1,574 ไมล์ คือระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปยังไทเป จุดหมายที่ 5 ของ KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2022 การแสดงต่อยอดจากซีรีส์วาย KINNPORCHE THE SERIES (คินน์พอร์ช เดอะซีรีส์) ที่สร้างปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้ไปทั่วโลก
THE STANDARD POP ตอบรับคำเชิญจาก Live Nation Tero และ Be On Cloud ให้เก็บกระเป๋าเดินทางตามติดทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้าของงาน KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2022 ที่เมืองไทเป เราจึงอยากนำเรื่องราวต่างๆ และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางในครั้งนี้มาให้ทุกคนได้อ่านกัน
กรุงเทพมหานคร: 29/10/65
การเดินทางเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม หนึ่งวันก่อนการแสดงที่ไทเปจะเริ่มขึ้น เราและทีมงานคินน์พอร์ชขึ้นเครื่องบินไฟลต์เดียวกันเพื่อเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสถานีปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน
ตลอดเวลาร่วม 4 ชั่วโมงบนเครื่องบิน เราสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นจากทีมงานและนักแสดงอยู่เรื่อยๆ จนแอบสงสัยไม่ได้ ว่าอะไรที่พาให้คนกลุ่มนี้เดินทางมาไกลกว่าพันไมล์ เพื่อแสดงต่อหน้าคนต่างชาติต่างภาษากว่า 5,000 คนได้ชม
“คินน์พอร์ชมาจากนิยายที่ดังมากๆ ของ Daemi ซึ่งผมเองเป็นเพื่อนสนิทกับเขามานาน เลยชวนๆ กันมาทำซีรีส์เรื่องนี้ ก็คือชวนมาลำบากครับ (หัวเราะ) กว่าตัวซีรีส์จะออกมาเราระดมสมอง ระดมสรรพกำลังต่างๆ มากมาย ซึ่งระหว่างทางเราเห็นตลอดว่ามีอินเตอร์แฟนติดตามอยู่เยอะ เยอะจนเชื่อว่าเราน่าจะทำเวิลด์ทัวร์ได้”
นั่นคือจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์เวิลด์ทัวร์ครั้งนี้ ที่ ปอนด์-กฤษดา วิทยาขจรเดช ผู้บริหารบริษัท Be On Cloud เล่าให้เราฟัง เมื่อมีโปรเจกต์ในมือแล้วปอนด์ก็เลือกเดินตรงเขาไปหา นีล ทอมป์สัน ผู้บริหาร Live Nation Tero แล้วจับมือเริ่มต้นโปรเจกต์ครั้งนี้ด้วยกัน ซึ่งนีลก็เล่าให้เราฟังเพิ่มเติมว่า
“ผมรู้ว่าเราสามารถทำเวิลด์ทัวร์ได้อยู่แล้ว ถึงมันจะมีอุปสรรคแต่ผมไม่เคยคิดว่าเราจะทำไม่ได้ และคุณปอนด์ก็บอกนักข่าวไปแล้วว่าเราจะทัวร์ ก็เลยไม่มีทางเลือกครับ (หัวเราะ)”
โดยการจัดเวิลด์ทัวร์ในครั้งนี้ ทาง Live Nation Tero เข้าไปมีส่วนช่วยในการสร้างสรรค์ ทำการตลาด และประชาสัมพันธ์การแสดงทั้งหมด ซึ่งหลังจากประกาศโปรเจกต์นี้ออกไป นีลและทีมก็ใช้เวลาหลายเดือนในการติดต่อโปรโมเตอร์รวมถึงจองฮอลล์จัดแสดงของแต่ละเมือง เพื่อประสานทุกอย่างให้เกิดขึ้นจริง
ไทเป: 29/10/65
