×

สถานการณ์ล่าสุด: มวลชนหด-สื่อล้นหลามหน้าศาล นัดอ่านคำพิพากษาจำนำข้าว ‘ยิ่งลักษณ์’

27.09.2017
  • LOADING...

     1 เดือนเต็มที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ปรากฏตัวหรือปรากฏความเคลื่อนไหวใดๆ หลังจากไม่ได้มาฟังคำพิพากษาในฐานะจำเลยเพียงหนึ่งเดียว ในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาฟังการอ่านคำพิพากษาในวันนี้
     
สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าศาล ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.00 น. มวลชนบางส่วนทยอยเข้าพื้นที่เพื่อมาให้กำลังใจอดีตนายกฯ แต่ไม่ได้หนาแน่นอย่างที่เคยปรากฏทุกครั้ง โดยเดินทางมาจากหลายพื้นที่ใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ


     
“ถึงรู้ว่าอดีตนายกฯ ไม่มา เราก็ตั้งใจมา มาเพื่อให้กำลังใจ และยืนยันว่า เรายังยืนอยู่เคียงข้างอดีตนายกฯ ส่วนผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร เราก็ยอมรับ และหวังให้กระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างเท่าเทียมมากที่สุด” มวลชนคนหนึ่งกล่าวกับ THE STANDARD
     เป็นที่น่าสังเกตว่า ยังไม่ปรากฏแกนนำระดับสูงของพรรคเพื่อไทย หรือแกนนำมวลชนอย่าง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ในพื้นที่แต่อย่างใด มีเพียง นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส. ลพบุรี พรรคเพื่อไทย โดยเขากล่าวว่า “ผมมาของผมเอง เพราะผมมาทุกครั้ง พรรคไม่ได้แจ้งอะไรเป็นพิเศษ ครั้งนี้ก็มาติดตามสถานการณ์ตามปกติ”
     ด้าน นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวอดีตนายกฯ และทีมงานบางส่วนที่เดินทางมาให้กำลังใจ กล่าวกับ THE STANDARD ว่า “ตลอดช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ครอบครัวก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากนางสาวยิ่งลักษณ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ยอมรับว่าเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวชินวัตรมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทุกคนในครอบครัวต่างทำใจได้ และมีเพียงการส่งมอบกำลังใจให้กันและกันเท่านั้น ส่วนตัวเชื่อว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะรับฟังคำตัดสินผ่านสื่อต่างๆ เช่นกัน”
     ด้าน นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทางมาถึงบริเวณศาลในเวลา 08.45 น.
     “ยืนยันว่าไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากอดีตนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม จนถึง ณ วันนี้ ส่วนคำพิพากษาจะออกมาอย่างไรให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนการยื่นอุทธรณ์จะต้องรอผลคำพิพากษาก่อนว่าออกมาในทิศทางไหน ส่วนกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทราบที่อยู่ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ในส่วนทีมทนายนั้นไม่ทราบ และเชื่อว่าอดีตนายกฯ จะทราบผลการพิจารณาจากการรายงานข่าวของสื่อมวลชน”
     ขณะที่กองทัพสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศที่มาปักหลักรายงานข่าวมีจำนวนมากเต็มพื้นที่บริเวณโดยรอบ มีผู้แทนจากสถานทูตสหรัฐอเมริกา, นิวซีแลนด์, แคนาดา, ออสเตรเลีย เข้าร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาในวันนี้ด้วย


     ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย ไม่ได้เข้มงวดเหมือนวันที่ 25 สิงหาคม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 กองร้อยมาอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้นำสุนัขตำรวจตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยโดยรอบพื้นที่


     สำหรับข้อหาที่อัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นจำเลยก็คือ ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
     และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 123/1 ซึ่งแก้ไขตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับ พ.ศ. 2554)
     จากกรณีปล่อยปละละเลยไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าวที่ทำให้รัฐได้รับความเสียหายนับแสนล้านบาท ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
     โดยองค์คณะผู้พิพากษา จะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในเวลา 09.00 น. THE STANDARD จะรายงานความคืบหน้าผลของคำพิพากษาให้ทราบต่อไป ท่ามกลางคำถามว่า ‘ยิ่งลักษณ์’ จะปรากฏตัวหลังจากนี้ในเวลาใด

 


 

ศาลทำคำพิพากษากลาง คดีจำนำข้าว ‘ยิ่งลักษณ์’ ตั้งแต่ 07.00 น. คาดอ่าน 11.00 น.

     ล่าสุดมีรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยในคดีโครงการรับจำนำข้าว

     โดยขณะนี้องค์คณะผู้พิพากษาได้ประชุมเพื่อจัดทำคำพิพากษากลางตั้งแต่เวลา 07.00 น. คาดว่าจะสามารถขึ้นอ่านคำพิพากษาได้ในเวลา 11.00 น.

     การประชุมเพื่อจัดทำคำพิพากษากลางในวันนี้เนื่องจากในครั้งที่ผ่านมา ศาลต้องรอให้จำเลยปรากฏตัวจึงไม่ได้ทำคำพิพากษากลางไว้

     แต่ครั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ภายหลังการออกหมายจับจำเลยเนื่องจากไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลเป็นเวลา 30 วัน ศาลจึงสามารถประชุมทำคำพิพากษากลางได้พร้อมกันนี้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นความล่าช้าเป็นแต่ธรรมเนียมการปฏิบัติตามปกติของศาล

     นอกจากนี้ศาลงดอ่านคำพิพากษาในคดีการระบายข้าวแบบจีทูจี โดยถือว่าจำเลยที่ 21 นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร บุตรสาวนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง รู้ผลการตัดสินแล้วในทางคดีศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลย 4 ปี และให้ออกหมายจับเพื่อมารับโทษ

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising