×

กสิกรไทยซื้อหุ้นเพิ่มทุนแมสเปี้ยนแบงก์ในอินโดนีเซียเป็น 84.55% ตั้งเป้าเติบโตเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดใน East Java ภายในปี 2570

22.11.2023
  • LOADING...
กสิกรไทย ธนาคารแมสเปี้ยน

กลุ่มธุรกิจการเงินกสิกรไทยขยายการลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยน ประเทศอินโดนีเซีย ผ่านบริษัทย่อย บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด และ บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล อินโดนีเซีย จำกัด เป็นผู้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยนจากเดิมอยู่ที่ 67.68% เพิ่มเป็น 84.55% พร้อมตั้งเป้าเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดใน East Java ภายในปี 2570

 

ภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด (KVF) เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจการเงินกสิกรไทยได้ทยอยเข้าถือหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา โดยล่าสุดได้ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีกครั้ง ทำให้มูลค่าทุนของธนาคารแมสเปี้ยนหลังเพิ่มทุนแล้วเสร็จอยู่ที่ 15,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,000 ล้านบาท และส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยนเพิ่มขึ้นจาก 67.68% เป็น 84.55% เพื่อผลักดันให้การดำเนินงานของธนาคารแมสเปี้ยนเติบโตอย่างต่อเนื่อง เสริมความแข็งแกร่ง รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการให้บริการลูกค้า และยังเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารแมสเปี้ยน

 

ภัทรพงศ์ระบุว่า ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยได้นำความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีการเงินมาประยุกต์ ต่อยอด และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธนาคารแมสเปี้ยน เพื่อขยายความสามารถในการให้บริการด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการให้บริการด้านธุรกรรมการเงินเพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโตในธุรกิจของลูกค้า รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียในระยะยาว ผ่านการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ 

 

  1. กลุ่มองค์กร / ธุรกิจขนาดใหญ่ (Corporate) ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และเป็นผู้นำทางธุรกิจที่มีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย ธนาคารจึงต้องการเพิ่มความสามารถในการให้บริการ ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระดับที่ลึกขึ้น เพื่อเป็นหนึ่งในแหล่งเงินทุนที่มีศักยภาพในการปล่อยสินเชื่อ และให้บริการด้านธนาคารที่ครบวงจร

 

  1. กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ธนาคารได้ดำเนินการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยในการตรวจสอบรายได้ และการอนุมัติการปล่อยสินเชื่อ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยและรัดกุม พร้อมทั้งยังนำเสนอระบบกู้เงินแบบ P2P ที่ลูกค้าสามารถกู้ระหว่างบุคคล

 

  1. กลุ่มลูกค้ารายย่อย (Retail) ธนาคารมุ่งขยายฐานลูกค้ารายย่อยผ่านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ทั้งบัญชีเงินเดือน QRIS (ระบบชำระเงินผ่าน QR Code ของประเทศอินโดนีเซีย) บัญชีเงินฝาก การกู้เงินส่วนบุคคล รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ให้ตอบสนองความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้ารายย่อยในชีวิตประจำวัน

 

ภัทรพงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ที่น่าเชื่อถือที่สุด ด้วยการยกระดับความสามารถด้านนวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยี เพื่อให้บริการที่ไม่จำกัดอยู่แค่ด้านการเงินตามการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และด้วยความได้เปรียบของธนาคารที่มีพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทั่วภูมิภาค จะยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอินโดนีเซียและ AEC+3 ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของธนาคารในการก้าวสู่การเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย ภายในปี 2570 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising