×

กัณวีร์ขอให้รัฐบาลชัดเจนเรื่องผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ถูกขังลืม 10 ปี เร่งตอบคำถามผู้แทนพิเศษ UN

โดย THE STANDARD TEAM
30.05.2024
  • LOADING...
กัณวีร์ สืบแสง

วันนี้ (30 พฤษภาคม) กัณวีร์ สืบแสง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงสถานการณ์การถูกคุมขังของชาวอุยกูร์ จำนวน 48 คน ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ของไทยมานาน 10 ปีแล้ว ทั้งที่ถูกจับกุมในข้อหาการหลบหนีเข้าเมืองที่ไม่ต้องถูกคุมขังยาวนาน แต่ด้วยชาวอุยกูร์ลี้ภัยมาจากประเทศจีน จึงมีความพยายามให้ส่งกลับจีน หลังจากไทยเคยส่งตัวชาวอุยกูร์ที่เป็นผู้ชาย 109 คนกลับไปจีนแล้วเมื่อปี 2558 นับจากมีการจับกุมชาวอุยกูร์กว่า 300 คนได้ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในเดือนมีนาคม 2557 ส่วนผู้หญิงและเด็กกว่า 170 คนถูกส่งตัวไปประเทศตุรกี ทำให้ยังเหลือผู้ชาย 48 คนถูกคุมขังอยู่ในห้องกัก สตม. ของไทยมา 10 ปีแล้ว ในระหว่างนี้มีผู้เสียชีวิตไป 5 คน 

 

กัณวีร์กล่าวว่า ล่าสุดหน่วยงานของสหประชาชาติอย่างสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ที่มีอาณัติในการให้ความคุ้มครองระหว่างประเทศต่อผู้ลี้ภัย ปฏิเสธการทำหน้าที่ของตนในการดูแลผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์จำนวน 48 คนที่อยู่ในห้องกักของ สตม. 43 คน และ 5 คนอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ จริงหรือไม่ ซึ่งไม่ว่าด้วยเหตุผลใดที่ UNHCR ไม่สามารถทำหน้าที่ตามข่าวที่ออกไป แต่สุดท้ายคำติฉินต่างๆ จะมุ่งเป้ามายังประเทศไทย เนื่องจากไม่สามารถจัดการประเด็นมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนภายในประเทศตนเองได้อย่างตามหลักสากล 

 

“การที่ไทยไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เลย เพราะแรงกดดันต่างๆ เลยตัดสินใจทิ้งชาวอุยกูร์ทั้งหมดให้อยู่ทั้งในห้องกักและคุกโดยไม่ทราบชะตากรรมว่าวันไหนจะได้ออก ก็เท่ากับการตัดสินโทษเสมือน ‘จำคุกตลอดชีวิต’ นั่นเอง”

 

กัณวีร์กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้เวทีระหว่างประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ทำให้ผู้รายงานพิเศษทั้ง 6 คนของสหประชาชาติ ส่งหนังสือถึงรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ขอให้รัฐบาลไทยตอบประเด็นที่กระทบต่อหลักการมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในการควบคุมดูแลของทางการไทย ซึ่งร้องขอให้ไทยช่วยพิจารณาตอบกลับภายใน 60 วัน 

 

“ก็คงเป็นไปตามคาดครับ ไม่มีคำตอบใดๆ จากรัฐบาลไทยต่อคำถาม 15 ข้อ ที่ยังรอคำตอบจากทางการไทยต่อชีวิตคน 48 ชีวิต ที่ทั้งตัวเขาเองและสมาชิกครอบครัวยังรออย่างมีความหวังในการใช้ชีวิตได้ด้วยการได้รับการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่ได้หนีความตายมาจากบ้านเกิดเมืองนอน แต่ก็ต้องเผชิญกับการตัดสินของอำนาจฝ่ายบริหารที่ทำให้ชีวิตของทุกคนยังอยู่บนเส้นด้าย”

 

กัณวีร์ยืนยันว่า ผู้ลี้ภัยไม่ใช่อาชญากร พวกเขาคือคนเหมือนพวกเราที่ต้องเผชิญสถานการณ์ที่เลวร้ายมากกว่าพวกเรา ถึงยอมเสี่ยงตาย หนีความตาย แต่ก็ต้องเผชิญความตายที่ไม่รู้ชะตากรรม ยิ่งชาวอุยกูร์กลุ่มนี้แล้ว หากใครได้ฟังญาติกลุ่มผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ได้กล่าวขอโทษประเทศไทยจากใจจริงที่พวกเขาได้เข้าเมืองไทยโดยผิดกฎหมาย และทำให้ไทยต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก พวกเขาไม่ได้อยากเข้าเมืองผิดกฎหมายเลย แต่เขาต้องหนีความตายเข้ามา และต้องขอโทษคนไทยทุกคนด้วย

 

กัณวีร์ให้ความเห็นว่า หากคำกล่าวอ้างจากประเทศต้นกำเนิดที่ว่าชาวอุยกูร์เป็นอาชญากรจริง ก็เอาหลักฐานมาเปิดเผย และมาทำงานร่วมกันกับไทย มาตรวจสอบว่าใครเป็นอาชญากรก็ต้องได้รับโทษ ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศเรื่องผู้ลี้ภัยก็กำหนดชัดเจนว่าอาชญากรจะไม่ได้รับการคุ้มครอง หากใครไม่ใช่อาชญากรและเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้าลี้ภัยออกมาแล้วก็ให้ได้รับการแก้ไขปัญหาตามหลักการสากล

 

“รัฐบาลไทยต้องจัดไปให้ชัด อย่าทำทุกอย่างแบบคลุมเครือ กล้ากันพอไหมที่จะทำอย่างนี้ อย่าให้ชีวิตต้องสูญเสียไปมากกว่านี้ 10 ปีที่ผ่านมาได้คร่า 5 ชีวิตไปในห้องกัก เพราะความคลุมเครือเหล่านี้ครับ” กัณวีร์กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising