×

KKP ปรับคาดการณ์จีดีพีไทยดีขึ้นตามข่าววัคซีน แต่ยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจปีหน้าโตต่ำ 1%

26.11.2020
  • LOADING...
KKP ปรับคาดการณ์จีดีพีไทยดีขึ้นตามข่าววัคซีน แต่ยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจปีหน้าโตต่ำ 1%

KKP Research โดยธนาคารเกียรตินาคินภัทร ปรับประมาณการตัวเลขการเติบโตของจีดีพีสำหรับปี 2563 ว่าจะติดลบที่ 6.7% ติดลบน้อยลงจากที่คาดการณ์เดิมที่ติดลบ 9% และปรับคาดการณ์ของปี 2564 ที่จีดีพีจะโต 3.5% สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่อยู่ราว 3.4%

ทั้งนี้ มีสองปัจจัยที่ทำให้ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจดีขึ้น ได้แก่ 1. แนวโน้มความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ที่ลดความเสี่ยงการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ในกรณีของวัคซีนคาดว่าจะเริ่มออกใช้ได้ในประเทศเศรษฐกิจหลักในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2564 คาดว่าไทยอาจได้รับวัคซีนในช่วงไตรมาส 3-4 ปีหน้า แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูงในด้านประสิทธิภาพ และยังไม่ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยในระยะสั้น

2. ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3/63 ที่ติดลบน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ และมีความเปราะบางสูง โดยคาดว่าจีดีพีไทยจะอยู่ในระดับต่ำกว่าก่อนโควิด-19 ไปจนถึงต้นปี 2565

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยต้องติดตามโดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่จะนำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศ โดย KKP Research คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับเข้ามาไทยในไตรมาส 3-4 ปีหน้าราว 6.4 ล้านคน (ปี 2562 อยู่ที่ราว 40 ล้านคน)

ขณะที่ไทยยังต้องเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ความสามารถในการแข่งขันและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ฯลฯ ในระยะต่อไปยังมีความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง 3 ข้อ ได้แก่

1. ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเสี่ยงปิดกิจการจากการขาดกระแสเงินสด อาจจะเห็นโรงแรมหรือธุรกิจขนาดเล็กปิดกิจการก่อนนักท่องเที่ยวกลับเข้ามา ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวกลับมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแบบทวีคูณ และส่งผลต่อเนื่องทั้งการบริโภค การลงทุน เศรษฐกิจไทยจะโตช้ากว่าที่ประเมินไว้ และจีดีพีอาจจะต่ำกว่า 1%

2. เงินบาทที่กลับมาแข็งค่าจะทำให้การส่งออกฟื้นตัวช้า หากยังแข็งค่าต่อเนื่องจะเริ่มทำให้รายได้ของผู้ส่งออกถูกกระทบ ซึ่งทิศทางค่าเงินบาทยังขึ้นอยู่กับมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะออกมาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามปีนี้เกาหลีใต้และไต้หวันการส่งออกฟื้นตัวจากสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี แต่ไทยยังไม่ได้ประโยชน์ เพราะมีสัดส่วนสินค้ากลุ่มนี้ต่ำ

3. ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะส่งผลต่ออุปสงค์ภายในประเทศ และชะลอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ประเมินว่านโยบายเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและนโยบายการคลังยังมีศักยภาพในการดำเนินการเพิ่มเติมได้ และรัฐบาลควรมีนโยบายเพื่อรองรับความเสี่ยงหลายประการที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า เพื่อประคับประคองธุรกิจ สร้างงาน และกระตุ้นเศรษฐกิจ จนกว่าสถานการณ์ในสังคมและเศรษฐกิจโลกและไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising