บาเยิร์น มิวนิก เข้าใกล้การคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยที่ 8 ติดต่อกัน หลังจากที่บุกไปเอาชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ขาดลอย 4-2 ขณะที่คู่ระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กับ แฮร์ธา เบอร์ลิน ผู้เล่นได้นั่งคุกเข่าเพื่อรำลึกถึงการจากไปของ จอร์จ ฟลอยด์
ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกาเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมามีเกมใหญ่ที่น่าจับตามอง เมื่อเลเวอร์คูเซนที่ฟอร์มไม่เบาในช่วงหลังจะได้รับมือบาเยิร์น ที่กำลังต้องการเร่งสปีดเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้หลังมีคะแนนนำรองจ่าฝูงดอร์ทมุนด์อยู่ 7 แต้ม เพียงแต่เกมนี้เจ้าบ้านไม่มี ไค ฮาเวิร์ตซ์ กองหน้าดาวรุ่งตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น
แต่ถึงจะไม่มีดาวยิงกัปตันทีมวัยกระเตาะเลเวอร์คูเซนยังสามารถทำประตูนำได้ก่อนจากการหลุดเข้าไปทำประตูของ ลูคัส อลาริโอ ในช่วงต้นเกม แต่กลับกลายเป็นการกระตุกหนวดเสือให้บาเยิร์นเร่งฟอร์มบดขยี้อย่างหนักก่อนจะทำได้ 3 ประตูรวดในช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรก จากการยิงของ คิงส์ลีย์ โกม็อง, ลีออน กอเรตซ์กา และ แซร์ช นาบรี
ก่อนที่ในครึ่งเวลาหลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ดาวยิงตัวเก่งจะทำประตูปิดท้าย 4-1 จากการทะยานขึ้นโหม่งลูกเปิดของ โธมัส มุลเลอร์ เข้าไป ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของดาวยิงชาวโปแลนด์ด้วยในการทำประตูที่ 44 หลังจากเคยทำสถิติสูงสุดไว้ในฤดูกาล 2016-17 ส่วนเจ้าบ้านได้รางวัลปลอบใจเล็กน้อยจากประตูของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ กองหน้าดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่กลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่เช่นกันในการเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในบุนเดสลีกาได้ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับ 34 วัน ทำลายสถิติของ นูริ ซาฮิน ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2005
สำหรับเกมนี้ในช่วงของการอบอุ่นร่างกาย ผู้เล่นบาเยิร์นสวมเสื้อยืดที่มีข้อความว่า Rot Gegen Rassismus หรือ ‘สีแดงร่วมต่อต้านการเหยียดสีผิว’ และทุกคนที่ลงสนามสวมปลอกแขนที่มีข้อความว่า Black Lives Matter เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนในเรื่องของการต่อต้านการเหยียดสีผิวที่กำลังลุกลามไปทั่วโลกในเวลานี้
อีกคู่ที่ลงสนามในเวลาต่อมาที่เวสต์ฟาเลน สเตเดียม ดอร์ทมุนด์พบกับแฮร์ธา เบอร์ลิน โดยช่วงก่อนเกม ผู้เล่นทั้งสองทีมได้ร่วมกันคุกเข่าที่วงกลมกลางสนามเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีชาวสหรัฐอเมริกาที่เสียชีวิตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวที่กระทำการเกินกว่าเหตุในระหว่างการจับกุม ขณะที่ผลการแข่งขันปรากฏว่า ‘เสือเหลือง’ เอาชนะได้ 1-0 จากประตูโทนของ เอ็มเร ชาน และยังมีแต้มตามหลัง 7 คะแนนเท่าเดิม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
