หากเปรียบเทียบการกลายพันธุ์ของโควิดเป็นต้นไม้ที่เติบโตมาจากสายพันธุ์ดั้งเดิม
แตกกิ่งก้านเป็นสายพันธุ์อัลฟาเมื่อกันยายน 2563 เบตาเมื่อตุลาคม 2563 และเดลตาเมื่อกุมภาพันธ์ 2564 กิ่งที่แยกออกมาเป็นสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดทั่วโลกอยู่ในปัจจุบันกลับย้อนกลับไปถึงราวกลางปี 2563 ประเด็นนี้ยังคงเป็นปริศนาที่รอนักไวรัสวิทยาค้นหาคำตอบ ส่วนปลายกิ่งของโอมิครอนในขณะนี้แยกออกเป็นอีก 3 กิ่งคือสายพันธุ์ย่อย BA.1, BA.2 และ BA.3
BA.1 เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในแอฟริกาใต้และประเทศส่วนใหญ่ (ปัจจุบันมีกิ่งย่อยเป็น BA.1.1)
BA.3 ไม่ถูกพูดถึงมากนักเพราะยังมีข้อมูลน้อยมาก
BA.2 เป็นสายพันธุ์ที่ถูกพูดถึงมากขึ้น เพราะเริ่มพบการระบาดแทนที่สายพันธุ์หลักในบางประเทศ
เรารู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 บ้าง?
การกลายพันธุ์:
พูดถึงกิ่งก้านของโอมิครอนค้างไว้ โอมิครอนสายพันธุ์หลักมีการกลายพันธุ์บนโปรตีนหนามมากกว่า 30 ตำแหน่ง ทำให้แยกจากเดลตาชัดเจน ในขณะที่ BA.2 น่าจะแยกออกจาก BA.1 มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพราะมีกรดอะมิโนที่แตกต่างกันมากกว่า 40 ตำแหน่ง ซึ่งมีทั้งบริเวณโปรตีนหนามและส่วนอื่น ตำแหน่งหนึ่งทำให้ 2 สายพันธุ์นี้มีผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ต่างกันคือ 69-70 deletion
หรือการขาดหายไปของกรดอะมิโนตำแหน่งที่ 69-70 ทำให้ตรวจไม่พบยีน S (S-gene target failure: SGTF) ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ BA.1 และสามารถใช้แยกสายพันธุ์เบื้องต้นระหว่างโอมิครอนกับเดลตาได้ เพราะเดลตายังตรวจพบยีน S อยู่ ในขณะที่ BA.2 ไม่พบการกลายพันธุ์ตรงตำแหน่งนี้ จึงยังตรวจพบยีน S อยู่เช่นกัน ทำให้แยกกับสายพันธุ์เดลตาได้ลำบากหรือที่เรียกว่า ‘สายพันธุ์ล่องหน’
อย่างไรก็ตามในการตรวจ RT-PCR ต้องตรวจหายีน (ตำแหน่งสารพันธุกรรมที่ควบคุมลักษณะของไวรัส) อย่างน้อย 2 ยีนขึ้นไป ทำให้วิธีนี้ยังตรวจพบเชื้อได้ทุกสายพันธุ์ ส่วนชุดตรวจ ATK เป็นการตรวจหาโปรตีนส่วนอื่นที่มีการกลายพันธุ์น้อย ทำให้ยังตรวจพบผลบวกได้เช่นกัน ดังนั้นในแง่ของการวินิจฉัยโรค สายพันธุ์ BA.2 รวมถึงสายพันธุ์ย่อยอื่น จึงไม่น่ากังวลแต่อย่างใด
การแพร่กระจาย:
ข้อมูลจากสหราชอาณาจักรพบว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ BA.2 คิดเป็น 126% และอัตราการติดเชื้อในผู้สัมผัสใกล้ชิดในครอบครัวเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ BA.1 (13.4% vs. 10.3%) หากมองย้อนกลับไปที่อัลฟา เดลตา และโอมิครอน สายพันธุ์หลักที่เคยระบาดแทนที่สายพันธุ์ก่อนหน้าต่างมีคุณสมบัติที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือแพร่กระจายเร็วขึ้น
ทำให้ BA.2 มีโอกาสแทนที่ BA.1 ในที่สุด ยกตัวอย่างสถานการณ์ในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบการระบาดของ BA.1 ตั้งแต่พฤศจิกายน 2564 ทว่าตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา BA.2 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันคิดเป็น 35% เดนมาร์ก BA.1 เริ่มระบาดเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2564 ต่อมาประมาณ 2 สัปดาห์ก็เริ่มพบ BA.2 ระบาดซ้อนจนปัจจุบันกลายเป็นสายพันธุ์หลักแล้ว (70%)
ความรุนแรง:
ข้อมูลจากเดนมาร์กเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 พบว่า อัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ติดเชื้อ BA.2 ไม่แตกต่างจาก BA.1 และคาดว่าวัคซีนสามารถป้องกันอาการรุนแรงได้เหมือนกัน
ประสิทธิผลของวัคซีน:
วัคซีนป้องกันอาการป่วยจากโอมิครอนลดลงเมื่อเทียบกับเดลตา เพราะไวรัสหลบหลีกภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดิมได้มากขึ้น แต่ประสิทธิผลระหว่าง BA.1 และ BA.2 ไม่แตกต่างกัน โดยข้อมูลจากสหราชอาณาจักรพบว่า การได้รับวัคซีน 2 เข็มนานเกิน 6 เดือนป้องกันอาการป่วยได้ 9% และ 13% ตามลำดับ แต่หลังจากได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 2 สัปดาห์ขึ้นไปสามารถป้องกันได้เพิ่มขึ้นเป็น 63% และ 70%
นอกจากปัจจัยด้านไวรัสที่หลบหลีกภูมิคุ้มกันได้เก่งขึ้นแล้ว ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนยังลดลงตามระยะเวลาด้วย (Waning Immunity) ประสิทธิผลป้องกันอาการป่วยของวัคซีน AstraZeneca 2 เข็มต่อ BA.1 เริ่มต้นที่ 45-50% ลดลงจนไม่สามารถป้องกันได้ที่ 5 เดือนหลังฉีดเข็มที่ 2 ส่วนวัคซีนชนิด mRNA 2 เข็มเริ่มต้นที่ 60-75% ลดลงเหลือประมาณ 10% ที่ 6 เดือน ดังนั้นการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจึงสำคัญ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 บริษัท Pfizer และ BioNTech แถลงข่าวว่าได้เริ่มต้นทดลองวัคซีนรุ่นใหม่ที่เฉพาะเจาะจงกับสายพันธุ์โอมิครอนในอาสาสมัครอายุ 18-55 ปี จำนวน 1,420 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนรุ่นใหม่เป็นเข็มที่ 3-4 กลุ่มที่จะได้รับวัคซีนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่เป็นเข็มที่ 5 และกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนรุ่นใหม่เป็นเข็มที่ 1-3 ซึ่งต้องติดตามผลการศึกษาต่อไป
การระบาดทั่วโลก:
ปัจจุบันตรวจพบ BA.2 ใน 57 ประเทศทั่วโลก และกลายเป็นสายพันธุ์หลักในบางประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ (87%) เดนมาร์ก (70%) สิงคโปร์ (54%) และในภาพรวมของทวีปเอเชีย BA.1 มีแนวโน้มลดลง สวนทางกับ BA.2 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะนี้คิดเป็น 24% สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อการระบาดยังคงดำเนินต่อไป ไวรัสยังคงกลายพันธุ์ต่อเนื่อง และการแตกแขนงเป็นโอมิครอนน่าจะไม่ใช่กิ่งก้านสุดท้าย
แต่ด้วยความรุนแรงของโอมิครอนที่น้อยกว่าเดลตา (‘น้อยกว่า’ ไม่ได้หมายความว่า ‘ไม่รุนแรง’) และความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนมากขึ้น หลายประเทศจึงเริ่มผ่อนคลายมาตรการ เช่น สหราชอาณาจักรที่กลับไปใช้แผน A ซึ่งไม่บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในสถานที่สาธารณะ เดนมาร์กยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดภายในประเทศทั้งหมด แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม
โดยสรุปถึงแม้โอมิครอนจะสามารถระบาดแทนที่เดลตาได้ แต่โอมิครอนก็ยังกลายพันธุ์ต่อเป็น BA.2 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และอาจกลายเป็นสายพันธุ์หลักใน 1-2 เดือน เพราะสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่า BA.1 ทว่าจากข้อมูลที่มี ณ ขณะนี้ความรุนแรงของโรคไม่ต่างจากโอมิครอนสายพันธุ์หลัก และวัคซีนเข็มกระตุ้นยังคงสามารถป้องกันอาการป่วยและอาการรุนแรงได้
การผ่อนคลายมาตรการควรคำนึงถึงความครอบคลุมของวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงต่ออาการรุนแรง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และระยะเวลาหลังจากได้รับวัคซีน ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนควรได้รับวัคซีน 2 เข็มแรก ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเกิน 3-6 เดือนควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับเด็ก วัคซีนสามารถลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น กลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในเด็ก (MIS-C) ได้
อ้างอิง:
- Where did Omicron come from? Three key theories https://www.nature.com/articles/d41586-022-00215-2
- SARS-CoV-2 variants of concern and variants under investigation in England: Technical briefing 35 (28 January 2022) https://assets.publishing.service.gov.uk/government/uploads/system/uploads/attachment_data/file/1050999/Technical-Briefing-35-28January2022.pdf
- Now, an Omicron variant, BA.2, accounts for almost half of all Danish Omicron-cases https://en.ssi.dk/news/news/2022/omicron-variant-ba2-accounts-for-almost-half-of-all-danish-omicron-cases
- Omicron subvariant BA.2 likely to have same severity as ‘original’ -WHO https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/omicron-subvariant-ba2-likely-have-same-severity-original-who-2022-02-01/
- BA.2 Omicron sub-variant now in 57 countries, warns WHO https://www.livemint.com/news/world/omicron-subvariant-ba-2-now-in-57-countries-warns-who-details-here-11643771370258.html
- COVID-19 vaccine surveillance report: Week 4 (27 January 2022) https://assets.publishing.service.gov.uk/government/uploads/system/uploads/attachment_data/file/1050721/Vaccine-surveillance-report-week-4.pdf
- Pfizer and BioNTech Initiate Study to Evaluate Omicron-Based COVID-19 Vaccine in Adults 18 to 55 Years of Age https://www.pfizer.com/news/press-release/press-release-detail/pfizer-and-biontech-initiate-study-evaluate-omicron-based
- Denmark Covid restrictions lifted despite increase in cases https://www.bbc.com/news/world-europe-60215200
- Enhancing response to Omicron SARS-CoV-2 variant https://www.who.int/publications/m/item/enhancing-readiness-for-omicron-(b.1.1.529)-technical-brief-and-priority-actions-for-member-states