เดินทางถึงไทเป นักแสดงและทีมงานแยกย้ายกันไปพักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับการแสดงในวันถัดไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราได้ทำเข้าไปร่วมพูดคุยกับ Slot Machine และ 5 นักแสดงนำ มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง, อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์, ไบเบิ้ล-วิชญ์ภาส สุเมตติกุล, บิว-จักรพันธ์ พุทธา และ บาร์โค้ด-ตฤณสิษฐ์ อิสระพงศ์พร
อาโปได้เล่าความรู้สึกของทัวร์ในครั้งนี้ให้เราฟังว่า “สำหรับทัวร์ครั้งนี้ผมดีใจมากๆ ในฐานะคนไทยตัวเราเองก็รู้สึกภูมิใจแล้ว ยิ่งพอเราหันไปมองเพื่อนๆ ไปมองทีมยิ่งรู้สึกภูมิใจ ว่าเราพากันมา 50 คน และสามารถทำสิ่งนี้ได้”
นอกจากนี้เรายังได้พูดคุยถึงการเตรียมตัวและความรู้สึกระหว่างการซักซ้อมด้วย ซึ่งนักแสดงทุกคนก็ตอบเหมือนกันว่ามันเป็นการซ้อมที่เหนื่อยมากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขาได้เห็นความสามารถและมุมใหม่ๆ ของเพื่อนคนอื่นมากขึ้น และหวังว่าโชว์ที่เตรียมมาจะสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ได้ไม่มากก็น้อย
เป็นคำบอกเล่าที่ทำให้เราเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าทีมงานคินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ ตั้งใจกับการแสดงในครั้งนี้มากแค่ไหน เพราะเราสามารถสัมผัสถึงความมุ่งมั่นและความตื่นเต้นที่ว่านี้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวในช่วงค่ำ การซ้อมในช่วงเช้าของวันถัดมา การแต่งตัวในช่วงบ่าย และกิจกรรมมากมายที่ต้องทำก่อนขึ้นแสดง
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- คุยกับ มาย-อาโป ที่ไทเป เผยความรู้สึกและโมเมนต์ประทับใจใน KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2022
- เก็บตกที่ไทเป ไบเบิ้ล-บิว-บาร์โค้ด เล่าเรื่องการเตรียมพร้อมก่อน KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2022
แน่นอนว่านอกจากศิลปินที่ตื่นเต้นกับการแสดงแล้ว คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็คือบรรดาแฟนๆ ด้อมมาเฟียทุกคน ที่นอกจากจะเดินทางฝ่าฝนกันมาถึง Taipei International Convention Center (TICC) กันตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ยังขนการ์ดที่ระลึก ขนม น้ำดื่ม ฯลฯ มาแจกจ่ายกัน รวมถึงแฟนโปรเจกต์อื่นๆ อย่างรถตู้และจอ LED โปรโมตศิลปินก็มีให้เราเห็นอยู่โดยรอบ
แม้ว่ากิจกรรมเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการแฟนคลับ แต่ในฐานะคนไทย ภาพตรงหน้าทำให้เรารู้สึกสนุกและภูมิใจแทนทีมคินน์พอร์ชอยู่ไม่น้อย ที่ได้รับความรักและแรงซัพพอร์ตจากชาวต่างชาติมากขนาดนี้
“แฟนๆ เขากรี๊ด เขาร้องไห้ เขาสนุก เขาเสียใจ ที่สำคัญเขาร้องเพลงไทย ที่แต่งโดยคนไทย ทำโดยคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเพลงของ Slot Machine หรือของเจฟที่อยู่ในซีรีส์ เขาร้องดังมากจนเราขนลุก ผมว่านี่คือสิ่งที่สุดยอดมากๆ สุดยอดยิ่งกว่าฟีดแบ็กใดๆ หรือประสบการณ์ใดๆ ที่เราเคยได้รับ” – ปอนด์-กฤษดา วิทยาขจรเดช
ในที่สุดการแสดง KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2022 ก็เริ่มต้นด้วยโชว์เปิดสุดมันจากวง Slot Machine วงร็อกในตำนานที่การแสดงสดของพวกเขาไม่เคยทำให้เราผิดหวังเราสักครั้ง แต่อาจจะแปลกจากเดิมนิดหน่อยตรงที่ผู้ร่วมตะโกนร้องเพลง จันทร์เจ้า ในครั้งนี้ไม่ใช่คนไทย แต่เป็นชาวไทเปที่อาจจะไม่ได้เข้าใจความหมายของเพลงทั้งหมด แต่ก็ตะโกนร้องเพลงภาษาไทยออกมาได้อย่างสุดเสียงไม่แพ้เรา
“ประทับใจตั้งแต่ทีมงานเบื้องหลังน้องๆ นักแสดง รวมถึงแฟนๆ เพราะว่าแฟนก็จะเป็นคนละกลุ่มกับของ Slot Machine เขาจะเป็นแฟนคลับที่อินในซีรีส์และในตัวละครด้วย พอเข้าไปมีส่วนร่วมก็ได้อีกบรรยากาศหนึ่ง แล้วก็เป็นความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่แฟนๆ มีให้ศิลปิน
“ดีใจที่ยอดฟอลโลว์ Instagram วงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มาทำคินน์พอร์ชครับ แล้วก็ดีใจด้วยครับที่ทุกคนชอบเพลง ไม่ใช่แค่แฟนๆ เอเชียแต่รวมถึงแฟนๆ ลาตินอเมริกาที่มาสนับสนุนพวกเราด้วยครับ”
เฟิดและแก๊ก Slot Machine เล่าถึงความประทับใจจากการร่วมงานในเวิลด์ทัวร์ครั้งนี้รวมถึงแรงซัพพอร์ตที่พวกเขาได้รับจากแฟนคลับด้วย
เมื่อการแสดงสุดอิมแพ็กของ Slot Machine จบลง ในที่สุดถึงเวลาเปิดตัวของนักแสดงคินน์พอร์ชทั้ง 16 คน เวลาที่เราคอยมากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ ด้วยความที่นักแสดงทุกคนยกให้ช่วงเวลานี้เป็น Magic Moment ของทุกเมืองที่ไป
“วัฒนธรรมของเราอาจจะต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันในทุกที่ที่ไปคือ พลังความรัก จังหวะแรกที่เปิดตัวออกมา คือจังหวะที่เราได้รับพลังมหาศาล แม้ว่าจะมองไม่เห็นหน้าพวกเขาด้วยซ้ำ ซึ่งโปคิดว่ามันเป็น Magic Moment สำหรับพวกเรา (นักแสดง) ทุกคนครับ” – อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์
ผู้จัดอย่างนีลก็เป็นอีกคนที่ชอบช่วงเวลานี้มากๆ เช่นกัน เพราะสำหรับเขาแล้ว สิ่งที่น่าจดจำที่สุดในทัวร์ครั้งนี้ก็คือตอนที่โชว์เริ่มต้นขึ้น ซึ่งเป็นทุกครั้งที่เขาและปอนด์ร้องไห้ออกมา
เป็นความรู้สึกของทีมงานและนักแสดงที่บังเอิญตรงกันอย่างน่าแปลกใจ จนทำให้เราอยากสัมผัสความรู้สึกนั้นด้วยตัวเอง และเมื่อเวลานั้นมันถึงเราก็รู้สึกได้ถึงพลังงานแบบที่พวกเขาพูดไว้จริงๆ มันเป็นพลังงานจากความคลั่งไคล้และเสียงกรี๊ดที่สร้างความประทับใจให้คนทำงานได้อย่างดี
ในส่วนของการแสดง เราชอบความชาญฉลาดของโชว์ ที่ทำออกมาเป็นคอนเสิร์ตกึ่งละครเวทีโดยยกเอาบางฉากบางตอนจากซีรีส์มาเล่า เสริมความอินด้วยโชว์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้นักแสดงทุกคนได้แสดงศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ ในขณะที่แฟนๆ ก็สามารถสนุกกับการแสดงไปพร้อมกันได้ด้วย
ส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างคาดหวังกับโชว์ของคินน์พอร์ชอยู่พอสมควร ด้วยความที่เห็นการแสดงบางส่วนที่กรุงเทพฯ มาบ้างแล้ว แต่การแสดงที่ไทเปเรียกได้ว่าลดสเกลมาค่อนข้างเยอะ จากข้อจำกัดของการเดินทาง ฮอลล์ที่ใช้แสดง และโปรดักชันต่างๆ ทำให้บางโชว์ดูไม่ใหญ่เท่าที่เราจินตนาการไว้ บวกกับบางช่วงบางตอนของโชว์ที่ให้เราขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจได้ว่าทีมงานต้องการให้เรื่องราวในเวิลด์ทัวร์คู่ขนานไปกับบางส่วนของซีรีส์
อย่างไรก็ตาม การแสดงในครั้งนี้ก็เป็นงานที่น่ายืดอกภูมิใจอยู่ไม่น้อย เพราะคงมีซีรีส์สัญชาติไทยไม่กี่เรื่องที่สามารถเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ ในขณะเดียวกันเราก็คงไม่ได้เห็นความคลั่งไคล้แบบนี้ หรือได้ยินเสียงร้องเพลงภาษาไทยแบบนี้จากชาวต่างชาติได้บ่อยๆ เช่นกัน
มันเป็นการแสดงร่วม 3 ชั่วโมงที่ทำให้เราเห็นภาพความสำเร็จของคินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ อย่างชัดเจน ความสำเร็จที่มาจากการความคิดสร้างสรรค์ ความพยายาม และความมุ่งมั่นของทีมงานทุกคน
เราเชื่อว่าตลอดเกือบ 7 เดือนที่ผ่านมา โปรเจกต์ KINNPORSCHE THE SERIES ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงและมีความหมายมากให้กับแฟนๆ ทีมงาน รวมถึงนักแสดงทุกคน ซึ่งแต่ละคนก็ได้ให้ความหมายของโปรเจกต์นี้ไว้ว่า
“คินน์พอร์ชสำหรับผมคือความโชคดีที่ได้มาเจอความสุขมากๆ แบบนี้ เรามีความสุขจนอยากจะส่งมันไปให้คนอื่นบ้าง ทุกครั้งที่ผมไปตามเมืองต่างๆ ผมมีความสุขมากจริงๆ มากจนล้นออกตาได้เลยครับ (หัวเราะ)” คือความหมายของคินน์พอร์ชสำหรับน้องเล็กอย่างบาร์โค้ด ที่มองว่าทุกวินาทีที่ได้อยู่ในโปรเจกต์นี้คือความสุขและความโชคดีเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะมีได้
ส่วนความหมายของคินน์พอร์ชสำหรับบิวนั้นก็เป็นไปในทางเดียวกันว่าคินน์พอร์ชคือโอกาสดีๆ ที่ทำให้เขาได้เจอคนดีๆ ได้มีโอกาสทดลองอะไรหลายอย่าง และเปิดโอกาสให้เขาได้เต็มที่กับชีวิต
ในขณะที่มายก็ได้ให้ความหมายของโปรเจกต์นี้ไว้ว่า “ผมนิยามคินน์พอร์ชด้วยคำว่า ‘อิสระ’ ครับ ผมรู้สึกว่าคินน์พอร์ชอธิบายไปถึงคำนี้ได้เป็นอย่างดี อิสระเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้พวกเรารวมถึงผมก้าวออกมาโชว์ในต่างประเทศ และได้มีโอกาสเจอแฟนคลับที่น่ารัก จริงๆ ต้องขอบคุณคินน์พอร์ช ทีมงานทุกคน และแฟนๆ ที่มอบอิสระนี้ให้กับผมครับ”
ไม่ว่าคินน์พอร์ชจะถูกนิยามในรูปแบบไหน หรือต้องเจอกับข้อบกพร่องและข้อจำกัดใดๆ สุดท้ายแล้วเราในฐานะผู้สังเกตุการณ์ของการเดินทางนี้ ยังเชื่ออยู่เสมอว่าหากไฟในการทำงานของคนเหล่านี้ยังไม่หมดลง พวกเขาจะสามารถจับมือกันไปถึงจุดที่สูงขึ้น ทะลุทุกความเป็นไปได้ และสร้างผลงานดีๆ ในฐานะคนไทยได้อีกมากมายอย่างที่ไบเบิ้ลพูดไว้ว่า
“คินน์พอร์ชคือจุดเริ่มต้นครับผม เส้นทางของเรามันแค่เริ่มต้น ผมเชื่อว่าถ้าเราและแฟนคลับเดินหน้าไปด้วยกัน เราจะสามารถทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ครับ”