×

โฆเซ มูฆิกา อดีตประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก กับ 7 เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้

17.08.2018
  • LOADING...

ถ้าแคนาดามีผู้นำที่มักจะกล่าวคำขอโทษต่อสิ่งที่ผิดพลาดและเลวร้ายในอดีตอย่าง จัสติน ทรูโด เนเธอร์แลนด์มีผู้นำอย่าง มาร์ก รูตต์ ที่ปั่นจักรยานไปทำงานทุกวันและยินดีที่จะทำความสะอาดพื้นเองโดยไม่ถือตัวหลังจากที่ทำกาแฟหก จนได้รับเสียงชื่นชมเป็นวงกว้างในโลกออนไลน์

 

อุรุกวัยเองก็คงจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่โชคดีไม่น้อยที่มีผู้นำสมถะ เรียบง่าย และทำประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่าง โฆเซ มูฆิกา คุณตาร่างท้วมท่าทางใจดี อดีตประธานาธิบดีที่ชนะใจคนอุรุกวัยและใครหลายๆ คนทั่วโลก ที่ทำให้รู้ว่า ‘ถึงแม้คนเราอาจจะมีเงินทองไม่มากมาย แต่เราก็สามารถที่จะมีความสุขได้กับสิ่งที่มี’ และเชื่อว่าคุณเองก็รับรู้และสัมผัสได้ผ่านสายตาคู่นั้นของเขาเหมือนกัน

 

THE STANDARD รวบรวม 7 เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลกคนนี้มาให้คุณได้รู้จักเขามากขึ้น

 

 

1. โฆเซ มูฆิกา (José Mujica) เคยขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 40 ของอุรุกวัย (ปี 2010-2015) ปัจจุบันมีอายุ 83 ปี เพิ่งสมรสอย่างเป็นทางการกับ ลูเซีย โตโปลันสกี (Lucía Topolansky) เมื่อปี 2005 ที่ผ่านมา โดยเธอดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอุรุกวัยคนปัจจุบัน

 

2. ทั้งมูฆิกาและโตโปลันสกีต่างเคยเป็นอดีตกบฏฝ่ายซ้าย เข้าร่วมกลุ่มนักรบกองโจร และเคยผ่านช่วงเวลาแห่งการปฏิวัติมาด้วยกัน โดยมูฆิกาเคยต้องโทษจำคุกนานถึง 13 ปี ซึ่งในขณะนั้นเขาเผชิญกับปัญหาสุขภาพอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพจิต เขาเคยกล่าวว่าบทเรียนและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นหล่อหลอมให้เขากลายเป็นตัวเองในทุกวันนี้

 

 

3. จากการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและสมถะทั้งช่วงก่อนและหลังขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ มูฆิกาเลือกที่จะอาศัยอยู่ที่บ้านสวนของภรรยาในแถบชานกรุงมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัยมาโดยตลอด โดยไม่ยินยอมที่จะเข้าพักในที่พักประจำตำแหน่งในทำเนียบรัฐบาลจนหมดวาระ สิ่งนี้ทำให้ทั่วโลกเริ่มรู้จักเขาและได้รับฉายา ‘ประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก’ ในที่สุด

 

4. ขณะที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี มูฆิกาได้บริจาคเงินเดือนกว่า 90% ให้แก่องค์กรการกุศลต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้เป็นประจำทุกเดือน

 

 

5. ประเด็นเรื่องรถเต่าโฟล์กสวาเกน บีเทิล สีฟ้าอ่อน รุ่นปี 1987 ที่เขาได้รับมาตอนเข้าดำรงตำแหน่งก็ทำให้ใครหลายคนจดจำชายคนนี้ได้เพิ่มมากขึ้น หลังเชคจากซาอุดีระเบียตัดสินใจเสนอขอซื้อรถเต่าคันดังกล่าวต่อจากเขาในราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 33.2 ล้านบาท) แต่มูฆิกากลับปฏิเสธข้อเสนอ เพราะเขาไม่ได้ต้องการเงิน พร้อมทั้งกังวลว่าจะไม่มีรถเอาไว้พาเจ้าตูบ 3 ขาออกไปเที่ยวตามที่ต่างๆ และที่สำคัญเจ้ารถเต่าสีฟ้าคันนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของเขาและครอบครัวไปแล้ว

 

6. มูฆิกาคือผู้นำคนสำคัญที่ผลักดันให้มีการบริโภคกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศแห่งนี้ แม้จะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในช่วงแรก แต่เขาก็ยืนยันที่จะผลักดันเรื่องนี้ต่อไป โดยพยายามทำให้กัญชาเข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ เพราะเขารู้ดีว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ผูกพันกับพืชชนิดนี้และกำลังตกเป็นเหยื่อของกลุ่มพ่อค้ายา ในท้ายที่สุดเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา อุรุกวัยได้กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ทำให้การบริโภคยาเสพติดอย่างกัญชากลายเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูป ตลอดจนถึงการจัดจำหน่าย

 

7. เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา มูฆิกาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมืองภายหลังจากที่วาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสิ้นสุดลง โดยเขาปฏิเสธไม่ขอรับเงินบำนาญใดๆ พร้อมขอหยุดพักเส้นทางชีวิตในสนามการเมืองสักระยะหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า “เป็นเพราะความเหนื่อยล้าหลังจากการเดินทางที่ยาวไกล” ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการตัดสินใจลาออกในครั้งนี้อาจจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเติมเชื้อไฟและชาร์จพลังของมูฆิกา ก่อนที่จะกลับมาลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2019

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising