นับตั้งแต่ที่เทรนด์สุขภาพได้สร้างปรากฏการณ์ให้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจกับชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองกันมากขึ้น นั่นทำให้ประเด็น ‘คุณภาพชีวิต’ กลายเป็นสิ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงแอลจี ผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ซึ่งล่าสุดได้สร้างสรรค์แคมเปญ LG Wellness ที่มุ่งส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค ทั้งในเชิงสุขภาพกายและสุขภาพจิตผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน โดยมีตัวแทนคนรุ่นใหม่ 3 คนตบเท้าเข้าร่วมแคมเปญในฐานะ LG Wellness Crew ที่มุ่งผลักดันการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและยั่งยืนในหลากหลายมิติของการชีวิตประจำวัน และมีความโดดเด่นในการลงมือทำจริงเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ที่นำไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าอย่างยั่งยืน การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และการออกกำลังกาย โดยยังพิสูจน์ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อยสู่การใช้ชีวิตแบบ #LivingWellness ส่งผลดีต่อทั้งตัวเราเอง ส่วนรวม และโลกของเราทุกคน พร้อมเชิญชวนให้ผู้คนหันมาใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีสุขภาพดีและยั่งยืน โดยเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน
มารีญา พูลเลิศลาภ ได้แชร์คำนิยามของ Living Wellness ในรูปแบบของเธอเอาไว้ว่า “สำหรับมารีญา Living Wellness เกี่ยวข้องกับการบาลานซ์ระหว่างใจและกายของเรา มันสำคัญมากที่เราต้องรักตัวเอง เราต้องกล้าที่จะแสดงตัวตนของเรา ซึ่งมารีญาจะแสดงออกมาในรูปแบบของแฟชั่น และวิธีการแต่งตัวในแบบของตัวเอง”
ระยะหลังที่ผ่านมาเรามักเห็นมารีญาปรากฏตามหน้าสื่อในฐานะหนึ่งในนักเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมตัวยง ซึ่งเธอลงมือกระทำอย่างจริงจัง และมีผลงานด้านสิ่งแวดล้อมให้เห็นมากมาย ในขณะเดียวกันเธอก็ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ไม่เว้นแม้แต่ในเรื่องการแต่งตัว แม้ว่าเธอจะเป็นนางแบบดังและทำงานอยู่ในวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนาน ทว่ามารีญาก็มีจุดยืนเกี่ยวกับแนวคิดในการแต่งตัว โดยแฟชั่นในความหมายของเธอเป็นแฟชั่นที่แตกต่างและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามแบบฉบับของเธอเอง
“เราต้อง Dare to be bold หรือ Dare to be bland ในแบบที่เป็นตัวเอง เพราะแฟชั่นที่เทรนดี้ที่สุดคือแฟชั่นในแบบของตัวเอง สำหรับมารีญา เราพยายามที่จะใช้ชีวิตโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด คิดก่อนซื้อเสื้อผ้าใหม่ และเข้าใจรากเหง้าที่มาของมัน หรือไม่ก็ลองมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการแต่งตัวแล้วสนุกไปกับมัน เช่น การแลกเปลี่ยนเสื้อผ้า (Clothes Swap) การซื้อเสื้อผ้ามือสอง หรือแม้แต่การสร้างลุคใหม่ๆ จากเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้ของเรา เพราะนั่นจะทำให้เรามั่นใจในตัวเองมากที่สุด เมื่อเรามีความมั่นใจในความสวยจากข้างใน เราก็จะรู้สึกดีกับการแต่งตัวแบบ Living Wellness ของตัวเอง”
อันที่จริงแนวคิดของมารีญาไม่ต่างจากเชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ Top Chef Thailand คนแรกของประเทศไทย ที่มีแนวคิดชัดเจนเรื่องอาหารการกินที่ใส่ใจโลก เพราะเธอมีนิยามต่อการใช้ชีวิตแบบ Living Wellness ที่ยึดโยงกับสมดุลของธรรมชาติเช่นกัน “Living Wellness ของตาม คือการใช้ชีวิตตามสมดุลของธรรมชาติมากที่สุดในทุกมิติ ทั้งการทำงาน การดูแลสุขภาพกายและใจ ซึ่งจะทำให้เรามีความสุข”
เมื่อหันมาใส่ใจกับการกินดีอยู่ดี เชฟตามจึงค่อยๆ จัดสรรชีวิตในแต่ละวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อที่เธอจะได้เข้าใกล้กับคำว่า Wellness ที่แท้จริง โดยอาศัยสิ่งที่เธอถนัด นั่นคือการทำอาหาร ให้นำทางเธอไป “การบริโภคอาหารที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น คือ Living Wellness อีกรูปแบบหนึ่งของตาม เวลาทำอาหารเราชอบใช้ผักตามฤดูกาล เพราะนั่นแปลว่าเรารับประทานอาหารตามธรรมชาติคัดสรร อาหารที่ไม่ต้องถูกเร่งให้โตนอกฤดูกาลของเขา จึงทำให้อาหารเหล่านี้มีสารอาหารที่เพียบพร้อมมากขึ้นไปด้วย ซึ่งอาจจะเป็นพืชผักพื้นบ้านที่ปลูกเองในสวน หรือฟาร์มในท้องถิ่นนั้นๆ ก็ได้ เพื่อช่วยลดการขนส่ง แถมยังลดการสร้างรอยเท้าคาร์บอนจากอาหารอีกด้วยค่ะ”
อีกหนึ่งเสียงที่มาร่วมบอกกล่าวความสำคัญของ Living Wellness ก็คือยูทูเบอร์สาวร่างเล็กที่เป็นไอดอลในการออกกำลังกายของหลายๆ คน อย่าง เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา ซึ่งการเวิร์กเอาต์ได้ทำให้เธอได้พบกับนิยามของ Living Wellness ในแบบของเธอเอง นั่นคือ การสร้างสมดุลให้กับลมหายใจ
“สำหรับเบ Living Wellness คือ Work-Life Balance ซึ่ง Wellness ของเบอยู่ที่การออกกำลังกาย เบรักการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว”
เบเบ้ ธันย์ชนก เปลี่ยนตัวเองจากสาวร่างเล็กเป็นสาวร่างลีนด้วยการออกกำลังกาย เธอมักปรากฏกายพร้อมคลิปสอนออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบในช่อง Bebe Fit Routine สิ่งที่ผู้ชมรับรู้ได้เมื่อชมคลิปของเธอ คือ พลังบวกของผู้หญิงคนหนึ่งที่พร้อมจะเป็นเพื่อนออกกำลังกายของทุกคน และความรักในการออกกำลังกายอย่างแรงกล้าของเธอ ส่งผลลัพธ์ให้เธอมีรูปร่างที่ดี สุขภาพแข็งแรง ผิดจากเบเบ้ สาวน่ารักบอบบางในอดีตอย่างสิ้นเชิง ซึ่งบ่อยครั้งเธอมักถูกถามว่า ทำไมถึงสามารถพูดคุยไปด้วยออกกำลังกายไปด้วยได้เหมือนไม่รู้จักเหนื่อย เคล็ด(ไม่)ลับของเธออยู่ที่การควบคุมลมหายใจ
“การหายใจที่ถูกต้องสำคัญมาก ถ้าเราหายใจได้ถูกจังหวะก็จะทำให้เหนื่อยน้อยลง สำหรับเราการควบคุมลมหายใจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการผ่อนคลายจิตใจและร่างกาย และยังช่วยลดความเครียด ดังนั้น หากมีเวลา เราไม่ลังเลที่จะหาโอกาสไปสูดอากาศบริสุทธิ์ เพราะนั่นคือหนึ่งในวิธีสร้างสมดุลให้กับลมหายใจ และนำไปสู่ Living Wellness ค่ะ”
เรื่องราวทั้งหมดจากตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและความยั่งยืนทั้ง 3 คน ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า Living Wellness ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเธอได้ทำให้เห็นแล้วว่าเราสามารถมี Living Wellness ด้วยการใช้ชีวิตที่ดีและยั่งยืนได้จริง และสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน หรือที่ทำงาน ด้วยการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปในแต่ละวัน
ในช่วงสุดท้าย เมื่อถามถึงสิ่งที่ 3 สาวอยากจะฝากถึงผู้บริโภคหรือผู้ที่อยากหันมาใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและยั่งยืนแบบพวกเธอบ้าง มารีญา พูลเลิศลาภ, เชฟตาม ชุดารี และ เบเบ้ ธันย์ชนก เอ่ยเป็นเสียงเดียวกันด้วยความตั้งใจหนักแน่นที่อยากให้ทุกคน “เริ่มต้นลงมือ” ก้าวสู่ความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นไปพร้อมๆ กัน
ใครที่อยากมี Living Wellness เหมือนกับเรา ขอเชิญมาร่วมกิจกรรม #WellnessLiving ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ LG Wellness ด้วยการแชร์ไอเดียในการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพและความยั่งยืนในแบบของคุณ ตามรายละเอียดและกติกาง่ายๆ ต่อไปนี้
- เลือกได้ว่าจะร่วมกิจกรรม #WellnessLiving ทาง Facebook หรือ Instagram
- ไปที่โพสต์กิจกรรม #WellnessLiving บน Facebook page หรือ Instagram ของ LG
- กดติดตาม LG Thailand ไลก์โพสต์กิจกรรม #WellnessLiving และสไลด์ภาพเพื่อรับชมเนื้อหาจากตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตเพื่อ Wellness ในเฟรมถัดไป
- อัปโหลดรูปภาพหรือ Reels เกี่ยวกับ Wellness Living ตามสไตล์ของคุณ
- ติดแฮชแท็ก #LGHealthyHomeSolutions #WellnessLiving #LGThailand
- แท็กเพื่อน 3 คน ให้มาร่วมแชร์ Wellness Living ของตัวเอง
สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 – 10 สิงหาคม 2565 ทางแอลจีจะประกาศผลผู้ชนะในวันที่ 17 สิงหาคม 2565 ทาง Facebook Page และ Instagram Official Account ของแอลจี และทาง DM ของผู้ชนะรางวัล โดยมีเกณฑ์การตัดสินพร้อมรายละเอียดของรางวัล ดังนี้
- โพสต์วิดีโอ Reels ที่มีจำนวนยอดวิวสูงสุดบนช่องทาง Instagram และ/หรือ Facebook รับรางวัลบัตรของขวัญเซ็นทรัล มูลค่า 900 บาท
- โพสต์ภาพหรือวิดีโอ Reels ที่มียอดไลก์สูงสุด บนช่องทาง Instagram และ/หรือ Facebook รับรางวัลบัตรของขวัญเซ็นทรัล มูลค่า 900 บาท
- โพสต์ภาพหรือวิดีโอ Reels ที่โดนใจกรรมการมากที่สุด รับรางวัลบัตรของขวัญจากเซ็นทรัล มูลค่า 500 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ LG Wellness ได้ที่นี่ พร้อมรับชมวิดีโอของแคมเปญได้ที่นี่