เครื่องบินโดยสารสายการบิน Azerbaijan Airlines เที่ยวบินที่ 8432 ประสบเหตุตกใกล้กับเมืองอัคเทาของคาซัคสถาน หลังเดินทางออกจากกรุงบากูของอาเซอร์ไบจาน มุ่งหน้าไปยังเมืองกรอซนี เมืองเอกของแคว้นเชชเนีย ทางใต้ของรัสเซีย ในช่วงเช้าของวันพุธ (25 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 38 คน และรอดชีวิต 29 คน จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 67 คน ซึ่งรวมถึงนักบิน 2 คน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 1 คน
ภายหลังเกิดเหตุ ปรากฏทั้งภาพและคลิปวิดีโอในช่วงเกิดเหตุที่สร้างความสงสัยถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก โดยเฉพาะภาพของรูพรุนบนตัวเครื่องบินที่ดูคล้ายกับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด
ขณะที่สื่อหลายสำนักรายงานผลการสืบสวนขั้นต้นของทางอาเซอร์ไบจานที่เชื่อว่าเครื่องบินถูกยิงตกโดยระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของรัสเซีย แต่ทางด้านรัสเซียยังไม่ยืนยันข้อเท็จจริง และเตือนถึงการตั้งสมมติฐานก่อนที่จะได้ข้อสรุปจากการสืบสวน
โดยความหวังที่จะช่วยให้ทราบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือกล่องดำ ซึ่งล่าสุดทางการคาซัคสถานสามารถเก็บกู้ได้แล้ว 2 กล่อง
และนี่คือรายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เรารู้จนถึงตอนนี้
เกิดอะไรขึ้น?
ตามรายงานของเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน Flightradar24 พบว่าเที่ยวบินที่ 8432 ของ Azerbaijan Airlines ออกเดินทางจากสนามบินในกรุงบากู ในเวลา 07.55 น. ของวันที่ 25 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่นในอาเซอร์ไบจาน ก่อนจะตกในอีกประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งต่อมา
รายงานจากสื่อบางสำนักระบุว่า เครื่องบินทำการลงจอดฉุกเฉินใกล้กับเมืองอัคเทา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาซัคสถาน
ขณะที่สื่อทางการรัสเซียรายงานว่า เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางเนื่องจากจุดหมายที่เมืองกรอซนีมีหมอกหนา
อย่างไรก็ตาม สิ่งผิดปกติที่ทำให้เกิดข้อสงสัยคือ ทำไมเครื่องบินจึงเลือกบินข้ามทะเลแคสเปียนก่อนจะประสบเหตุตกในเมืองอัคเทา ทั้งที่กรุงบากูและเมืองกรอซนีอยู่ทางทิศตะวันตก ส่วนเมืองอัคเทานั้นอยู่ทางทิศตะวันออก
ด้าน มารัต คาราบาเยฟ (Marat Karabayev) รัฐมนตรีคมนาคมของคาซัคสถาน เปิดเผยว่า ศูนย์ควบคุมการบินของคาซัคสถานได้รับสัญญาณจากรัสเซียประมาณ 45 นาทีก่อนเครื่องบินจะตก โดยมีการแจ้งว่าเที่ยวบินที่ 8432 กำลังจะเปลี่ยนเส้นทาง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมเที่ยวบินของรัสเซียระบุว่า ระบบควบคุมของเครื่องบินมีปัญหา และนักบินของเที่ยวบิน 8432 ตัดสินใจบินไปยังอัคเทา หลังจากได้รับรายงานว่าสภาพอากาศที่กรอซนีนั้นเลวร้าย
และในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ควบคุมเที่ยวบินของรัสเซียยังแจ้งทางคาซัคสถานว่า “ถังออกซิเจนเกิดระเบิดในห้องโดยสารส่งผลให้ผู้โดยสารหมดสติ”
ทั้งนี้ นักบินของเที่ยวบิน 8432 พยายามลงจอดที่สนามบินอัคเทา 2 ครั้ง ก่อนจะเบี่ยงออกจากเส้นทางเดิม และสูญเสียการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมเที่ยวบินและประสบเหตุตกกระแทกพื้นไฟลุกไหม้
Flightradar24 ระบุในโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า “เที่ยวบิน 8432 ถูกรบกวนด้วยระบบ GPS Jamming ใกล้กับเมืองกรอซนี”
โดยระบบ GPS Jamming นั้นเป็นปัญหาที่ทราบกันดีบนเที่ยวบินที่เดินทางผ่านน่านฟ้าของรัสเซีย ซึ่ง Flightradar24 มองว่าผลกระทบจากการรบกวนสัญญาณ GPS อาจส่งผลขัดขวางระบบนำทางและการสื่อสารของเครื่องบินอย่างมาก และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้
นอกจากนี้ Flightradar24 ยังตั้งข้อสังเกตจากข้อมูลและวิดีโอของเหตุการณ์เครื่องบินตก โดยระบุว่า “บ่งชี้ถึงปัญหาการควบคุมที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องบิน”
รายละเอียดผู้เสียชีวิต-รอดชีวิต
เจ้าหน้าที่กู้ภัยของคาซัคสถานสามารถช่วยผู้รอดชีวิตออกมาจากซากเครื่องบินได้ 29 คน ซึ่ง 2 คนพบว่าเป็นเด็ก
ข้อมูลเบื้องต้นจากกระทรวงคมนาคมคาซัคสถานระบุว่า ผู้โดยสารบนเครื่องบิน 37 คนเป็นชาวอาเซอร์ไบจาน 16 คนเป็นชาวรัสเซีย 6 คนเป็นชาวคาซัคสถาน และ 3 คนมาจากคีร์กีซสถาน
ติมูร์ มูราตอฟ รองรัฐมนตรีสาธารณสุขของคาซัคสถาน กล่าวว่าชาวรัสเซีย 9 คน และชาวอาเซอร์ไบจาน 14 คน ถูกส่งกลับประเทศของตนแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 6 คนยังคงรับการรักษาในอัคเทา ในจำนวนนี้ 4 คนอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก และ 1 คนอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต
อะไรเป็นสาเหตุเครื่องบินตก?
ในช่วงแรก สายการบิน Azerbaijan Airlines รายงานว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากเครื่องบินชนกับฝูงนก โดยสำนักงานขนส่งทางอากาศของรัสเซียก็ระบุว่าเครื่องบินตกหลังจากชนกับนก
อย่างไรก็ตาม วิดีโอและภาพถ่ายของเครื่องบินหลังจากตกแสดงให้เห็นรูพรุนบนตัวเครื่องบินที่ดูคล้ายกับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด โดยสาเหตุของรูพรุนเหล่านี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของยูเครน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสภาความมั่นคงแห่งชาติและการป้องกันประเทศของยูเครน โต้แย้งข้อกล่าวอ้างเรื่องเครื่องบินชนฝูงนกโดยโพสต์ในโซเชียลมีเดียอย่างชัดเจนว่าเครื่องบิน ‘ถูกระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของรัสเซียยิงตก’
เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากยูเครนโจมตีภาคใต้ของรัสเซียด้วยโดรน ซึ่งที่ผ่านมาการโจมตีด้วยโดรนของรัสเซียทำให้สนามบินในพื้นที่ต้องปิดทำการ ขณะที่ในช่วงเกิดเหตุเครื่องบินตกพบว่าสนามบินรัสเซียที่อยู่ใกล้กับเที่ยวบิน 8432 มากที่สุดก็ปิดทำการ
“รัสเซียควรปิดน่านฟ้าเหนือกรอซนี แต่กลับไม่ทำ” อังเดร โควาเลนโก ( Andriy Kovalenko) หัวหน้าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของยูเครนกล่าว โดยคาดเดาว่าทางการรัสเซียพยายามปกปิดสาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังเหตุเครื่องบินตก ซึ่งรวมถึงรูบนเครื่องบินด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกล่าวโทษรัสเซีย
ขณะที่หลายสำนักข่าวทั้ง Euronews, The Wall Street Journal, Anadolu Agency และ Reuters มีการรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ทราบเกี่ยวกับการสืบสวนของทางการอาเซอร์ไบจาน
โดย Reuters อ้างข้อมูลแหล่งข่าวรายหนึ่งที่ระบุว่า เครื่องบินถูกโจมตีด้วยระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Pantsir-S ของรัสเซีย หลังจากระบบสื่อสารของเครื่องบินถูกระบบ GPS Jamming รบกวนสัญญาระหว่างบินเข้าใกล้เมืองกรอซนี แต่แหล่งข่าวรายดังกล่าวเชื่อว่า การยิงโจมตีเครื่องบินเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ขณะที่ Euronews อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลรัสเซียว่า เที่ยวบิน 8432 ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจอดในรัสเซีย หลังจากนักบินขอลงจอดฉุกเฉิน แต่กลับได้รับคำสั่งให้บินข้ามทะเลแคสเปียนไปยังเมืองอัคเทาแทน
ส่วน The Wall Street Journal ระบุว่า บริษัท Osprey Flight Solutions ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางการบินของอังกฤษ แจ้งไปทางสายการบิน Azerbaijan Airlines ว่าเที่ยวบิน 8432 ‘น่าจะถูกยิงตกโดยระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของรัสเซีย’
ทั้งนี้ รัสเซียมีระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานหลายระบบ รวมถึงระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-300 และ S-400 ตลอดจนระบบ Pantsir ที่มีพิสัยการยิงระยะกลาง
อย่างไรก็ตาม ความหวังสำคัญในการไขความกระจ่างของเหตุการณ์ทั้งหมดน่าจะอยู่ที่กล่องดำทั้ง 2 กล่องที่ทางการคาซัคสถานเก็บกู้ไว้ได้แล้ว แต่การตรวจสอบบันทึกทั้งหมดจากกล่องดำคาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อย
ขณะที่ทางการอาเซอร์ไบจาน ยังไม่มีการประกาศผลสรุปในการสืบสวน ซึ่งทางด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ออกมาเตือนว่าอย่าเพิ่งคาดเดาเกี่ยวกับสาเหตุของการตกของเครื่องบิน
“มันจะเป็นเรื่องผิดหากจะตั้งสมมติฐานใดๆ ก่อนที่การสอบสวนจะได้ข้อสรุป”
ภาพ: REUTERS/Azamat Sarsenbayev TPX IMAGES OF THE DAY
อ้างอิง: