ประมวลภาพพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักร ตั้งแต่เสด็จฯ โดยรถม้าพระที่นั่ง ‘Diamond Jubilee State Coach’ ออกจากพระราชวังบักกิงแฮม มุ่งหน้าสู่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สถานที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โดยมีอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีเป็นผู้นำประกอบพระราชพิธีในครั้งนี้ (6 พฤษภาคม) ซึ่งมีขั้นตอนสำคัญ เช่น การกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ การเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และขึ้นประทับบนพระราชบัลลังก์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์อังกฤษโดยสมบูรณ์แล้ว ก่อนที่จะสถาปนาพระราชินีคามิลลาเป็นพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ขึ้นรถม้าพระที่นั่งทองคำ ‘Gold State Coach’ ร่วมขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค พร้อมด้วยเหล่าทัพต่างๆ จากสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ มุ่งหน้าสู่พระราชวังบักกิงแฮมและเสด็จออกสีหบัญชร เพื่อปะพบพสกนิกรในฐานะประมุของค์ใหม่ของประเทศ
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปีที่ประชาชนในสหราชอาณาจักรได้ร่วมเป็นประจักษ์พยานในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์และพระราชินีพระองค์ใหม่ของพวกเขาอีกด้วย
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักร หลังประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์และราชินีองค์ใหม่โดยสมบูรณ์
ภาพ: Oli Scarff / AFP
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา ขณะเสด็จฯ โดยรถม้าพระที่นั่ง ‘Diamond Jubilee State Coach’ ออกจากพระราชวังบักกิงแฮม
ภาพ: Loic Venance / AFP
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา ขณะเสด็จฯ โดยรถม้าพระที่นั่งมุ่งหน้าสู่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สถานที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ภาพ: Oli Scarff / AFP
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา เสด็จฯ ถึงโถงกลางมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เพื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีเป็นผู้นำประกอบพระราชพิธี
ภาพ: Jonathan Brady / Pool /AFP
เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ พร้อมด้วยแคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ รวมถึงเจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์และเจ้าชายหลุยส์แห่งเวลส์ ขณะเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ภาพ: Phil Noble / Pool / AFP
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ประกอบพิธีเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ (Anointing) ซึ่งนับเป็นขั้นตอนสำคัญที่ธำรงความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในบรรดาขั้นตอนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทั้งหมด
โดยเชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาที่กษัตริย์พระองค์ใหม่ของสหราชอาณาจักรจะได้ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากที่สุด
ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนเดียวที่สาธารณชนและผู้เข้าร่วมงานจะไม่ได้รับชมหรือถ่ายทอดออกอากาศ ซึ่งจะมีฉากกั้นบังการมองเห็น
ภาพ: Yui Mok / AFP
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ประทับบนพระราชบัลลังก์ราชาภิเษก พร้อมสวมมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด รวมถึงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (Crown Jewels) ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในครั้งนี้ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่า พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพโดยสมบูรณ์แล้ว
ภาพ: Aaron Chown / Pool / AFP
พระราชินีคามิลลาได้รับการสถาปนาเป็นพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ
ภาพ: Richard Pohle / Pool / AFP
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนสำคัญของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกภายในโถงกลางมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ก่อนเสด็จฯ กลับพระราชวังบักกิงแฮม
ภาพ: Ben Stansall / Pool / AFP
เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซ็กซ์ ขณะกำลังเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นับเป็นครั้งแรกที่พระองค์ได้ทรงพบกับสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์อังกฤษ หลังเปิดตัวหนังสืออัตชีวประวัติ จนเกิดกระแสดราม่าตามมาอย่างมากเมื่อหลายเดือนก่อน
ภาพ: Ben Stansall / Pool / AFP
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา ขณะเสด็จฯ โดยรถม้าพระที่นั่งทองคำ ‘Gold State Coach’ ร่วมขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค พร้อมด้วยเหล่าทัพต่างๆ จากสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ มุ่งหน้าสู่พระราชวังบักกิงแฮม
ภาพ: Marco Bertorello / AFP
กลุ่มต่อต้านราชวงศ์อังกฤษชูป้ายแสดงจุดยืน #NotMyKing สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐที่ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้ง ขณะที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา เสด็จฯ กลับพระราชวังบักกิงแฮม
ภาพ: Violeta Santos Moura / Pool / AFP
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงโบกพระหัตถ์ส่งท้าย หลังเสด็จออกสีหบัญชร เพื่อรับชมการแสดงของกองทัพอากาศและพบปะพสกนิกร เป็นอันเสร็จสิ้นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในครั้งนี้
ภาพ: Oli Scarff / AFP