เจ้าชายแฮร์รีทรงขอให้ผู้เข้าร่วมการประชุมองค์กรการกุศลด้านการท่องเที่ยวของพระองค์ขานพระนามเพียงว่า ‘แฮร์รี’ เท่านั้น ก่อนจะทรงพ้นจากสถานะราชวงศ์ชั้นสูงของราชวงศ์อังกฤษในวันที่ 31 มีนาคมนี้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นในการประชุมขององค์กรการกุศลเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ‘Travalyst’ ที่พระองค์ทรงริเริ่ม ซึ่งจัดขึ้นในเมืองเอดินบะระของสกอตแลนด์วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยพิธีกรในการประชุมได้กล่าวต่อผู้เข้าร่วมประชุมว่า “พระองค์ทรงระบุชัดเจนให้พวกเราทั้งหมดเรียกพระนามว่า ‘แฮร์รี’ เท่านั้น ดังนั้นท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย โปรดถวายการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่และอบอุ่นแบบสกอตแด่แฮร์รีด้วย” จากนั้นพระองค์จึงทรงพระดำเนินขึ้นมาบนเวทีและอ่านถ้อยแถลงส่วนพระองค์ที่เตรียมไว้เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้พระองค์เสด็จกลับกรุงลอนดอนแล้วเพื่อปฏิบัติพระกรณียกิจในช่วงสุดท้ายก่อนพ้นจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงในวันที่ 31 มีนาคม และคาดว่าเมแกน พระชายาจะเสด็จมาสมทบในไม่กี่วันข้างหน้า
หนึ่งในพระกรณียกิจของเจ้าชายแฮร์รีในช่วงสุดท้ายนี้คือจะพบกับศิลปินดังอย่างบอน โจวี และคณะนักร้องประสานเสียง Invictus Games เพื่อทรงร่วมบันทึกเสียงเพลง Unbroken ซึ่งเป็นเพลงที่ให้กำลังใจทหารผ่านศึกที่ประสบสภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง (PTSD) จากภารกิจทางทหาร ซึ่งเพลงดังกล่าวที่ถูกนำมาขับร้องใหม่อีกครั้งจะมีกำหนดเผยแพร่ในเดือนมีนาคมนี้
ก่อนหน้านี้ยังมีแถลงการณ์จากเว็บไซต์ของทั้งสองพระองค์ที่ระบุว่า ทั้งเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนจะยังคงทรงดำรงฐานันดรศักดิ์ ‘His/Her Royal Highness’ ต่อไปอย่างเป็นทางการ แต่จะไม่ทรงใช้ฐานันดรศักดิ์โดยทั่วไปอีก นอกจากนี้ทั้งสองพระองค์จะทรงยุติการใช้แบรนด์ ‘Sussex Royal’ ที่ใช้กับสินค้าทั้งเสื้อผ้า สิ่งพิมพ์ รวมถึงใช้กับงานด้านการศึกษา สังคมสงเคราะห์ และการระดมทุนเพื่อการกุศลต่างๆ ด้วย แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุชัดเจนว่า ราชวงศ์อังกฤษเคารพและเข้าใจในความปรารถนาของทั้งสองพระองค์ที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระในฐานะครอบครัว โดยการขจัดเหตุผลด้าน ‘ประโยชน์สาธารณะ’ ที่สื่อมวลชนจะใช้อธิบายในการเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตส่วนพระองค์
ทั้งนี้ทั้งสองพระองค์จะปิดสำนักงานในพระองค์ที่พระราชวังบักกิงแฮม และตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2020 เป็นต้นไป จะทรงมีระยะเปลี่ยนผ่าน 12 เดือน ซึ่งทั้งสองพระองค์จะก่อตั้งองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรต่อไป โดยเจ้าชายแฮร์รีจะมุ่งเน้นงานสวัสดิการทหาร การอนุรักษ์ การกีฬาเพื่อพัฒนาสังคม งานที่เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี และองค์กร Travalyst ที่ทรงไปร่วมการประชุมดังกล่าว ส่วนเมแกนจะมุ่งเน้นงานด้านการส่งเสริมสิทธิสตรี ความเท่าเทียมทางเพศและการศึกษา
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
