×

คำนูณ เรียกร้องรัฐบาลเปิดอภิปรายร่วมกันด่วน หาทางออกประเทศ หวั่นเป็นชนวนเหตุสู่ความรุนแรง

โดย THE STANDARD TEAM
11.08.2020
  • LOADING...

วันนี้ (11 สิงหาคม) ในการประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) มีสมาชิกขอหารือต่อ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ส.ว. เพื่อนำความคิดเห็นเสนอไปยัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยประธาน ส.ว. สั่งให้เจ้าหน้าที่ถอดเทปเพื่อนำความเห็นของสมาชิกเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี

 

โดย คำนูณ สิทธิสมาน สมชาย แสวงการ และ วันชัย สอนศิริ กล่าวถึงข้อห่วงใยการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชนต่อประเด็นทางการเมือง ซึ่งคำนูณยอมรับว่ามีความรู้สึกอึดอัด หลังติดตามข่าวการชุมนุมทางการเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะเนื้อหาส่วนหนึ่งของการชุมนุมที่มีการประกาศการชุมนุมวันที่ 12 สิงหาคม และอ้างว่าเนื้อหามีความรุนแรงมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นในชีวิต ซึ่งเลยเถิดมากกว่าการชุมนุมขับไล่รัฐบาลหรือเรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เห็นว่าการชุมนุมในบางช่วงบางตอนของกลุ่มนักศึกษาเมื่อคืนวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นการชุมนุมที่มีรูปแบบนำประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดมายาวนานด้วยความเคารพศรัทธาสูงสุดของประชาชนทั้งประเทศมาล้อเลียน และยังเป็นการกระทำการของผู้ต้องหาสองคนที่ได้รับการประกันตัว มีลักษณะเข้าข่ายผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวตามปกติของศาล และยังมีเปิดคลิปวิดีโอผู้ที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ จึงทำให้เกิดคำถามจากประชาชนว่าจะปล่อยให้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไปหรือ และแม้จะเป็นความยากลำบากในการบริหารจัดการของรัฐบาล แต่ก็ต้องในการบังคับใช้กฎหมายพร้อมกับดำเนินมาตรการทางการเมืองคู่กันไป

 

โดยคำนูณเรียกร้องให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ด้วยการขอเปิดอภิปรายทั่วไปในรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 โดยเร็วที่สุด และเชื่อว่าสมาชิกทั้งสองสภามีความคิดเห็นร่วมกันในประการหนึ่งว่าการกระทำบางอย่างของผู้ชุมนุมบางคนในการชุมนุม 3 ครั้งที่ผ่านมาเกินขอบเขตที่ควรจะเป็นไป ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นการจุดชนวนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยครั้งหนึ่งซ้ำรอยเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 ที่เราจะเป็นการสร้างบาดแผลลึกส่งต่อให้คนรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นการซ้ำเติมให้ประเทศไทยจมดิ่งลงสู่หุบเหวหายนะ หากแก้ไขสถานการณ์ไม่ทัน

 

ส่วนสมชายกล่าวว่า ขอห่วงใยไปยังนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อ้างถึงสิ่งที่เห็นว่าเกินเลยต่อเนื่องจากการชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการชุมนุมที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การจาบจ้วงล่วงละเมิดและเกินเลยกว่าที่คนไทย 70 ล้านคนจะที่ยอมรับได้ ทั้งมีการปลุกระดมผ่านโซเชียลมีเดีย และการชักจูงสังคมไทยเข้าสู่ความขัดแย้งและผ่านกระบวนการล้มสถาบันที่มาจากทั้งในและนอกประเทศไทย 

 

สมชายอ้างว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เรื่องของการกระทำเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขั้นก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี โดยอ้างว่ามีความพยายามที่จะนำเด็กนักเรียน นิสิต นักศึกษามาเคลื่อนไหว และมีผู้อยู่เบื้องหลัง และย้ำว่าสิ่งที่ยั่วยุทางการเมืองวันนี้หวังให้เกิดความรุนแรงอย่างเช่นเหตุ 6 ตุลาคม 2519 เหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ซึ่งแฝงด้วยเจตนาที่จะล้มล้างการปกครองอย่างเช่นปี 2475 

 

สมชายยังเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สอบเส้นทางการเงินผู้ที่สนับสนุนการชุมนุม โดยเฉพาะการใช้จอขนาดใหญ่ LED ซึ่งมีมูลค่าหลายแสนบาท ฉายการล้อเลียนพระบรมมาฉายาลักษณ์ เรียกร้องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ดำเนินการตรวจสอบสื่อโซเชียลต่อผู้ที่กระทำผิดและโฆษณา ยังเรียกร้องให้ตำรวจถอนประกัน อานนท์ นำพา และ ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง อ้างเหตุกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว ซึ่งหากมีการปราศรัยจับจวงสถาบันชัดเจนและการพูดชักชวนประชาชนให้ก่อเหตุการณ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังเรียกร้องให้อธิการบดีและผู้บริหารทุกแห่งแสดงความรับผิดชอบกรณีการชุมนุม

 

สมชายกล่าวต่อไปว่า เรียกร้องให้สื่อสารมวลชนหยุดการแพร่ข่าวสารของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการจาบจ้วงสถาบัน และยังเสนอให้กระทรวงการต่างประเทศประสานไปยังประเทศญี่ปุ่น ที่ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ พำนักอาศัย อยู่รวมถึงประเทศที่ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาศัยอยู่ และเห็นว่ารัฐบาลต้องเปิดรับฟังความเห็นอย่างเป็นทางการให้กับนักศึกษาได้เสนอแนะข้อคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาทางการเมือง โดยเปิดเวทีหาประเทศไทยหรือการเมืองโดยต้องไม่มีเรื่องของการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และข้อเสนอ 10 ข้อของกลุ่มผู้ชุมนุมให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ประธานสภา ประธานวุฒิสภา กรรมาธิการทั้งหมดร่วมประชุมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยทุกแห่ง  ประธานสภาอาจารย์ทุกสถาบัน นายกองค์กรนิสิตนักศึกษาได้หารือร่วมกัน 

 

ขณะที่วันชัยชี้ว่า สถานการณ์เคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนนักศึกษามีความรุนแรงแบ่งฝั่งฝ่ายชัดเจนขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดแตกหักและทำให้ประเทศเผชิญความหายนะ โดยเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจแก้ไขบ้านเมืองด้วยการจับกลุ่มบุคคลที่กระทำผิดกฎหมาย พร้อมทั้งสนับสนุนการใช้เวทีรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ดำเนินการแก้ไขเพื่อใช้เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งทางรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ แก้ไขปัญหาบ้านเมืองร่วมกัน ซึ่งดีกว่าทำให้บ้านเมืองเกิดอุบัติเหตุและนำไปสู่จุดที่ไม่คาดหวัง 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising