หลังจากที่ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ ประกาศเกษียณจากการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสม หรือ MMA ในศึก UFC เขาได้ตั้งเป้าหมายสู่ความท้าทายครั้งต่อไปด้วยการผลักดันการบรรจุกีฬา MMA เข้าสู่โอลิมปิก
โดยนูร์มาโกเมดอฟให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวที่อุซเบกิสถาน เชื่อว่า MMA สามารถถูกบรรจุเป็นกีฬาโอลิมปิกในปี 2028 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
“การบรรจุ MMA เข้าสู่โอลิมปิกคือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่สุดสำหรับผมในช่วงเวลาหลายปีต่อจากนี้ เราพร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อเป้าหมายนี้”
โดยนูร์มาโกเมดอฟกำลังเตรียมพร้อมจัดการประชุมร่วมกับ โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) โดยเชื่อว่าสิ่งที่ MMA มีคือเรตติ้งและสปอนเซอร์ที่น่าดึงดูดพอๆ กับกรีฑา ซึ่งเป็นกีฬาได้รับความนิยมสูงสุดของกีฬาโอลิมปิกในสหรัฐฯ แต่อาจจะต้องปรับกฎกติกาการแข่งขัน เช่น การเพิ่มขนาดของนวมที่ใช้ชก รวมถึงปรับรูปแบบการแข่งขันใหม่เหมาะสมกับแฟนกีฬามากขึ้น
สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวในปี 2021 ที่ถูกเลื่อนการแข่งขันออกมาเป็นเวลา 1 ปี จะทำการเปิดในวันที่ 23 กรกฎาคม โดยมีกีฬาต่อสู้ที่ได้ถูกบรรจุ ทั้งมวยสากล ยูโด เทควันโด มวยปล้ำ และคาราเต้
สำหรับ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ นักชกวัย 32 ปี หลังจากที่ป้องกันแชมป์โลกสมัยที่ 3 ด้วยการเอาชนะ จัสติน แกธจี ไปในศึก UFC ครั้งที่ 254 เมื่อเดือนตุลาคม ก็ได้ตัดสินใจประกาศเกษียณจากการแข่งขันด้วยสถิติชก 29 ไฟต์ ชนะทั้ง 29 ไฟต์ ซึ่ง ดานา ไวท์ ประธาน UFC เชื่อว่านูร์มาโกเมดอฟจะหวนคืนสังเวียนเพื่อสร้างสถิติชัยชนะครั้งที่ 30
แต่นูร์มาโกเมดอฟมีเป้าหมายที่แตกต่างออกไป โดยล่าสุดเขาได้เปิดศึกใหม่ที่มีชื่อว่า EFC หรือ Eagle Fighting Championship ตามฉายา ‘เดอะ อีเกิล’ ของเขา ซึ่งเขามีเป้าหมายให้การแข่งขันรายการนี้เป็นเหมือนสังเวียนที่ผลักดันนักมวยไปสู่ UFC ในอนาคต
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: