×

กิตติรัตน์ อดีต รมว.คลัง ชี้ไทยต้องใช้เวลา 4 ปีฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 คนตกงานสูงแบบก้าวกระโดด

โดย THE STANDARD TEAM
27.05.2021
  • LOADING...
กิตติรัตน์ ณ ระนอง

วันนี้ (27 พฤษภาคม) เวลา 13.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย จัดงานเสวนาออนไลน์เรื่อง การบริหารวิกฤตโควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย นำโดย นลินี ทวีสิน ประธานคณะทำงานต่างประเทศ พร้อมกับแกนนำพรรคเข้าร่วม ได้แก่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี, กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยบรรยากาศการเสวนามีผู้เข้าชมผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมชม และผู้สื่อข่าวต่างประเทศตั้งคำถามกับผู้ร่วมเสวนาด้วย 

 

นลินีกล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และมีความกังวลอย่างมาก 3 ประเด็นคือ 1. การจัดลำดับความสำคัญและประสิทธิภาพในการจัดการกับโรคระบาด 2. วิธีการจัดสรรและกระจายทรัพยากรเพื่อแก้ปัญหาและฟื้นฟูประเทศชาติ 3. ความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาล จึงจัดเสวนาครั้งนี้ขึ้นเพื่อสะท้อนปัญหาการบริหารจัดการโควิด-19 ของรัฐบาล 

 

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า วิกฤตโควิด-19 ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ‘วิกฤตสองต่อ’ (Double Crises) คือวิกฤตโควิด-19 และต่อด้วยวิกฤตเศรษฐกิจ หลายประเทศผ่านไปได้เมื่อรัฐสามารถจัดหาและกระจายวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพทันเวลา ดังนั้น มาตรการดำเนินการของรัฐบาลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ว่าจะนำประเทศผ่านวิกฤตไปได้หรือไม่ แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว อาจไม่ได้เผชิญแค่วิกฤตสองต่อ แต่ต้องเผชิญวิกฤตต่อที่สามคือ ‘วิกฤตรัฐบาลบริหารผิดพลาด’ เพราะไม่สามารถวางแผนควบคุมโรคและกระจายวัคซีนเพื่อรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งนี้จะนำสู่วิกฤตต่อที่สี่คือ ‘วิกฤตการเมืองครั้งใหญ่’ เพราะประชาชนไม่ไว้วางใจและหมดความเชื่อมั่นในรัฐบาลจากความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

 

ขณะที่กิตติรัตน์กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน GDP มีอัตราการเติบโตที่ช้ากว่าหนี้สาธารณะแม้ก่อนการระบาด การว่างงานสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด จุดอ่อนของการคลังคือหนี้สาธารณะที่สูงจนเกือบชนเพดาน ฐานะการคลังอ่อนแอจนเสี่ยงเข้าสู่วงจรอุบาทว์ หากรัฐยังไม่สามารถควบคุมโรคระบาดและยังไม่สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึงได้ เศรษฐกิจไทยจะใช้เวลาฟื้นตัวอย่างน้อย 4 ปี ซึ่งเป็นเวลาหลังจากมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป และมีรัฐบาลใหม่ที่เข้าใจวิธีแก้ปัญหา 

 

ทั้งนี้ เพื่อไทยเสนอให้รัฐบาลคิดนอกกรอบและไม่ยึดติดกับขนบธรรมเนียมเดิมๆ เพื่อใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างได้ผลทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีนโยบายการเงินและนโยบายการคลังที่เกื้อหนุนกัน กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การแก้ไขกฎระเบียบ และการแสวงหาความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชน และ ภาครัฐ-ประชาชน 

 

กรณีมีผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการรายย่อยกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก กิตติรัตน์กล่าวต่อว่า รัฐบาลไม่ได้นำประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้อง ดังจะเห็นได้จาก พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่กำลังอภิปรายอยู่ในสภา ไม่ได้มีการใช้งบประมาณเพื่อแก้วิกฤตโควิด-19 ที่รากเหง้าอย่างเพียงพอ สำหรับมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจรัฐบาลควรพิจารณาให้ ‘เงินกู้สินเชื่อปลอดดอกเบี้ย’ เมื่อถึงมือภาคธุรกิจ และภาคประชาชน โดยผู้รับภาระคือธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์ แทนมาตรการทางการคลังที่กำลังอ่อนแอ และไม่มีประสิทธิภาพอย่างในปัจจุบัน พร้อมลดภาระภาษีเพื่อให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แม้รัฐจะมีรายได้รวมลดลง

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X