×

หุ้น KLINIQ เคาะราคา IPO ที่ 24.50 บาท เปิดจอง 28 ต.ค. – 1 พ.ย. นี้ พร้อมเข้าเทรดในตลาด mai ภายใน พ.ย.

27.10.2022
  • LOADING...
KLINIQ

KLINIQ ผู้นำธุรกิจสุขภาพและความงามครบวงจร กำหนดราคาขาย IPO ที่ 24.50 บาท เปิดจองวันที่ 28 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายนนี้ ขึ้นแท่นคลินิกเจ้าแรกเข้าระดมทุนตลาดหุ้น ชูจุดแข็งขยายสาขาได้เร็ว ไร้หนี้ แบรนด์แข็งแกร่ง เดินหน้านำเงินระดมทุนใช้ขยายสาขา 6-10 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ หัวเมืองหลัก และเมืองรอง รองรับความต้องการตลาด หวังผลักดันผลประกอบการโตต่อเนื่อง 1-3 ปี 

 

รัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมสายงานวาณิชธนกิจ ด้านตลาดทุน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) หรือ DAOL ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม หรือ KLINIQ เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ในราคาหุ้นละ 24.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2565 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า KLINIQ ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ทั้งนี้ KLINIQ เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น ให้แก่ประชาชน หรือคิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท 

 

ทั้งนี้ มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 7 แห่ง ประกอบด้วย 

  1. บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 
  2. บล.เอเซีย พลัส จํากัด (มหาชน) 
  3. บล.ฟินันเซีย ไซรัส จํากัด (มหาชน) 
  4. บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) 
  5. บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) 
  6. บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) 
  7. บล.พาย จํากัด (มหาชน)

 

“มั่นใจว่า KLINIQ จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม ในฐานะผู้นำธุรกิจสุขภาพและความงามครบวงจร และเป็นคลินิกเจ้าแรกที่เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น และจากโมเดลธุรกิจ Asset Light ทำให้ขยายสาขาได้รวดเร็ว ต้นทุนไม่สูง คืนทุนได้ภายใน 2-3 ปี อีกทั้งทีมผู้บริหารยังให้ความสำคัญในเรื่องของวินัยทางการเงิน เห็นได้จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แทบจะเรียกได้ว่าไร้หนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย ผนวกกับแบรนด์ THE KLINIQUE ที่มีความแข็งแกร่ง ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้ซ้ำ ทำให้มีรายได้สม่ำเสมอ (Recurring Income) หนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”

 

ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 714.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.26% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 451.59 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 100.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.03% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 60.00 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิของปี 2564 ทั้งปีอยู่ที่ 129.25 ล้านบาท

 

นพ.อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) กล่าวว่า วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทเตรียมนำเงินไปใช้ในการขยายสาขาคลินิกเวชกรรมราว 6-10 สาขาต่อปี ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่ และหัวเมืองรอง โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนขยายคลินิกเวชกรรมและจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มเติมประมาณ 950 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 2-3 ปี ส่วนศูนย์ศัลยกรรมจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 3-4 ปี

 

นอกจากนี้ ยังเตรียมนำเงินไปใช้สำหรับจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการแพทย์ ขยายกิจการศูนย์ศัลยกรรม และพัฒนาระบบ IT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของฝ่ายสนับสนุน โดยในส่วนของการพัฒนาระบบ IT งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ภายในปี 2566 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 270 ล้านบาท

 

“เรามั่นใจว่าด้วยโมเดลธุรกิจ Asset Light และฐานะการเงินที่มีความแข็งแกร่ง หลังเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งแบรนด์ THE KLINIQUE ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม เห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่มีกว่า 2 แสนรายที่กลับมาใช้ซ้ำ ทำให้มี Recurring Income และจากแผนการขยายสาขา จะทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ผลักดันแนวโน้มผลการดำเนินงาน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง” นพ.อภิรุจกล่าวในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising