อะไรทำให้ ‘เดนมาร์ก’ เป็นประเทศแรกๆ ในยุโรปที่คลายมาตรการรับมือโควิดทั้งหมด

เดนมาร์ก เป็นประเทศแรกๆ ในสหภาพยุโรปที่รัฐบาลประกาศคลายมาตรการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดภายในประเทศทั้งหมด นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (10 กันยายน) พร้อมระบุว่า “โควิดไม่ได้เป็นภัยคุกคามร้ายแรงของสังคมเดนมาร์กอีกต่อไป” หลังทางการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไว้ได้ พร้อมกับทยอยเปิดโอกาสให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเหมือนช่วงก่อนยุคโควิดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แมกนุส ฮิวนิเก รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์กเผยว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะการฉีดวัคซีนภายในประเทศที่รุดหน้า การมีแผนควบคุมโรคระบาดที่รัดกุม รวมถึงประชาชนชาวเดนมาร์กมีความพยายามที่จะก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ร่วมมือกัน และเชื่อมั่นในรัฐบาล

การประกาศยกเลิกมาตรการป้องกันโควิดทั้งหมด เปิดโอกาสให้ชาวเดนมาร์กกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้งในรอบเกือบ 2 ปี โดยไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว ไม่จำเป็นต้องแสดงวัคซีนพาสปอร์ต เพื่อเข้าใช้บริการในบางสถานที่ เช่น ไนต์คลับ และพิพิธภัณฑ์อีกต่อไป กลับมารวมกลุ่มขนาดใหญ่ในพื้นที่สาธารณะ เข้าชมกีฬาและคอนเสิร์ตได้

สถานการณ์โควิดโดยรวมในเดนมาร์ก มีผู้ติดเชื้อสะสมราว 3.53 แสนราย เสียชีวิตราว 2,600 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ระดับราวหลักร้อยต่อวัน ขณะที่ผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ในระดับเพียงหลักหน่วยเท่านั้น

โดย Our World in Data ระบุว่า ขณะนี้เดนมาร์กมีผู้ที่เข้ารับวัคซีนโควิดแล้วอย่างน้อย 1 โดส มากถึง 76.2% ของพลเมืองทั้งหมด ขณะที่ 73.8% เข้ารับวัคซีนครบโดสแล้ว นับเป็นประเทศที่มีสัดส่วนประชากรเข้ารับวัคซีนโควิดแล้วมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

วัคซีนที่เดนมาร์กใช้เป็นวัคซีนจาก Pfizer-BioNTech, Moderna และ Johnson & Johnson ซึ่งเป็นวัคซีนที่ต้านโควิดสายพันธ์ุเดลตาได้ดี แม้ประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อเทียบกับโควิดสายพันธ์ุดั้งเดิมที่เคยตรวจพบที่อู่ฮั่น อีกทั้งยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อได้

ในขณะที่นักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศยังต้องแสดงหลักฐานการตรวจไม่พบเชื้อโควิดก่อนที่จะเดินทางเข้าเดนมาร์ก โดยผลตรวจ PCR จะต้องไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ขณะที่ผลตรวจ Rapid Antigen Test จะต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง อีกทั้งยังต้องตรวจหาเชื้ออีกครั้งหลังเดินทางถึงเดนมาร์กแล้วและกักตัวอีก 10 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของประเทศต้นทางที่เดินทางมา

แต่อย่างไรก็ตาม ฮันนิเกระบุว่า ทางการเดนมาร์กยังคงเฝ้าจับตา และติดตามสถานการณ์การะแพร่ระบาดของโควิดต่อไป เพื่อตอบสนองต่อโรคระบาดได้อย่างทันท่วงที หากเกิดสถานการณ์ใดๆ ขึ้น หากตรวจพบไวรัสกลายพันธ์ุชนิดใหม่ที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น มาตรการรับมือโรคระบาดต่างๆ อาจถูกนำมาใช้อีกครั้ง

ทางด้าน ไมเคิล บัง ปีเตอร์เซน อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยออร์ฮูส ในเดนมาร์ก ผู้ที่เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลเดนมาร์กระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เดนมาร์กประสบความสำเร็จคือ ‘การที่รัฐบาลได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน’ ทำให้ประชาชนตัดสินใจเข้ารับวัคซีนเป็นจำนวนมาก

ปีเตอร์เซนระบุว่า ความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของเดนมาร์กอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากและมีเสถียรภาพ สิ่งนี้ส่งเสริมให้การฉีดวัคซีนโควิดภายในประเทศรุดหน้า และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเขายังเชื่อว่า ความเชื่อมั่นที่รัฐบาลเดนมาร์กและประชาชนมีต่อกันนั้นมีสูงมากเพียงพอที่จะก้าวข้ามอุปสรรคอะไรก็ตามที่อาจต้องเผชิญในอนาคต

ภาพ: Ole Jensen / Getty Images

อ้างอิง: