LG Electronics และ Samsung Electronics สองยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยนโยบายของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่สนับสนุนการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในห้องเรียน และมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
LG ติดตั้ง ‘ห้องเรียนแห่งอนาคต’ ในโรงเรียน 18 แห่งทั่วเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2023 โดยมีกระดานไวท์บอร์ดดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับหุ่นยนต์ CLOi ที่มาพร้อมกับ AI ซึ่งสามารถตอบคำถามนักเรียนเกี่ยวกับกิจกรรมในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน และเล่นเพลงของบีโธเฟนตามคำขอ
โครงการนี้ได้รับแรงผลักดันส่วนหนึ่งจากการที่เกาหลีใต้นำตำราเรียนดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้ ซึ่งจะเปิดตัวในปีการศึกษาใหม่ที่จะเริ่มในเดือนมีนาคม 2025 สำหรับนักเรียน 5 ล้านคนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย โครงการนี้ถือเป็นโครงการแรกของโลก โดยมี LG เป็นหนึ่งในกว่า 60 บริษัทที่เข้าร่วมในการพัฒนา
ตำราเรียน AI เหล่านี้จะช่วยประเมินระดับความสามารถของนักเรียนผ่าน AI โดยมีเนื้อหาเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่เรียนช้า และเนื้อหาขั้นสูงสำหรับนักเรียนที่เรียนเก่ง นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) เข้ามาในบทเรียนอีกด้วย
เมื่อมีการนำตำราเรียน AI มาใช้ CLOi จะช่วยเหลือครูในห้องเรียน “เราตั้งเป้าจะสร้างห้องเรียนที่สนุกสนานสำหรับเด็กๆ ที่เป็น Digital Natives” หัวหน้าทีมในหน่วยการศึกษาของ LG กล่าว
ตำราเรียน AI จะเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องมากมาย ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตไปจนถึงไวท์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์
ในเดือนมิถุนายน Samsung ประกาศเปิดตัวจอแสดงผลใหม่ที่ติดตั้ง Generative AI ซึ่งออกแบบมาสำหรับโรงเรียน โดยครูสามารถสั่งงานด้วยเสียงจากทุกที่ในห้องเรียนไปยัง AI ซึ่งจะถอดเสียงหรือสรุปบทเรียนโดยอัตโนมัติ ครูไม่จำเป็นต้องยืนอยู่หน้าห้องเรียนอีกต่อไป ทำให้พวกเขาสามารถเดินไปหานักเรียนเพื่อให้ความสนใจแบบตัวต่อตัวได้มากขึ้น
NAVER บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ พัฒนาแอปสำหรับการศึกษาและให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ในขณะที่ Kakao มีแอปสำหรับติดต่อผู้ปกครองหรือผู้ดูแลนักเรียน
แม้ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมในห้องเรียน แต่ก็ยังมีหนทางอีกยาวไกล ซึ่งทำให้มีโอกาสเติบโตในระยะยาว โดย Samil PwC ของเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ตลาด EdTech ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจาก 4.04 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เป็น 8 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2030
เฉพาะในเกาหลีใต้ ซึ่งมีอัตราการเกิดต่ำ Samil PwC คาดการณ์ว่าประชากรวัยเรียนของประเทศ (อายุ 6-21 ปี) จะลดลงจาก 7.89 ล้านคนในปี 2020 เหลือประมาณ 6 ล้านคนในปี 2030 ทำให้หลายบริษัทกำลังพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีในประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะนำไปใช้ในต่างประเทศก่อนคู่แข่ง
LG มุ่งเป้าไปที่ญี่ปุ่น โดยมีแผนจะเปิดตัวห้องเรียนแห่งอนาคตในปี 2024 ญี่ปุ่นเปิดตัวโครงการ GIGA School ในปี 2019 โดยมีเป้าหมายที่จะจัดหาอุปกรณ์หนึ่งเครื่องสำหรับนักเรียนทุกคนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงตลาดของ LG
LG ยังได้เข้าสู่ตลาดอินเดีย โดยขายไวท์บอร์ดดิจิทัลรวม 10,000 เครื่องให้กับโรงเรียนของรัฐ 2,900 แห่งในรัฐโอฑิศา ทางตะวันออกของประเทศ บริษัทจัดตั้งสาขาในอินเดียในปี 2023 และตัวแทนเดินทางไปยังหมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสอบถามความต้องการของโรงเรียน
NAVER บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ของมองโกเลียในฤดูใบไม้ร่วงปี 2023 ซึ่งจะให้แพลตฟอร์ม 22,000 ชุดสำหรับนักเรียนใน 725 โรงเรียน
ทำให้ไม่แปลกที่การแข่งขันในตลาด EdTech ทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกเข้ามาลงทุนในตลาดนี้กันอย่างคึกคัก
อ้างอิง: