×

มีผลบังคับใช้แล้ว ‘พ.ร.บ.พืชกระท่อม’ ห้ามขายเด็กต่ำกว่า 18 ปี กำหนดสถานที่ห้ามขาย นำเข้าส่งออกต้องขออนุญาต

โดย THE STANDARD TEAM
27.08.2022
  • LOADING...
พ.ร.บ.พืชกระท่อม

วันนี้ (27 สิงหาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ โดยกฎหมายให้นิยามใบกระท่อม หมายความถึง ใบของพืชกระท่อม และให้รวมถึงน้ำต้มใบของพืชกระท่อมและสารสกัดที่ได้จากใบของพืชกระท่อม สาระของกฎหมายครอบคลุมการขออนุญาต การนำเข้าส่งออกใบกระท่อม การพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต การคุ้มครองบุคคลซึ่งอาจได้รับอันตรายจากการบริโภคใบกระท่อม และการป้องกันการใช้ใบกระท่อมในทางที่ผิด บทกำหนดโทษ จึงขอให้ประชาชนศึกษากฎหมายให้ดี เพื่อการใช้พืชกระท่อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

ตัวอย่างบางมาตราในพระราชบัญญัติ มีดังนี้

 

(มาตรา 3) การใช้ใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา ตามกฎหมายว่าด้วยยา อาหาร ตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร เครื่องสำอาง ตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์อื่นใดตามที่มีกฎหมายเฉพาะบัญญัติไว้ รวมถึงการนำเข้า การส่งออก การขาย และการโฆษณา ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการน้ัน เว้นแต่กรณีที่บัญญัติไว้ในหมวด 5 การคุ้มครองบุคคลซึ่งอาจได้รับอันตรายจากการบริโภคใบกระท่อมและการป้องกันการใช้ใบกระท่อมในทางที่ผิด

 

(มาตรา 10) ผู้ใดประสงค์จะนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อมต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ซึ่งหมายถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมอบหมาย

 

(มาตรา 24) ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมหรืออาหาร ตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบแก่บุคคลดังต่อไปนี้

 

  1. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี
  2. สตรีมีครรภ์
  3. สตรีให้นมบุตร
  4. บุคคลอื่นใดตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันประกาศกำหนด

 

(มาตรา 25) ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมในสถานที่ โดยวิธีการ หรือในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

 

  1. สถานศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
  2. หอพัก ตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก
  3. สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก
  4. ขายโดยใช้เครื่องขาย
  5. ขายในสถานที่ โดยวิธีการ หรือในลักษณะอื่นใด ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุตธิรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันประกาศกาหนด

 

(มาตรา 26) ห้ามผู้ใดโฆษณาหรือทำการสื่อสารการตลาดใบกระท่อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจูงใจสาธารณชนให้บริโภคใบกระท่อมที่ปรุงหรือผสมกับยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ยา ตามกฎหมายว่าด้วยยา วัตถุอันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย หรือวัตถุอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 27

 

(มาตรา 33) ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 24 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามหมื่นบาท

 

(มาตรา 34) ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 25 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

 

รัชดากล่าวต่ออีกว่า กฎหมายยังกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนประชาชนในการเพาะปลูกหรือแปรรูปพืชกระท่อม เพื่อใช้ตามวิถีชุมชนและในการพัฒนาให้เป็นพืชที่มีมูลค่าในทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาท้ังการเพาะปลูกและแปรรูป หรือการพัฒนาสายพันธุ์ของพืชกระท่อม การผลิต การจัดการ และการตลาดด้วย

 

ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ ผลักดันให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้พืชกระท่อมในทางการแพทย์ และสร้างรายได้แก่เกษตรกร ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดีแจกจ่ายแก่เกษตรกรหลายแสนต้นไปแล้ว เพื่อให้ปลูกเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านในครัวเรือน และสามารถนำไปพัฒนาอาชีพเป็นพืชทางเลือกในอนาคต ขอให้ประชาชนศึกษากฎหมาย เพื่อให้การใช้พืชกระท่อมเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งทางการแพทย์และทางเศรษฐกิจ โดยไม่เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising