แมนฯ ยูไนเต็ด คาดหวังอะไรได้จากว่าที่กุนซือใหม่ที่ชื่อ เอริก เทน ฮาก?

หลังจากที่มีกระแสข่าวต่อเนื่องมาร่วม 2 สัปดาห์เกี่ยวกับการตามหาผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีขั้นตอนของการสัมภาษณ์แคนดิเดตที่น่าสนใจ

ดูเหมือนตอนนี้ทิศทางค่อนข้างชัดเจนแล้วว่านายใหญ่แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดคนใหม่คือ เอริก เทน ฮาก โค้ชชาวดัตช์จากทีมอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่จะเข้ามารับตำแหน่งในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้ต่อจากราล์ฟ รังนิก

ตามรายงานข่าวล่าสุดในสื่อหลักของอังกฤษทุกสำนักต่างรายงานในทิศทางเดียวกันว่า ถึงแม้จะยังไม่มีการตกลงกันอย่างเป็นทางการระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ดูเหมือนแมนฯ ยูไนเต็ดพอใจกับการได้พูดคุยกับเทน ฮาก มากกว่ารายที่เป็นข่าวเชื่อมโยงมาหลายปีอย่าง เมาริซิโอ โปเชตติโน ขณะที่ ยูเลน โลเปเตกี แห่งทีมเซบียา อีกตัวเลือกตัดสินใจถอนตัวจากการสัมภาษณ์

โดยตอนนี้การพูดคุยอยู่ในขั้นตอนของการ ‘เก็บรายละเอียด’ ขั้นสุดท้าย ตั้งแต่เรื่องของแผนการทำทีม ระบบการเล่น ไปจนถึงนักฟุตบอลที่จะมีการนำเข้ามาเสริมทีม ซึ่งได้มีการพูดคุยกันระหว่างเทน ฮาก กับผู้บริหารอย่าง ริชาร์ด อาร์โนลด์ ซีอีโอสโมสรคนใหม่ และ โจเอล เกลเซอร์ เจ้าของสโมสรร่วม และการพูดคุยนั้นเป็นไปอย่างน่าประทับใจ ซึ่งแม้ว่าโปเชตติโนจะมีคิวสัมภาษณ์อีกครั้งเช่นกัน แต่คาดว่าจะเป็นการแจ้งอย่างสุภาพว่าจะไม่ได้ตำแหน่ง

ในเรื่องของเงินชดเชยที่แมนฯ ยูไนเต็ดจะต้องจ่ายให้แก่อาแจ็กซ์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะคาดว่าจะใช้เงินเพียงแค่ 2 ล้านปอนด์เท่านั้นสำหรับโค้ชวัย 52 ปี เรียกได้ว่าแทบไม่มีอุปสรรคใดให้ต้องกังวลอีกเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่

เช่นนั้นแฟนปีศาจแดงจะสามารถคาดหวังสิ่งใดได้บ้างจาก ‘ว่าที่’ ผู้จัดการทีมคนใหม่?

แท็กติกและการจัดการระหว่างเกม

หากไม่นับสโมสรระดับท็อปของยุโรปอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิกแล้ว ทีมรองลงมาที่ได้รับการยกย่องอย่างมากคืออาแจ็กซ์ ที่เล่นฟุตบอลได้เป็นระบบ และเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นสูง

ในช่วงที่ผ่านมาอาแจ็กซ์จะเล่นในระบบที่เหมือนกับ 4-2-3-1 โดยมีกองกลางเพลย์เมกเกอร์ 2 คนที่เล่นในตำแหน่งโฮลดิงมิดฟิลด์ แต่สามารถปรับระบบเป็น 3-4-3 ได้อย่างง่ายดาย โดยจะมีเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 1 คนที่เติมขึ้นมาในแดนกลาง นอกจากนี้หากทีมขึ้นนำเทน ฮากยังสามารถปรับทีมเป็นระบบ 4-1-4-1

สตีฟ แม็คคลาเรน อดีตผู้จัดการทีมชาวอังกฤษได้เคยกล่าวยกย่องเทน ฮากว่าเป็นคนที่ปรับเปลี่ยนแท็กติกระหว่างเกมได้เก่งที่สุดคนหนึ่งเมื่อเทียบกับโคตรผู้จัดการทีมที่เขาเคยเป็นมือสองให้อย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพียงแต่ยังมีข้อบกพร่องบ้างในเรื่องสไตล์การเล่น

เพราะถึงสไตล์การเล่นอาแจ็กซ์ของเทน ฮาก เป็นทีมที่เล่นเกมรุก บุกได้ดุดันเร้าใจมีความสวยงามในการเล่นตามฉบับของ Total Football ที่สืบทอดมาจากปรมาจารย์ลูกหนังอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ ‘เกมรับที่ดีที่สุดคือเกมรุก’ ส่งผลลบต่อทีมเหมือนที่ตกรอบยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ด้วยน้ำมือเบนฟิกา หรือในลีกดัตช์เองบ่อยครั้งที่ทำแต้มหล่นเพราะไม่สามารถปิดเกมได้

การเตรียมทีมที่เข้มข้น

เอริก เทน ฮาก เป็นโค้ชที่ขึ้นชื่อว่าทุ่มเทกับการทำงานอย่างมาก และให้ความสำคัญกับการเตรียมทีมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซ้อมหรือการวิเคราะห์ก่อนเกม ในการหาคำตอบว่าเขาจะสามารถทำให้ลูกทีมเล่นงานจุดอ่อนคู่แข่งได้อย่างไร

ในการซ้อมเองเทน ฮากเป็นโค้ชที่ลงรายละเอียดค่อนข้างมาก ก่อนการซ้อมจะมีการวางแผนอย่างดี และรู้ว่าจะต้องจัดการจุดไหนบ้าง

นักปั้นมือทอง

อีกหนึ่งสิ่งที่โค้ชผู้นี้ได้รับการยกย่องอย่างมากจากคนในวงการคือความสามารถในการปั้นดาวรุ่งให้กลายเป็นดาวเด่นของจริง

โดยเทน ฮากมีสกิลในการที่จะประเมินความสามารถของลูกทีมออก และรู้วิธีที่จะ ‘ขัดเกลา’ นักเตะในทีมให้กลายเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้นได้อย่างไร

นักเตะดาวเด่นที่เคยผ่านการปั้นโดยเทน ฮาก ได้แก่ แฟรงกี เดอ ยอง (บาร์เซโลนา), มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ (ยูเวนตุส), ฮาคิม ซิเยค (เชลซี) และรวมถึง ดอนนี ฟาน เดอ บีค ที่เมื่อครั้งยังอยู่กับอาแจ็กซ์ถือเป็นหนึ่งในกองกลางที่ครบเครื่องและโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในยุโรป

แมนฯ ยูไนเต็ดเองเป็นทีมที่มีนักฟุตบอลอายุน้อยหลายราย ทั้งในส่วนของนักเตะจากอคาเดมีอย่าง แอนโธนี เอลังกา, มาร์คัส แรชฟอร์ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ซีดาน อิกบาล, ทาฮิธ ชอง ไปจนถึง จาดอน ซานโช, อาหมัด ดิยัลโล ที่ซื้อมาร่วมทีม ซึ่งนักเตะเหล่านี้คาดหวังได้ว่าจะได้รับการดูแลโดยกุนซือที่มือดีที่สุดคนหนึ่งในด้านนี้

การซื้อตัวที่ใช่มากกว่าตัวที่ชอบ

ปัญหาของแมนฯ ยูไนเต็ดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือการซื้อผู้เล่นที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของทีม ไม่สอดคล้องไปกับแนวทางของทีม ซึ่งเรื่องนี้มีความพยายามที่จะแก้ไขด้วยการหาคนที่รับผิดชอบโดยตรงอย่าง จอห์น เมอร์โท ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอล และจะมีการดึงตัวละครใหม่คือ แอนดี โอบอยล์ มาช่วยงานส่วนนี้ด้วย

เมื่อมองถึงสิ่งที่สโมสรพยายามแก้ไขเพื่อตามให้ทันในสิ่งที่คู่แข่งอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูลทำ และนำหน้าไปไกล โค้ชอย่างเทน ฮาก ที่เป็นโค้ชแบบ ‘ภาคพื้นยุโรป’ ที่เข้าใจการทำงานร่วมกับผู้อำนวยการสโมสรเป็นอย่างดีจึงเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง

เทน ฮากรู้ว่านักฟุตบอลแบบไหนจะเล่นเข้ากับระบบ และด้วยความรู้ที่สั่งสมมาจากอาแจ็กซ์ ซึ่งมีเครือข่ายแมวมองสำหรับนักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดทีมหนึ่งของโลก โดยเฉพาะการเฟ้นหาเพชรเม็ดงามจากลาตินอเมริกาน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกนำมาเติมเต็มได้

มากกว่านั้น คือการที่เขาจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นด้วยในการเลือกซื้อนักเตะคนใดก็ได้ในโลกด้วย ‘พลัง’ ของสโมสรอย่างแมนฯ ยูไนเต็ดที่เป็นหนึ่งในแบรนด์กีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่มุมมองและการร่วมมือกับฝ่ายบริหารเพื่อหานักเตะที่ใช่ที่สุดสำหรับการพาทีมก้าวไปข้างหน้า ในการจะมองหานักเตะที่ใช่และดีที่สุดสำหรับระบบการเล่นของทีม

เทน ฮาก x รังนิก

อีกหนึ่งคนที่จะมีส่วนสำคัญกับการคืนชีพแมนฯ ยูไนเต็ดคือ ราล์ฟ รังนิก รักษาการณ์ผู้จัดการทีมที่จะขยับขึ้นไปนั่งแท่นที่ปรึกษาเต็มตัวหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ และการทำงานร่วมกันระหว่างปรมาจารย์ลูกหนังชาวเยอรมัน กับกุนซือคนใหม่อย่างเทน ฮากเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างมาก

ทั้งนี้ เป็นที่คาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่ารังนิกในฐานะที่ปรึกษาต้องการจะทำงานร่วมกับโค้ชที่ทำงานร่วมกันได้ มองในทิศทางเดียวกัน และพอจะสามารถชี้แนะให้กันได้มากกว่าที่จะแข็งขืนยืนยันในการตัดสินใจและแนวทางของตัวเอง

สำหรับเทน ฮากคาดว่าเป็นคนที่รังนิกถูกใจด้วยเช่นกัน และคาดว่าการร่วมมือกันระหว่างทั้งสองน่าจะออกมาดี แต่จะดีจริงหรือไม่ต้องจับตากัน เช่นเดียวกับเรื่องทั้งหมดข้างบนซึ่งเป็นสิ่งที่เราตั้งความคาดหวังได้ในเบื้องต้น หากเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่จริง

โดยคาดว่าการเจรจาจะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า และการประกาศอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์หน้า

อ้างอิง:

FYI

มีรายงานว่า เทน ฮาก จะดึง โรบิน ฟาน เพอร์ซี อดีตศูนย์หน้าแมนฯ ยูไนเต็ดมาช่วยเหลืองานในทีม
แอนดี โอบอยล์ ที่ถูกคาดว่าจะดึงมาช่วยงาน จอห์น เมอร์โท เคยเป็นอดีตโค้ชทีมอคาเดมีของแมนฯ ยูไนเต็ดในช่วงสั้นๆ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่าย Elite Performance ของพรีเมียร์ลีก