พิษโควิดทำ ‘โก๋แก่’ รายได้ลดเหลือ 2.1 พันล้านบาท มองปีนี้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจีนกลับมา จึงเล็งปัดฝุ่นโก๋ช็อป ลุยโมเดลฟู้ดทรัก และร้านโก๋ นม ถั่ว และดึงดาราซีรีส์วายมาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อทำตลาดในประเทศจีน หวังดันยอดขายภาพรวมทะลุ 1 หมื่นล้านในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
จุมภฏ รวยเจริญทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โก๋แก่ เผยว่า การระบาดของโควิดทำให้รายได้ลดลงจาก 2.5 พันล้านบาท เหลือ 2.1 พันล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มองปีนี้ทิศทางของธุรกิจจะกลับมาคึกคักอีกครัง โดยเฉพาะการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน
“แนวทางการดำเนินธุรกิจในอีก 5-10 ปีนับจากนี้ ต้องการผลักดันรายได้ขึ้นมาเป็น 1 หมื่นล้านบาท และบุกตลาดต่างประเทศเพื่อเพิ่มสัดส่วนเป็นมากกว่า 50% จากก่อนหน้าอยู่ที่กว่า 20% และลดลงมาอยู่ที่ 12-15% ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด”
สำหรับการทำตลาดในประเทศไทยนั้น บริษัทจะกลับมาทบทวนแผนการเปิด ‘โก๋ช็อป’ เพื่อจำหน่ายสินค้าในเครืออีกครั้ง จากในอดีตเคยเปิดให้บริการมากถึง 12 สาขาตามแหล่งท่องเที่ยว แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด ทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงไป เหลือเพียง 2 สาขา คือ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และจตุจักร
โดยที่ผ่านมากลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมซื้อสินค้าของบริษัทจะเป็นตลาดจีนเป็นหลัก มองว่าภายหลังจากจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคเข้มงวดที่ใช้มานาน 3 ปี จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งคงต้องคอยจับตาดูว่าการกลับมาของตลาดจีนจะมีความคึกคักมากแค่ไหน จึงจะพิจารณาทำเลและจำนวนสาขาเพื่อเปิดให้บริการโก๋ช็อปอีกครั้ง
พร้อมกันนี้ยังมีรูปแบบของร้านค้าในลักษณะฟู้ดทรักที่จะให้บริการตามสถานที่ต่างๆ ควบคู่ไปกับการออกบูธตามอาคารสำนักงาน เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น และร้านโก๋ นม ถั่ว ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อาทิ ชานมไข่มุก ที่มีให้เลือกว่าจะใช้นมอัลมอนด์หรือนมถั่วลิสง และไอศกรีมแบบซันเด เป็นต้น
“แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะมีสัญญาณที่ดีกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่าราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาพลังงาน ทำให้กระทบต่อกำไรของตลาดถั่วลดน้อยลงเหลือ 7-8% จะเห็นได้ว่าสินค้าบางรายการที่เป็นแบรนด์ใหญ่ๆ เริ่มปรับราคาสินค้าไปแล้ว บริษัทยังจับตาสถานการณ์ตลาดและการปรับขึ้นราคาของสินค้าบางรายการ เพื่อพิจารณาถึงการปรับราคาสินค้าของบริษัทอีกครั้ง”
นอกจากตลาดไทยแล้ว การส่งออกยังเป็นตลาดที่สำคัญของโก๋แก่ โดยเฉพาะจีนคิดเป็น 50% ของการส่งออก หรือมูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาท ซึ่งโควิดทำให้การส่งออกค่อนข้างลำบาง จึงต้องหันรุกตลาดต่างประเทศอื่นๆ เพื่อทดแทนรายได้ที่หายไปจากตลาดจีน แต่มองว่าสัญญาณการส่งออกไปยังประเทศดังกล่าวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้เชื่อว่าจะสามารถกลับมามีรายได้เท่ากับช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิดอีกครั้งในปี 2566
โดยการทำตลาดต่างประเทศในปีนี้จะเน้นการออกสินค้ารสชาติใหม่ที่เข้ากับแต่ละภูมิภาคของประเทศจีนให้มากขึ้น ทำรสชาติให้มีความเป็นท้องถิ่นมากกว่าเดิม ขณะเดียวกันยังเห็นถึงความชื่นชอบซีรีส์วายจากประเทศไทย จึงทำให้วางแผนที่จะนำดาราซีรีส์วายมาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อทำตลาดในประเทศจีนให้มากขึ้น เบื้องต้นคาดการณ์ว่าน่าจะเริ่มได้ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ความท้าทาย ‘ เศรษฐกิจไทย ปี 2566 ’ กับการปรับตัวของภาคธุรกิจ
- ฉวยจังหวะค่าเงินอ่อน ส่องโอกาสลงทุนหุ้นโลก สร้างพอร์ตเติบโตระยะยาว
- ‘ส่วนต่างรายได้’ กับนโยบายรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
