ใช้ชีวิตอย่างไร? เมื่อต้องอยู่ในเมืองที่อากาศแย่อันดับ 4 ของโลก [ADVERTORIAL]

ช่วงนี้รู้สึกท้องฟ้าไม่สดใสเหมือนเคยใช่หรือเปล่า? ตอนนี้ชีวิตมีเรื่องให้ต้องใส่ใจมากขึ้นใช่ไหม? 

 

การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองทุกวันนี้ นอกจากจะต้องตื่นแต่เช้า วางแผนการเดินทางให้ดีที่สุด เพื่อเลือกเส้นทางที่รถติดน้อยที่สุด อีกปัญหาที่คนเมืองทั้งหลายกำลังเจอก็คือ ปัญหาฝุ่นควันพิษที่กำลังคุกคามหลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร 

 

เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ IQAir ได้จัดอันดับให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีอากาศแย่เป็นอันดับ 4 ของโลก เดือนแห่งความรักจึงไม่ได้มีแต่เรื่องหวานโรแมนติกเท่านั้น หากแต่ยังมีปัญหาคาราคาซังที่คนกรุงเทพฯ ต้องอดทนมาเป็นเวลาหลายปี หนักหน่วงจนสถานศึกษาและออฟฟิศบางพื้นที่ถึงกับต้องประกาศให้เรียนออนไลน์หรืองัดนโยบาย Work from Home ออกมาใช้กันอีกหน 

 

เพื่อรอวันฟ้าหลังฝุ่นที่ทุกคนจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นใจอีกครั้ง

 

 

ฝุ่นควันพิษ…ก่อมลพิษทั้งกายและใจ

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า 7 ล้านคนคือจำนวนของผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศในแต่ละปี โดยกลุ่มประเทศแอฟริกาและเอเชียได้รับผลกระทบมากที่สุด 

 

โดยเฉพาะฝุ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 2.5-10 ไมครอน หรือ PM10 และฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ที่เล็ดลอดเข้ามาในบ้านได้สบายๆ หากสูดดมเข้าไป ฝุ่นขนาดเล็กเหล่านี้จะเข้าไปฝังอยู่ในปอดและระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรง อย่างเช่น โรคหัวใจ โรคปอดบวม โรคมะเร็ง รวมถึงภาวะเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน 

 

 

แต่นอกจากผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ฝุ่นควันพิษหรือมลพิษทางอากาศยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตอย่างร้ายแรง โดยงานวิจัยพบว่า การสัมผัสมลพิษทางอากาศ แม้ในระดับต่ำ แต่หากสะสมเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และมีส่วนสัมพันธ์กับความคิดอยากฆ่าตัวตาย

 

ปัญหาอากาศเป็นพิษจึงยิ่งซ้ำเติมสุขภาพจิตของคนให้ย่ำแย่ลงยิ่งขึ้น 

 

 

ฝุ่นเดือนเมษายน…เดือดกว่านรก 

เข้าสู่เดือนเมษายน ฝุ่นควันยังไม่ทันจาง ชีวิตของเราทุกคนก็คล้ายกับถูกซ้ำเติมอีกครั้งจากแสงแดด อากาศที่ร้อนระอุและอุณหภูมิที่เดือดขึ้นเรื่อยๆ ข่าวร้ายก็คือ ปีนี้อุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่าปีที่แล้ว โดยสูงสุดอยู่ที่ 43 องศาเซลเซียส 

 

นั่นแปลว่า สงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้อาจไม่ใช่สงกรานต์ที่ชุ่มฉ่ำ หากแต่เป็นสงกรานต์ที่เดือดยิ่งกว่านรก แถมยังต้องเสี่ยงกับฝุ่นควันและมลพิษในเมือง จะออกจากบ้านก็ร้อน จะอยู่บ้านก็อบอ้าว แถมยังเป็นชีวิตที่ไม่ Healthy เอาเสียเลย 

 

 

บอกลาฝุ่น…เปิดประตูสู่ความสดชื่น

ในวันที่ฝุ่นบนฟ้าไม่เป็นใจ ในวันที่อากาศร้อนไม่ปราณี การได้เครื่องปรับอากาศดีๆ มาใช้ในบ้านน่าจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้การอยู่บ้านของเราเป็นเรื่อง Happy มากขึ้น 

 

ซึ่งเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ๆ ตอนนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องการปรับอุณหภูมิให้เย็นสดชื่นเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติในการช่วยกรองอากาศ กรองฝุ่นขนาดจิ๋ว อย่างเช่น PM2.5 ได้แบบสบายๆ อย่างเช่น เครื่องปรับอากาศจากแบรนด์ LG ที่เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่คนทั่วโลกไว้วางใจ ตอบโจทย์มากๆ ในช่วงที่เราต้องการเครื่องปรับอากาศดีๆ มาเป็นตัวช่วย 

 

 

LG DUALCOOL Master (IHQ) ช่วยให้คุณบอกลาฝุ่น พร้อมเปิดประตูสู่ความสดชื่น ด้วย 2 คุณสมบัติที่ทำให้ LG ขึ้นแท่นเป็นผู้นำเครื่องปรับอากาศที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เช่น ฟิลเตอร์ 2 ชั้น กรองฝุ่นขนาดใหญ่ รวมถึง PM2.5 และเทคโนโลยี Plasmaster Ionizer⁺⁺ ที่สามารถขจัดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในอากาศได้ 99.9%^[1] และยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์^[2] ภายในบ้านได้อีกด้วย 

 

สะดวกสบายมากขึ้นด้วยการควบคุมสั่งงานแบบสมาร์ทผ่านแอป LG ThinQ รวมทั้งมอบความอุ่นใจในการใช้งานมากขึ้นด้วย Volt Care แผง PCB ทนไฟตก ไฟกระชาก และทนทาน ใช้ท่อน้ำยาทองแดงแท้เคลือบอีกชั้นด้วย Gold Fin^TM สารเคลือบกันสนิมลิขสิทธิ์เฉพาะจาก LG  พร้อมการรับประกันคอมเพรสเซอร์ DUAL Inverter นานถึง 10 ปีเต็ม

 

 

ฤดูร้อนนี้ ถึงข้างนอกจะร้อนแค่ไหน แต่ข้างในก็ยังเย็นเร็ว แถมยังประหยัดไฟด้วย เพราะแอร์ LG ใช้คอมเพรสเซอร์ระบบ DUAL Inverter จึงสามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับอุณหภูมิได้คงที่โดยเครื่องไม่ตัดการทำงานบ่อยๆ จึงประหยัดไฟได้มากกว่า การันตีด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 3 ดาว ค่าไฟเพียง 13 บาทต่อวัน^[3]  

 

ดังนั้นใครที่อยากสร้างสรรค์บรรยากาศในบ้านให้เย็นสดชื่นตลอดทั้งวัน เครื่องปรับอากาศดีๆ ที่มีครบครันทุกฟังก์ชัน ทั้งกรองฝุ่น กำจัดแบคทีเรีย ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังประหยัดไฟ คือตัวช่วยที่จะเปลี่ยนเดือนเมษายนที่แสนเดือด ให้กลายเป็นเดือนแห่งความ Happy และ Healthy ไปอีกนาน 

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://bit.ly/41AKuht

 

อ้างอิง:

• ^[1] ได้รับการรับรองจากสถาบัน TUV (ประเทศเกาหลีใต้) ว่า Plasmaster Ionizer สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ติดอยู่ได้ถึง 99% (3 ชนิด คือ Staphylococcus aureus, Escherichia coli และ Pseudomonas aeruginosa)
• ^[2] ได้รับการตรวจสอบโดยสถาบัน Intertek แล้วว่า ความเข้มของกลิ่นยาสูบลดลงจาก 3.6 เป็นต่ำกว่า 1.5 หลังผ่านไป 60 นาที (โทลูอีน, แอมโมเนีย และกรดอะซิติก)
• ^[3] เฉพาะรุ่น IHQ10