ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่า การแข่งขันใน ‘วงการธนาคาร’ ดุเดือดมากขึ้นทุกวัน เพราะวันนี้แบงก์ไม่ได้แข่งเฉพาะกันเองอีกแล้ว แต่ยังมีคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มที่ไม่ใช่แบงก์ขึ้นมาอีก จึงไม่แปลกหากเราจะเห็นแต่ละแบงก์ต่างงัดทุกกลเม็ดมาใช้ชนิดไม่มีใครยอมใคร
KBank เป็นแบรนด์แบงก์ที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด และปรับตัวได้ไว เพราะเหตุนี้ เราจึงเห็น KBank กล้าที่จะทำสิ่งที่แปลกใหม่อยู่เสมอ และรอบนี้มาแบบจัดเต็มจัดหนักกับโปรเจกต์ KBank x BLACKPINK ที่เรียกเสียงกระหึ่มบนโลกโซเชียลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
มีอะไรซ่อนอยู่ใน KBank x BLACKPINK
สิ่งที่ THE STANDARD เห็นว่าน่าสนใจมากที่สุดในขณะนี้คือ การที่ KBank หรือธนาคารกสิกรไทยตัดสินใจดึงวงเค-ป๊อประดับโลก ‘BLACKPINK’ เปิดตัวโปรเจกต์ใหญ่ KBank x BLACKPINK โดยมีเป้าหมายเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่อายุ 15-25 ปี ซึ่งมีกว่า 10 ล้านคนในเมืองไทย ทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ #แค่เชื่อก็เป็นได้ (KBank Empowers Your Belief)
หาก KBank ต้องการสื่อสารไปหาคนรุ่นใหม่ เหตุใดถึงไม่พูดด้วยตัวเอง ทำไมถึงต้องดึง BLACKPINK มา? จริงอยู่ที่แค่พลังของ KBank ก็เพียงพอที่จะพูดเสียงดังออกไปหาคนรุ่นใหม่ แต่การที่ดึงศิลปินชื่อดังมาช่วยพูด จะทำให้เสียงนี้ดังขึ้นกว่าที่ KBank พูดเอง และยังทำให้ภาพของ KBank ดูร่วมสมัย คุยกับคนรุ่นใหม่รู้เรื่อง ไม่ใช่เป็นมนุษย์แบงก์ที่ไม่เข้าใจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
ขณะเดียวกันในครั้งนี้ KBank ทุ่มทุนดึงสมาชิกในวงมาทุกคน บางคนอาจมองว่า ดึงมาแค่ ‘ลิซ่า’ ซึ่งเป็นคนไทยมาเพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะเจาะกลุ่มคนไทยแล้ว จริงอยู่ที่ ‘ลิซ่า’ จะโด่งดังในเมืองไทยอย่างมาก แต่จริงๆ แล้วสมาชิกคนอื่นทั้ง เจนนี่ โรเซ่ จีซู ก็มีฐานแฟนคลับไม่แพ้กัน ฉะนั้นมาครบทั้งวงย่อมสร้างอิมแพ็กได้ดีกว่า
เปลี่ยนทั้งสีและเปิดตัวด้วยภาพยนตร์โฆษณากระหึ่มโซเชียล
จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โปรเจกต์นี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่นับกลุ่มแฟน ‘BLINK’ เท่านั้น แต่ในแง่ของการตลาดเอง เรื่องนี้ก็น่าสนใจ เพราะรูปโปรโมตที่ส่งออกไปไม่ได้ใช้สีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์เหมือนทุกที แต่กลับถูกปรับเป็นสีเขียวเข้มๆ แบบน้ำทะเล แทรกด้วยสีชมพูอันเป็นสีที่สื่อถึงวง BLACKPINK
นับว่า KBank ใจกล้าเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วแบรนด์มักจะไม่ค่อยยอมเปลี่ยนสีที่เป็น Identity ของแบรนด์ในการทำโฆษณา ไม่อย่างนั้นแล้วจะสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภคเอง
แต่เรื่องนี้ถูกวางแผนมาอย่างรอบคอบแล้ว เพราะ KBank รู้ดีว่า หากยังยืนยันที่จะใช้สีประจำแบงก์อยู่ แน่นอนภาพโฆษณาที่ส่งออกไปคงจะไม่ได้มูดแอนด์โทนอย่างที่เรากำลังเห็นนี้แน่ๆ
นอกจากนี้ยังได้ออกภาพยนตร์โฆษณาความยาว 120 วินาที พร้อมๆ กับเพลงแต่งใหม่ที่ชื่อว่า Empower You ในรูปแบบมิวสิกวิดีโอ เรียกกระแสตอบรับที่ดีมากจากบรรดา BLINK และผู้คนบนโลกโซเชียล โดยหลังจากปล่อยออกมาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ ภาพยนตร์โฆษณานี้มียอดชมไปแล้วถึง 40 ล้านวิว นอกจากนี้ KBank ยังได้ปูพรมสื่อ OOH จนทำให้เกิดกระแสการแชะ & แชร์รูปภาพสวยๆ และกิมมิกที่ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับสื่อแต่ละช่องทาง
ไฮไลต์เปิดตัวครั้งแรกอยู่ที่บัตรเดบิต KBank x BLACKPINK
สิ่งที่เป็นไฮไลต์ ณ เวลานี้คือ การเปิดตัวบัตรเดบิต KBank x BLACKPINK ซึ่งเริ่มให้สมัครผ่าน K PLUS ในวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ตามสาขาจะมีบัตรเดบิตตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยออกแบบมาเป็นเซตคือ ได้ทั้งบัตรเดบิต สมุดบัญชี Code สำหรับดาวน์โหลดธีมบน K PLUS และกระเป๋า KBank x BLACKPINK เรียกว่า ราคาเซต 750 บาทนี้ KBank จัดหนักให้คุ้มค่ารวมกับสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ทั้งส่วนลดเงินสดแบรนด์เกาหลี A LAND และเครื่องสำอาง JUNG SAEM MOOL, JOOX สิทธิ์ VIP ฟรี 1 เดือน, JOY รับฟรี 10 แคนดี้ นอกจากนี้บัตรนี้ยังเอาไปใช้และได้ส่วนลดอีกด้วย มีทั้งส่วนลดดูหนังที่เมเจอร์และเอสเอฟในราคา 100 บาท ส่วนลด Lazada 20% ส่วนลดแบรนด์กีฬา Ari 5% ส่วนลด Grab Food 100 บาท ส่วนลด Grab 50 บาท และ JOOX VIP ฟรี 1 เดือน เป็นต้น จะเห็นได้ว่า แค่ส่วนลดที่ให้มาก็เกินค่าสมัครไปแล้ว
กลุ่มนิวเจนอาจจะไม่ใช่ฐานลูกค้ารายใหญ่สำหรับธนาคารในวันนี้ เพราะพวกเขายังอยู่ในช่วงวัยเรียนหรือวัยทำงานตอนต้น อำนาจที่แท้จริงในวันนี้จึงยังอยู่ที่กลุ่มวัยทำงาน แต่ในอนาคตพวกเขาเหล่านั้นจะเข้ามาแทนที่กลุ่มวัยทำงานที่แก่ตัวลงทุกวัน ฉะนั้นการทำให้คนรุ่นใหม่คุ้นเคยกับแบรนด์และบริการตั้งแต่แรกเริ่ม จะกลายเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญต่อไปในวันข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม บัตรเดบิต KBank x BLACKPINK เป็นเพียงโปรดักต์แรกของโปรเจกต์ใหญ่นี้เท่านั้น ต้องติดตามต่อไปว่า KBank จะปล่อยอะไรออกมาให้เซอร์ไพรส์กันอีก ซึ่งสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโปรเจกต์ #KBankxBLACKPINK ได้ที่ bit.ly/2CzoEkC และ KBank Live ทั้ง Twitter, Instagram และ Facebook ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล