หนังสือจากสำนักงานเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ที่ส่งถึงผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย เขตหลักสี่ กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในทางการเมืองขึ้นมาทันที เมื่อเนื้อหาในหนังสือฉบับดังกล่าวมีใจความสำคัญอ้างถึงคำสั่งของ คสช. เรื่องห้ามพรรคการเมือง และนักการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง และการประชาสัมพันธ์ทางการเมืองทุกชนิด และยังระบุชัดเจนถึงกิจกรรมฉีดยุงและฉีดวัคซีนสุนัขและแมวด้วย
.
หลังได้รับหนังสือฉบับดังกล่าว ‘สุรชาติ เทียนทอง’ อดีต ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้เขียนแสดงความรู้สึกลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุรายละเอียดตอนหนึ่งว่า
“ผมอ่านแล้วรู้สึกหดหู่และแปลกใจและมีคำถามหลายคำถามที่อยากจะถามผู้ที่ลงนามในหนังสือฉบับนี้ หรือผู้มีอำนาจที่สั่งการเรื่องนี้ลงมา”
สุรชาติ ยังระบุอีกว่า กิจกรรมที่ถูกสั่งห้ามได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปีและทุกปี
“ท่านอดีต ผอ. เขตหลักสี่ ท่านก่อนยังเคยพูดขอบคุณผมหลายครั้งที่ช่วยกันดูแลบริการประชาชน เพราะหน่วยงานทางภาครัฐไม่สามารถให้บริการบางเรื่องได้อย่างทั่วถึง และท่าน ผอ. ท่านปัจจุบันที่เป็นผู้ลงนามคำสั่งฯ ก็ได้ย้ายมาอยู่ที่เขตหลักสี่ได้ระยะหนึ่งแล้ว ท่านก็เห็นกิจกรรมที่ผมและทีมงานทำมาตลอดเกือบทุกวัน ท่านก็ไม่เคยพูดประเด็นเรื่องนี้กับผมเลย ผมจึงรู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นหนังสือฉบับนี้และมีคำถามถึงท่านหรือผู้ที่สั่งท่านมา”
พร้อมกันนี้ สุรชาติยังได้ตั้งคำถามด้วยว่า ทำไมถึงเพิ่งมาบังคับปฏิบัติเอาตอนนี้ทั้งที่คำสั่งนี้ถูกประกาศออกมาหลายปีแล้ว และที่ผ่านมาตนและทีมงานก็ทำงานในพื้นที่แบบเปิดเผย และคำสั่งนี้ถือเป็นการเลือกปฏิบัติเฉพาะเขตหลักสี่หรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบยังไม่มีคำสั่งลักษณะดังกล่าวในพื้นที่อื่นเลย
ขณะที่ ‘พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ’ อดีต ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ด้วยว่า หนังสือดังกล่าวสะท้อนวิธีคิดและการทำงานของผู้บริหารกรุงเทพฯว่ามีจิตใจคับแคบ ที่ผ่านมาเรื่องเหล่านี้เป็นปัญหามาโดยตลอด เห็นได้จากการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า พวกตนเป็นนักการเมืองก็ต้องดูแลประชาชน ที่ผ่านมาตนทำกิจกรรมเหล่านี้ด้วยงบประมาณของตัวเอง ถือเป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาล แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่เคยมีปัญหา ทหาร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงก็ให้ความร่วมมือ ถ้าไม่ประชาสัมพันธ์ประชาชนจะทราบได้อย่างไร
ด้าน ‘สกลธี ภัททิยกุล’ รองผู้ว่าฯ กทม. ได้ชี้แจงกรณีหนังสือฉบับดังกล่าวว่า น่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดในการออกคำสั่ง เพราะผู้ว่าฯ กทม. เน้นย้ำห้ามติดป้ายโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตในที่สาธารณะเท่านั้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เฉพาะป้ายการเมือง โดยตนเองขอไม่ใส่ใจ หากจะถูกมองว่าใช้อำนาจ รองผู้ว่าฯ กทม. กำจัดคู่แข่งทางการเมือง เพราะไม่ใช่เรื่องจริง ยืนยันการกวาดล้างป้ายโฆษณาผิดกฎหมายเป็นคำสั่งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ใช่ คสช. และไม่มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง
ขณะที่ ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ให้ข้อสังเกตต่อเรื่องที่เกิดขึ้นกับ THE STANDARD ว่า ในฐานะที่ไอลอว์ได้ติดตามการใช้กฎหมายของ คสช. มาโดยตลอด พบว่าการอ้างประกาศหรือคำสั่ง คสช. ที่ห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 57/2557 หากไปดูในรายละเอียดจะพบว่ามีกรอบที่กว้างมาก ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ และหากฝ่าฝืนก็ไม่ได้มีสภาพบังคับหรือบทลงโทษว่าจะเป็นอย่างไร โดยส่วนใหญ่หากดำเนินกิจกรรมก็จะเข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งมีโทษกำหนดไว้
ยิ่งชีพ เปิดเผยอีกว่า การจะบอกว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการตีความของเจ้าหน้าที่ หากมองว่าการให้บริการฉีดวัคซีนสุนัขแมวหรือพ่นยุง เป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองก็ผิดได้ เพราะฉะนั้นคำสั่งแบบนี้ควรจะถูกยกเลิกได้แล้ว เพราะไม่ได้กระทบต่อความมั่นคงของรัฐแต่อย่างใด เพราะแม้จะเป็นการทำเพื่อหาเสียงก็ควรทำได้เช่นกัน ยิ่งอยู่ในบรรยากาศที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในอนาคตด้วย
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า สุรชาติ เทียนทอง เป็นอดีต ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย เขต 11 ครอบคลุมพื้นที่: เขตหลักสี่และเขตดอนเมือง (เฉพาะแขวงสนามบิน) โดยคู่แข่งทางการเมืองของเขาคือ สกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัครจากประชาธิปัตย์ ที่แพ้ให้กับสุรชาติในการเลือกตั้งครั้งหลังสุด ขณะที่ปัจจุบันสกลธีดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. คุม กทม. ในโซนเหนือ ซึ่งเขตหลักสี่อยู่ในโซน กทม. เหนือ
ขณะที่มีรายงานว่า วันนี้สุรชาติและทีมงานได้ลงพื้นที่ให้บริการฉีดวัดซีนสุนัขและแมวให้กับประชาชนตามปกติ
อ้างอิง:
