วานนี้ (27 พฤศจิกายน) หลังสภาพอากาศที่เลวร้าย ฝนพัดกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนเป็นเหตุให้บางพื้นที่บนเกาะอิสเกียของอิตาลีมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและเกิดเหตุดินโคลนถล่ม มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย และอีกอย่างน้อย 5 รายยังคงสูญหาย ขณะที่บ้านเรือนและยานพาหนะจำนวนหนึ่งบ้างก็จมอยู่ในทะเล บ้างก็จมอยู่ภายใต้ดินโคลน
เบื้องต้นทีมกู้ภัยของอิตาลีกำลังเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มกำลัง ขณะที่ทางการท้องถิ่นของเกาะอิสเกียชี้ว่า พายุฝนดังกล่าวนับเป็นพายุฝนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปีของเกาะทางตอนใต้ของอิตาลีแห่งนี้
โดยเกาะอิสเกียถือเป็นหนึ่งในเกาะของอิตาลีที่มีประชากรอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น เป็นเกาะที่มีภูเขาไฟและตั้งอยู่ห่างจากเมืองเนเปิลเป็นระยะทางราว 30 กิโลเมตรเท่านั้น เกาะแห่งนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่หลงใหลการแช่น้ำพุร้อนและชื่นชอบแนวชายฝั่งที่สวยงาม
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า พายุฝนที่รุนแรงขึ้นและพบเห็นได้บ่อยยิ่งขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเสี่ยงด้านธรณีวิทยาและอุทกวิทยาในหลายพื้นที่ของอิตาลี นอกจากนี้ข้อมูลทางสถิติยังชี้ว่า ที่อยู่อาศัยหลายหลังคาเรือนบนเกาะอิสเกียแห่งนี้สร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมาย ทำให้ผู้อยู่อาศัยจำต้องเผชิญกับความเสี่ยงกับเหตุน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม และแผ่นดินไหว อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บ่อยครั้งมักจะเกิดขึ้นกับเกาะที่มีเนินเขาหรือมีทางลาดชันให้เกิดการไหลของน้ำหรือดินโคลนได้
ด้านรัฐบาลฝ่ายขวาชุดใหม่ของอิตาลีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี จอร์เจีย เมโลนี ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ เตรียมจัดสรรงบช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 2 ล้านยูโร (ราว 75 ล้านบาท) และสั่งให้ทางการท้องถิ่นเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
ภาพ: Eliano Imperato / APF
อ้างอิง: