คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ สั่งการให้กองทัพของประเทศเตรียมความพร้อมเพื่อทำการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ ‘ได้ทุกเวลา’ เพื่อยับยั้งสงคราม โดยกล่าวโจมตีว่าเป็นเพราะสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ได้ขยายขอบเขตการซ้อมรบร่วมทางทหารจนครอบคลุมไปถึงสินทรัพย์ด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
คำกล่าวของคิมจองอึนมีขึ้น หลังเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ฝึกซ้อมทางทหารเพื่อยกระดับ ‘ขีดความสามารถในการป้องปรามสงครามและการโจมตีตอบโต้ด้วยนิวเคลียร์’ เพื่อส่งสัญญาณเตือนไปถึงเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ที่กำลังซ้อมรบร่วมภายใต้รหัส Freedom Shield 23
รายงานจากสำนักข่าว KCNA ระบุว่า ในการฝึกซ้อมทางทหารของเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์จำลอง โดยขีปนาวุธบินได้ไกล 800 กิโลเมตร ก่อนที่จะพุ่งชนเป้าหมายที่ระดับความสูง 800 เมตร โดยเป็นการซ้อมการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี
คิมจองอึนได้เดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมดังกล่าวร่วมกับลูกสาวของตนเอง พร้อมกล่าวว่าการฝึกซ้อมครั้งนี้จะช่วยพัฒนาศักยภาพในการทำสงครามที่แท้จริงของกองทัพ และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมสำหรับ ‘การตอบโต้ด้วยนิวเคลียร์ที่มีความรุนแรงในทันที’
“สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ศัตรูของเราได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือมากขึ้น ส่งผลให้เกาหลีเหนือต้องยกระดับมาตรการป้องปรามสงครามนิวเคลียร์อย่างเร่งด่วน” คิมจองอึนกล่าว “กองกำลังนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะยับยั้ง ควบคุม และจัดการความเคลื่อนไหวตลอดจนการยั่วยุที่บุ่มบ่ามของศัตรู ด้วยการเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามในระดับสูง และจะปฏิบัติภารกิจที่สำคัญโดยไม่ลังเลในกรณีที่เกิดสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์” เขากล่าวเสริม
อนึ่ง เมื่อวานนี้ (19 มีนาคม) เกาหลีใต้และญี่ปุ่นรายงานตรงกันว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้นอกชายฝั่งตะวันออก ซึ่งถือเป็นการยิงขีปนาวุธรอบล่าสุด หลังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้กระหน่ำยิงขีปนาวุธหลายระลอก รวมถึงขีปนาวุธชนิด ICBM ด้วย เพื่อตอบโต้การซ้อมรบร่วมของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ รวมถึงการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในช่วงที่ผ่านมา
ภาพ: JUNG YEON-JE / AFP
อ้างอิง: