนธิสัญญา รวมถึงการให้สัตยาบันในความตกลงระหว่างประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ กฎบัตรอาเซียน รวมถึงอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ และปฏิญญาสิทธิมนุษยชนอาเซียน
โดยนายประเสริฐ แวดือราแม เจ้าหน้าที่กองรับรอง สอท. บรูไน เป็นตัวแทนสถานเอกอัครราชทูตบรูไน รับมอบคำแถลงการณ์ พร้อมระบุจะดำเนินการส่งเรื่องให้เอกอัครราชทูตบรูไน ประจำประเทศไทย รับทราบถึงข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อไป นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายทางเพศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมดหวังว่า บรูไนจะยังคงรักษาชื่อเสียงของประเทศในฐานะ ‘ที่พำนักแห่งสันติสุข’ ของภูมิภาคนี้ต่อไป