แม้กระแสแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจะตบเท้าเข้ามาทำตลาดและตั้งฐานในไทยอย่างต่อเนื่อง แต่แบรนด์รถยนต์สัญชาติอื่นๆ ก็ไม่น้อยหน้า รวมไปถึงสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้นั่นคือ Hyundai Motor และ Kia Motor ต่างก็สนใจขยายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังคงมีกระแสข่าวว่า Kia ก็อยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลไทย เพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน
ล่าสุดวันนี้ 2 สิงหาคม บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกมาประกาศจุดยืนแผนทำตลาด EV โดยส่ง The Kia EV5 รถยนต์เอสยูวีขนาดกลางแบบไฟฟ้า 100% ด้วยแคมเปญการตลาดใหญ่แห่งปี ‘ไม่กล้า ไม่เกิด – Make A Bold Move’ โดยดึงศิลปินหนุ่มมากความสามารถ เจฟ ซาเตอร์ ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์ให้กับ The Kia EV5
รายงานข่าวระบุว่า Kia มุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มในไทย คือ มิลเลนเนียลและครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่เน้นสื่อสารผ่านใจความหลัก ‘หากปราศจากความกล้า ดวงดาวในตัวคุณก็จะไม่เปล่งประกาย’ และเพื่อเป็นการส่งพลังและแรงบันดาลใจอย่างแท้จริงสู่ชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- หนีจีนมาไทย? ‘Kia’ แบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้ จ่อตั้งฐานผลิตในไทย 2.5 แสนคันต่อปี เริ่มสายพานปีหน้า
- รู้จัก ‘ZEEKR’ EV จีนน้องใหม่ที่เข้ามาบุกไทยรายที่ 8 ไม่เล่น ‘สงครามราคา’ ขอเป็นลักชัวรีแบรนด์ล้านต้นๆ ท้าชน BMW และ Mercedes-Benz
ฌ็อง-ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้ออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดบนพื้นฐานของแนวคิดหลัก 2 ข้อ คือ สร้างความแปลกใหม่เพื่อสร้างการรับรู้ และสร้างประสบการณ์พรีเมียมให้กับผู้บริโภค กระทั่งเดือนมีนาคม ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ได้จัดงานเปิดตัวแบรนด์และเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงอย่าง The Kia EV9 และยังมีการเปิดตัว The Kia EV5 อีกด้วย
“ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่บริษัทจะเดินหน้าเข้าถึงฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นการรับรู้และทำให้ทุกคนเข้าใจถึงค่านิยมหลักขององค์กร จึงเป็นที่มาของแคมเปญใหม่ ‘ไม่กล้า ไม่เกิด – Make A Bold Move’ ซึ่งนำเสนอ The Kia EV5 และดึงศิลปินมากความสามารถอย่าง เจฟ ซาเตอร์ มาร่วมแคมเปญ ซึ่งเกิดจากมุมมองเรื่อง ‘ความกล้า’ ที่เกียต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีความกลัวหรือความลังเลที่จะทำตามความฝัน
“โดยโจทย์คือ จะทำอย่างไรให้แนวคิด ‘ไม่กล้า ไม่เกิด’ เข้าถึงและตราตรึงในใจของผู้บริโภคชาวไทย บริษัทจึงเล็งเห็นว่าเจฟน่าจะเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดในการสื่อสารแนวคิดไปสู่คนรุ่นใหม่ที่ ‘กล้า’ ที่จะเปลี่ยน และก้าวข้ามขีดจำกัด” ฌ็องกล่าว
ขณะที่ เจฟ ซาเตอร์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับเกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ในฐานะพรีเซนเตอร์ของ The Kia EV5 ในส่วนของแคมเปญ ‘ไม่กล้า ไม่เกิด – Make A Bold Move’ ซึ่งมีโอกาสทำเพลงพิเศษด้วยโจทย์จากทางเกียที่อยากให้เพลงนี้ช่วยจุดประกายความกล้าให้ทุกคนที่ได้ฟังลุกขึ้นมาทำสิ่งใหม่ๆ หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสิ่งที่อยากจะเป็น
“ตัวผมเองก็เคยมีช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่ไม่รู้ว่าข้างหน้ามันจะเป็นอย่างไร เรารู้แค่ว่าตอนนั้นมันวนอยู่ที่เดิม เพราะเราไม่ได้ทำในสิ่งที่เราชอบ จนมาถึงจุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราต้องกล้าออกมา ไม่อย่างนั้นเราก็จะอยู่ในจุดเดิมๆ”
ดังนั้นการได้เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ The Kia EV5 รถที่สร้างมาเพื่อการเปลี่ยนแปลง จุดประกายคำว่าไม่กล้า ไม่เกิด ให้กับทุกคน ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ
สำหรับแผนธุรกิจ ฌ็องกล่าวเสริมว่า แคมเปญ ‘ไม่กล้า ไม่เกิด – Make A Bold Move’ จะสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย โดยเน้นสื่อสารผ่าน KOLs ที่หลากหลาย และใช้สื่อ DOOH
โดยไฮไลต์ของแคมเปญคือ เพลง ไม่กล้า ไม่เกิด (Make A Bold Move) ที่ เจฟ ซาเตอร์ มีส่วนร่วมในการเรียบเรียงเนื้อร้องและทำนองด้วยตัวเอง เตรียมปล่อยเพลงเวอร์ชันเต็มวันที่ 9 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ The Kia EV5 มีวางจำหน่าย 4 รุ่น ได้แก่ The Kia EV5 Light, The Kia EV5 Air, The Kia EV5 Earth Long Range และ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ในราคาเริ่มต้นที่ 1,299,000 บาท
Kia ขอชิงแชร์ 5% ของตลาดรถยนต์นั่ง ท้าชิงตลาด EV ในไทย ตั้งเป้า 50% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า ช่วงต้นปี 2567 บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ประกาศแผนการทำตลาดรถยนต์เกียในประเทศไทยด้วยการแต่งตั้งบริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาทำตลาดรถยนต์ในไทยเต็มสูบ
โดยวางแผนธุรกิจปี 2567-2571 ด้วยกลยุทธ์ Plan S-5 เป้าหมายหลัก 4 ข้อ ได้แก่
- ครองส่วนแบ่ง 5% ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
- เพิ่มการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสัดส่วน 50% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด
- ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบแบรนด์ที่มีการรับรู้ 5 อันดับแรก
- ขยายผู้จำหน่ายทั่วประเทศให้เติบโตขึ้น 5 เท่าตัว 100 แห่งภายใน 5 ปี
อ้างอิง: