ปี 2020 อาจจะเป็นปีซบเซาของธุรกิจอื่นๆ แต่สำหรับธุรกิจ ‘รถหรู’ แล้วนับเป็นปีที่ดี เพราะเป็น Passion Investment ที่มีการเจริญเติบโตถึง 6% เป็นรองแค่กระเป๋าแบรนด์เนมและไวน์เท่านั้น
ส่วนแบรนด์กระทิงดุขวัญใจผู้รักความเร็วอย่าง Lamborghini ก็มีผลกำไรมากที่สุดในปี 2020 ทั้งๆ ที่โรงงานในอิตาลีจะต้องปิดเป็นเวลา 2 เดือนในช่วงการระบาดใหญ่ และมียอดขายต่ำกว่าปี 2019 ก็ตาม เคล็ดลับอยู่ที่การขายรถสปอร์ตแบบ Customized ที่คนกระเป๋าหนักพร้อมจ่ายเพื่อให้ได้รถหรูที่ไม่เหมือนใคร
ผู้ให้กำเนิด Lamborghini คือมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยมาจากกิจการรถแทรกเตอร์ชื่อ Ferruccio Lamborghini แม้ในตอนนั้นเขาจะเป็นเจ้าของรถที่ดีที่สุดของยุคอย่าง Ferrari แต่ก็พบว่ามันยังไม่ตอบโจทย์สิ่งที่เขาต้องการ ในปี 1963 เขาจึงก่อตั้งบริษัท Automobili Ferruccio Lamborghini S.p.A. ขึ้นมา และผลิตรถสปอร์ตออกมาแข่งเสียเลย
โดยรถรุ่นแรกคือ Lamborghini 350GTV ซึ่งเป็นรถโปรโตไทป์ Gran Turismo รุ่นแรก และประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ Lamborghini Miura ในอีก 3 ปีต่อมา ส่วนโลโก้รูปกระทิงที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์รถหรู ก็อ้างอิงไปถึงราศีของ Ferruccio Lamborghini ซึ่งเกิดในราศีพฤษภ ทำให้โมเดลต่างๆ ของ Lamborghini จะมีชื่อที่เกี่ยวข้องกับวัวกระทิงหรือการสู้วัวกระทิง เช่น Miura ก็เป็นชื่อสายพันธุ์วัวกระทิงนักสู้ เป็นต้น ซึ่งในช่วง 10 ปีแรกที่ก่อตั้งบริษัท ถือว่าเป็นยุคทองของ Lamborghini เลยก็ว่าได้
แต่หลังจากปี 1973 ธุรกิจรถแทรกเตอร์ของ Ferruccio Lamborghini ประสบปัญหา เขาจึงตัดสินใจขายธุรกิจรถสปอร์ตออกไปทำให้ Automobili Lamborghini เปลี่ยนมือหลายครั้ง จนกระทั่งช่วงปลายทศวรรษ 1990 ก็ถูกซื้อโดย Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันจนถึงปัจจุบัน
สำหรับดาวเด่นของ Lamborghini ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมาก็คือรุ่น Urus รถ SUV รุ่นแรกของแบรนด์ทำยอดขายไปถึง 59% ของยอดขายทั้งหมดในปีนั้น โดยจีนกลายเป็นตลาดอันดับ 2 ของบริษัท แซงหน้าเยอรมนี ส่วนสหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ Lamborghini โดยส่งมอบรถไปถึง 2,224 คันในปี 2020
ยอดขายในปี 2020 ของ Lamborghini อยู่ที่ 7,430 คัน ในขณะที่ยอดขายสูงสุดเกิดขึ้นในปี 2019 คือ 8,250 คัน แต่กลับได้กำไรมากกว่า ซึ่งมาจาก Limited Series ที่ผลิตจำนวนไม่มาก จึงตั้งราคาได้สูง รวมถึงอานิสงส์ของบริการ Lamborghini Ad Personam ที่เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อร่วมออกแบบรถของตัวเองได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเฉดสีที่มีให้เลือกถึง 348 เฉด, การใส่นวัตกรรมของสีตัวถังโดยเอาสีโปร่งแสงที่มาพร้อมไมโครคริสตัลนำมาผ่านเทคนิคเฉพาะ จนได้สีสันเฉดใหม่ที่เรียกว่า Diamond Dust Paint, การตกแต่งภายใน ด้วยดีเทลงานปักสุดเนี้ยบ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้บนเบาะที่นั่งที่เน้นการปักด้วยมือแทนการปั๊มนูน, การครีเอตอักษรย่อภายในห้องโดยสาร ไปจนถึงรูปภาพต่างๆ ตามแต่ความต้องการของผู้ซื้อ ทั้งหมดนี้กลายเป็นเอกลักษณ์ให้ Lamborghini เป็นแบรนด์รถหรูขวัญใจนักสะสมผู้หลงใหลโลกความเร็ว
Sesto Elemento
รถยนต์ Limited Edition ที่เปิดตัวในงาน Paris Motor Show 2010 โดยชื่อมาจากเลขอะตอมของเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ที่นำมาใช้กับการออกแบบตัวรถ รถรุ่นนี้ผสานทั้งสุดยอดทางวิศวกรรมยานยนต์ในเรื่องความเร็ว ควบคู่กับการออกแบบให้รถมีน้ำหนักเบาด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้มีน้ำหนักเพียง 999 กิโลกรัม มาพร้อมเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร 570 แรงม้า ระบบ e-Gear แบบ 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลา 2.5 วินาที และ 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.0 วินาที ทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 356 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Diablo GTR
นับได้ว่าเป็นรถแรร์ไอเท็มของแบรนด์ เปิดตัวที่งาน Geneva Motor Show 1999 ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.0 ลิตร มาพร้อมพละกำลัง 590 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร ทำความเร็วได้ 339 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีเพียง 30 คันทั่วโลกเท่านั้น
Miura SVJ
Miura SV คือรถยอดนิยมที่มีจำนวนการผลิตน้อยกว่าพันคัน จนกระทั่งในปี 1970 เมื่อ Bob Wallace นักขับทดสอบของ Lamborghini ต้องการซูเปอร์คาร์ที่เหนือกว่า Miura SV จึงเป็นที่มาของการสร้าง Miura SVJ โดยมีเพียง 3 คันเท่านั้นที่โรงงานปรับแต่ง SV ให้เป็นรุ่น SVJ จึงทำให้รถรุ่นนี้เป็นที่ต้องการของนักสะสม
Essenza SCV12
รถไฮเปอร์คาร์ Limited Edition สำหรับวิ่งในสนามแข่งโดยเฉพาะ ผลิตเพียง 40 คันเท่านั้น ด้วยเครื่องยนต์ V12 ให้กำลังสูงสุด 830 แรงม้า เรียกว่าเป็นรถแรงที่สุดเท่าที่ Lamborghini เคยผลิตมา สำหรับเจ้าของรถ Essenza SCV12 จะได้เป็นส่วนหนึ่งของคลับสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งจะได้เข้าร่วมโปรแกรมการขับขี่รถในสนามแข่งขันที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก รวมถึงบริการจัดเก็บรถในโรงเก็บที่สร้างขึ้นที่ Sant’Agata Bolognese ที่ตั้งของโรงงาน Lamborghini โดยรถแต่ละคันจะได้รับการดูแลพิเศษ มีโรงจอดรถส่วนตัว และมีเว็บแคมสามารถดูรถผ่านแอปพลิเคชันได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมี Lamborghini Squadra Corse Drivers Lab เพื่อเทรนความพร้อมร่างกายให้แก่เจ้าของรถเหมือนโปรแกรมสำหรับนักแข่ง
Countach LPI 800-4
Countach คือรถยนต์ที่ฉีกกรอบการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างไร้ที่ติ จนเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ผลิตในโรงงาน Sant’Agata Bolognese ไม่ว่าจะเป็น Aventador, Huracán, Sián หรือแม้แต่ Urus ในวาระครบรอบ 50 ปีของ Countach ทาง Lamborghini จึงเปิดตัว Countach LPI 800-4 เป็นรถรุ่นลิมิเต็ดที่ผลิตเพียง 112 คันทั่วโลก มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดด้วยเครื่องยนต์ V12 ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดมอเตอร์ไฟฟ้า 48V และระบบซูเปอร์คาปาซิเตอร์ พละกำลังสูงสุด 780 แรงม้าจากเครื่องยนต์ และ 34 แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้า
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/news/business-56452474
- https://msb.georgetown.edu/gbi-news/lamborghini-americas-future-of-luxurycars/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Lamborghini#:~:text=Manufacturing%20magnate%20Italian%20Ferruccio%20Lamborghini,released%20in%20the%20mid%2D1960s.
- https://www.history.com/this-day-in-history/ferruccio-lamborghini-born
