หนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าและกางเกงยีนส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Levi’s ตั้งเป้าหมายใหม่ในการเป็นแบรนด์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้ได้ภายในปี 2050
โดยเป้าหมายนี้เกิดขึ้นในการแถลงรายงานด้านความยั่งยืนของบริษัทประจำปี 2021 ของบริษัท Levi Strauss & Co. ที่มีการอัปเดตเป้าหมายเดิมที่แบรนด์เคยตั้งไว้ตามพื้นฐานสามหัวใจหลัก อันได้แก่ ด้านสภาวะอากาศ ด้านการบริโภค และการสร้างคอมมูนิตี้
และนับตั้งแต่ปี 2018 ทาง Levi’s ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Science-Based Targets (SBT) หรือการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับเป้าหมายของข้อตกลงปารีสบนพื้นฐานทางภูมิอากาศวิทยา โดยข้อมูลการปล่อยก๊าซของ Levi’s อยู่ที่ 2.7 ล้านเมตริกเมื่อปี 2016
ส่วนด้านการรักษาน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญในการฟอกสีผ้าเดนิม ทาง Levi’s ระบุว่า ได้ลดการใช้น้ำผ่านโครงการ Water>Less ที่ช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 11,500 ลิตร นับตั้งแต่มีการเริ่มโครงการนี้ในปี 2011
นอกจากนี้ด้านการสร้างคอมมูนิตี้ Levi’s ได้ตรียมความพร้อมเข้าสู่การดำเนินธุรกิจแบบหมุนเวียนผ่านตัวชี้วัดของมูลนิธิ Ellen MacArthur Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ช่วยพลักดันนโยบายของบริษัทให้มีความยั่งยืน และใช้ทรัพยากรอย่างหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งเรื่องการใช้พลาสติกรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์ และการบริโภคสินค้าแบบใช้ซ้ำ ที่สอดคล้องกับแคมเปญใหม่ของแบรนด์อย่าง Buy Better, Wear Longer ที่สนับสนุนให้ลูกค้าซื้อสินค้าและใช้ให้นานที่สุด
ภาพ: Levi’s
อ้างอิง: