×

ไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส Kingdom: Ashin of the North ความแค้นของคนชายขอบที่รัฐไม่เคยเหลียวแล

24.07.2021
  • LOADING...
Kingdom: Ashin of the North

HIGHLIGHTS

4 mins. read
  • “พี่น้องเราตายบนแผ่นดินโชซอน การแก้แค้นที่นองเลือดจะต้องเริ่มต้นขึ้นแน่นอน”
  • แม้จะเป็นเรื่องราวหลายร้อยปีก่อน แต่ไม่น่าเชื่อว่าการปล่อยข่าวลือ ข่าวหลอก ข่าวลวง หลอกใช้ชนกลุ่มน้อยเป็นเครื่องมือของภาครัฐ เพื่อยึดครองฐานอำนาจหลัก จะมีรูปแบบที่เหมือนเดินซ้ำอยู่บนเส้นทางเดิมๆ 

ประโยคหนึ่งใน Kingdom: Ashin of the North ที่กลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดหายนะโรคระบาดในยุคโชซอนก็คือคำพูดของเผ่าพาจอวีที่ว่า “พี่น้องเราตายบนแผ่นดินโชซอน การแก้แค้นที่นองเลือดจะต้องเริ่มต้นขึ้นแน่นอน”

 

Kingdom: Ashin of the North ตอนพิเศษย้อนไปเล่าถึงเหตุการณ์ก่อน Kingdom SS1 ซึ่งอยู่ราวรัชสมัยของพระเจ้าซอนโจ กษัตริย์องค์ที่ 14 แห่งโชซอน เทียบเคียงจากสงครามการรุกรานของญี่ปุ่นในคาบสมุทรเกาหลี (ค.ศ. 1592-1598) และแม้จะเป็นเรื่องราวหลายร้อยปีก่อน แต่ไม่น่าเชื่อว่าการปล่อยข่าวลือ ข่าวหลอก ข่าวลวง หลอกใช้ชนกลุ่มน้อยเป็นเครื่องมือของภาครัฐ เพื่อยึดครองฐานอำนาจหลัก จะมีรูปแบบที่เหมือนเดินซ้ำอยู่บนรอยเท้าและเส้นทางเดิมๆ จนถึงทุกวันนี้

 

 

ความเดิมตอนที่แล้ว

Kingdom ซีซันแรก เริ่มต้นด้วยการแพร่ระบาดของโรคร้ายในเมือง ‘ทงเร’ (เมืองปูซานในปัจจุบัน) จนในซีซัน 2 โรคร้ายเริ่มลุกลามขึ้นไปทางเหนือสู่เมืองฮันยาง ที่ตั้งพระราชวัง ซึ่งหลังจากผ่านการศึกนานา ท้ายที่สุดเรื่องราวจบลงด้วยดี บ้านเมืองคืนสู่ความสงบสุข ท้ายซีซัน 2 อีชางและสหายได้เดินทางไปแคว้นเหนือเพื่อค้นหาแหล่งกำเนิดของสมุนไพรคืนชีพ และได้เผชิญหน้ากับอาชิน ตัวละครลึกลับที่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด

 

จนมาถึงตอนพิเศษ Kingdom: Ashin of the North เป็นการเปิดเผยที่มาของตัวละครอาชิน และไขปริศนาของสมุนไพรคืนชีพ ดอกไม้สีม่วงที่เป็นต้นเหตุการแพร่กระจายของโรคระบาดในโชซอน 

 

จุดเริ่มต้นของ Kingdom: Ashin of the North

นักเขียนคิมอึนฮีมีเหตุผลสำคัญที่เลือกดินแดนทางตอนเหนือของโชซอนเป็นปูมหลังในซีรีส์ตอนพิเศษนี้ เพราะระหว่างที่เขียนบทซีซันก่อนหน้านี้ เธอจินตนาการให้สมุนไพรคืนชีพมีคุณสมบัติ ‘ทนต่อสภาพอากาศหนาว’ มันจึงน่าจะเติบโตอยู่ในเขตหวงห้าม เธอจึงคิดว่าเหตุการณ์น่าจะเชื่อมโยงกับ ‘ชาวเผ่าซองจอยาอิน’ ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณที่ราบสูงแคมา ฐานทัพ 4 แห่ง และป้อมเมือง 6 แห่งที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างแม่น้ำอัมนกและแม่น้ำดูมัน เพื่อใช้ทางยุทธศาสตร์ในสมัยพระเจ้าเซจง

 

นั่นทำให้คิมอึนฮีสนใจเกี่ยวกับอาณาเขตทางตอนเหนือของโชซอน ชายแดนติดต่อกับจีนที่เป็นถิ่นฐานของชนเผ่าหนี่ว์เจิน 

 

*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์*

 

คำจีนโบราณกล่าวไว้ “หากชาวหนี่ว์เจิน 10,000 คนรวมตัว พลังใดๆ ในโลกก็ไม่อาจหยุดยั้งพวกเขาได้”

 

หนี่ว์เจิน ชนเผ่าแดนเหนือ คนชายขอบที่ต่ำต้อยในสายตาโชซอน

หนี่ว์เจิน คือชนเผ่าที่ตั้งรกรากอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำพาจอ หรือแม่น้ำฮั่นในประเทศจีนทุกวันนี้ แบ่งออกเป็น 

  • ชนเผ่าซองจอยาอิน อาศัยอยู่แถบแม่น้ำอัมนก อยู่รอบๆ ป้อมรักษาการใกล้ชายแดน ที่ทางการโชซอนยอมให้ตั้งถิ่นฐานในบริเวณนั้นได้  
  • ชนเผ่าพาจอวี กลุ่มนักต่อสู้ที่มีความโหดเหี้ยมทารุณ ทั้งยังกุมอำนาจปกครองชาวหนี่ว์เจินทั้งหมด

 

ด้วยความหวาดกลัวว่าหากชาวหนี่ว์เจิน เผ่าพาจอวี และเผ่าซองจอยาอิน รวมตัวกันจะเกิดอันตรายต่อความมั่นคงของโชซอน ทางการจึงหลอกล่อหัวหน้าเผ่าซองจอยาอินว่าจะให้ตำแหน่งในการปกครองตัวเอง โดยแลกกับการเป็นไส้ศึกคอยทำตามคำสั่งของโชซอน และยังต้องคอยสืบข่าวสำคัญจากเผ่าพาจอวีให้ด้วย 

 

โชซอนไม่เคยแสดงความจริงใจในการช่วยเหลือหรือดูแลเผ่าซองจอยาอิน ซ้ำร้ายยังมองว่าพวกเขาเป็นคนนอก เป็นคนเผ่าชั้นต่ำที่ไม่ควรให้ค่า (ในสมัยโชซอน นอกเหนือจากกษัตริย์ที่อยู่สูงสุด จะมีการแบ่งชนชั้นออกเป็น 4 กลุ่ม คือชนชั้นปกครอง ขุนนาง ปราชญ์, ชนชั้นกลางที่ทำงานให้ราชสำนัก รวมถึงอาชีพที่มีความสำคัญ, ชาวบ้านสามัญชน, และทาสที่ซื้อขายได้ หรือทาสอิสระ เช่น ชนกลุ่มน้อย คนฆ่าสัตว์)

 

บทสนทนาระหว่างอาชินและพ่อที่เป็นหัวหน้าเผ่าซองจอยาอิน แสดงความเชื่อที่เขามีอย่างถวายหัวให้กับโชซอน ในขณะที่อาชินพบนัยแอบแฝงที่เด็กไม่รู้ประสายังมองเห็นได้จากสิ่งที่โชซอนทำกับพ่อและเผ่าของเธอ

 

“พเยซากุน แผ่นดินแห่งนั้นบรรพบุรุษของเราเคยอาศัยอยู่ เป็นแผ่นดินที่กษัตริย์แห่งโชซอนสละให้กับพวกเราที่ต้องต่อสู้กับพวกหัวขโมยและความหิวโหยอยู่บนที่ราบอันแห้งแล้งอีกฟากของแม่น้ำ และพระองค์ยังทรงมอบตำแหน่งขุนนาง แถมยังละเว้นภาษีให้พวกเราด้วย โชซอนมีพระคุณต่อพวกเรานะ และข้าก็ทรยศต่อพระคุณนั้นไม่ได้”

 

“แม้ว่าเขาจะมีพระคุณต่อบรรพบุรุษของเราก็จริง แต่บัดนี้พวกเขาทวงคืนทุกอย่างกลับไปหมดแล้วนะท่านพ่อ”

 

“ถ้าเราอดทนรอต่ออีกหน่อย เราก็จะได้รับการแต่งตั้ง และได้ใช้ชีวิตอย่างองอาจเช่นกัน”

 

พ่อของอาชินยังคงสำนึกในบุญคุณของโชซอนที่ให้พวกเขาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบริเวณอาณาจักร ยังคงต้องส่งของมีค่าที่หาได้ไปเป็นเครื่องบรรณาการ ทั้งที่ความเป็นอยู่ของผู้คนในเผ่ายิ่งแร้นแค้น แม่ที่เจ็บป่วยหนักหนาและดูว่าจะไม่มีท่าทีดีขึ้น น้องๆ ที่ยังเล็ก และพ่อที่ออกไปทำหน้าที่ไส้ศึกครั้งสำคัญ ให้อาชินทำหน้าที่คอยปกป้องดูแลคนในหมู่บ้าน

 

เมื่อเกิดเหตุการณ์พลิกผันที่ทำให้ทุกอย่างที่เคยเชื่อถือ ยึดมั่น ถล่มทลายลงไปตรงหน้า อาชินที่เหลือเพียงคนเดียวเดินเท้าเข้าไปกองทหารโชซอนเพื่อขอความช่วยเหลือ และความช่วยเหลือที่ได้รับก็น่าสงสัยเสียเหลือเกินว่าเธอกำลังจะกลายเป็นหมากเบี้ยไร้ราคาอีกตัวที่โชซอนเก็บเอาไว้

 

“แม้ว่าโชซอนจะมีพระคุณต่อบรรพบุรุษของเราก็จริง แต่บัดนี้พวกเขาทวงคืนทุกอย่างกลับไปหมดแล้วนะท่านพ่อ”

 

อาชิน ทาส คนชายขอบที่ไม่เคยมีตัวตนในสายตารัฐ

เผ่าซองจอยาอินอาศัยอยู่ในอาณาจักรโชซอนมายาวนานกว่าร้อยปี ทว่าพวกเขาไม่ใช่ทั้งคนของ ‘โชซอน’ และ ‘หนี่ว์เจิน’ แต่เป็นแค่กลุ่มชนที่ถูกข่มกดขี่ ตกเป็นทาส และไม่ได้รับการยอมรับ

 

อาชินเป็นชาวซองจอยาอินที่อาศัยอยู่แถบริมแม่น้ำอัมนก เธอได้ค้นพบภาพวาดบนผนังถ้ำในป่าพเยซากุน ซึ่งถูกกันบริเวณไว้เป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ห้ามผู้ใดย่างกราย ภาพวาดบนผนังถ้ำนั้นไขความลับของสมุนไพรคืนชีพ วิธีปรุงยาฝังเข็ม รวมถึงการทำลายร่างของผู้ฟื้นคืนชีพจากสมุนไพรชนิดนี้

 

เมื่อค้นพบในท้ายที่สุดว่าทุกอย่างคือเรื่องการเมือง เรื่องการแย่งชิงอำนาจ โดยไม่เคยเห็นคุณค่าของมนุษย์ที่อยู่ในชนชั้นชายขอบ อาชินจึงมีเพียงไฟแค้นและความโดดเดี่ยว ที่ผลักดันให้เธอทำทุกอย่างเพื่อมอบความวอดวายให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของเผ่าซองจอยาอิน

 

การแสดงของชอนจีฮยอนในตัวละครอาชินแสดงให้เห็นความแค้น ความโดดเดี่ยว การถูกกระทำย่ำยีซ้ำๆ จนมันฝังลึกอยู่ในกระดูก ในเลือดเนื้อของเธอ สายตาที่ว่างเปล่าจนน่ากลัวของอาชินทำให้เข้าใจว่าชะตากรรมที่เธอต้องเผชิญเกิดขึ้นจากระบบชนชั้น การรักษาอำนาจรวมศูนย์ และการกระทำของรัฐทั้งปวง เพื่อคงความแข็งแรงของระบบนี้ไปตราบนานเท่านาน 

 

และในตอนท้าย Kingdom: Ashin of the North แสดงให้เห็นว่าเมื่อคนๆ หนึ่ง อดทนถึงที่สุด สะสมความเกลียดชังไว้อย่างที่สุด เมื่อสุดทางแล้วคือการสู้กลับในแบบที่ต้องพินาศวอดวายกันไปตามๆ กัน

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ่านต่อ:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising