ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ในวันที่วงการเพลงเริ่มซบเซา ยอดขายเพลงทุกรูปแบบ (ยกเว้นงานโชว์) ลดลงอย่างน่าใจหาย ไม่ต้องพูดถึงการฟังเพลงผ่านระบบ ‘สตรีมมิง’ ที่ยืนอยู่ ณ จุดไกลกว่า ‘ชายขอบ’ เพราะทุกคนสามารถโหลดเพลงแบบ MP3 (ซึ่งส่วนใหญ่จะผิดลิขสิทธิ์) มาฟังจนเป็นเรื่องปกติ
แต่ใครจะคาดคิดว่า คน ‘ชายขอบ’ ในวันนั้นจะกลายเป็นแพลตฟอร์มดนตรีที่สร้างรายได้เติบโตขึ้น 41.1% ในปี 2017 มูลค่ารวม 17.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดวงการเพลงอยู่ที่ 38% แซงหน้ายอดขายแผ่นซีดี ที่มีสัดส่วนประมาณ 30% เป็นที่เรียบร้อย (ข้อมูลจาก IFPI Global Music Report)
โดยในประเทศไทยมี JOOX เป็นหัวหอกสำคัญในการพัฒนาแพลตฟอร์มสตรีมมิง จากวันที่ทีมผู้บริหารต้องเข้าไปคุยกับผู้บริหารค่ายเพลงและพาร์ตเนอร์ เพื่ออธิบายให้ทุกคนเข้าใจถึงแพลตฟอร์ม ‘สตรีมมิง’ อย่างยากลำบาก
เวทีแจ้งเกิดศิลปินหน้าใหม่ ทำลายทุกข้อจำกัดในการฟังเพลง
นอกจากเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่สามารถฟังเพลงได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีข้อจำกัด JOOX ยังร่วมมือกับค่ายเพลงต่างๆ สร้างเพลงใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่มาเปิดตัวและฟังได้เฉพาะใน JOOX คิดเป็นจำนวนถึง 25% จากเพลงไทยที่ปล่อยใหม่ทั้งหมด 500 เพลงในปี 2018 นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้ใช้ สร้างเพลย์ลิสต์ของตัวเองมากถึง 11 ล้านเพลย์ลิสต์ และศิลปินที่มีคนฟังสูงสุด 5 อันดับของปีที่ผ่านมา คือ The TOYS, อะตอม ชนกันต์, Getsunova, Klear, UrboyTJ ซึ่งมียอดสตรีมมิงรวมกันมากกว่า 140 ล้านครั้ง
สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ การเป็นแพลตฟอร์ม ‘แจ้งเกิด’ ของศิลปินหน้าใหม่ ที่บางคนอาจไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร แต่ถ้าเปิดเพลงขึ้นมาเมื่อไร จะต้องนึกออกว่าเคยฟังจากที่ไหนอย่างแน่นอน อย่างเช่น เพลง เป็นไรไหม? ของ OG-ANIC x LazyLoxy หรือเพลง นอกจากชื่อฉัน ของวง ActArt ที่บางคนได้ยินชื่อแล้วอาจจะคิดว่าเป็นศิลปินอินดี้ ซึ่งพวกเขาคือศิลปินอินดี้จริงๆ แต่ถ้านับเฉพาะยอดวิวอย่างเดียว เรียกว่าแซงหน้านักร้องเมนสตรีมหลายคนไปไกลมากแล้ว
ไม่เพียงแค่รวบรวมเพลงให้ ‘ฟัง’ แต่ JOOX ‘สร้าง’ เพลงขึ้นมาเอง
JOOX มีโปรเจกต์ที่เรียกว่า Spotlight ที่เพื่อใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่ๆ ของตัวเองขึ้นมา โดยทีมงานจะร่วมกันเฟ้นหาศิลปินที่มีผลงานน่าสนใจ และเปิดช่องทางให้ศิลปินไร้สังกัด สามารถส่งผลงานเข้ามาได้ ซึ่งหากผลงานไหนมีศักยภาพเพียงพอ JOOX จะสนับสนุนเงินทุน เพื่อให้ศิลปินเหล่านั้น นำไปใช้ในการสร้างผลงานเพลงนั้นๆ โดยไม่นับรวมรายได้จากการดาวน์โหลด
นอกจากนี้ โปรเจกต์ JOOX Spotlight ยังเป็นศูนย์รวมของศิลปินหลากหลาย ไม่จำกัดค่ายเพลง อย่าง The TOYS, แสตมป์ อภิวัชร์, สิงโต นำโชค, ตู่ ภพธร, ลิเดีย ศรัณย์รัชต์, นนท์ ธนนท์, OG-ANIC, Whal & Dolph, Hollaphonic และ Ironboy มาร่วม Collaborate สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพเยี่ยม และฟังได้เฉพาะบน JOOX (ระยะเวลาตามเงื่อนไขที่กำหนด) ที่เดียวเท่านั้น ซึ่งผลตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากแฟนเพลง ทำให้สามารถนำเพลงเหล่านั้นมาต่อยอดเป็น JOOX Spotlight Tour 2018 ที่มีทั้งหมด 25 คอนเสิร์ต พาศิลปินไปเล่นเพลงพิเศษเหล่านี้ให้ฟังแบบสดๆ ตลอดปี 2018 ที่ผ่านมา
อีกหนึ่งความพิเศษคือ โปรเจกต์ Nextplorer ที่พาศิลปิน Getsunova x วี-วิโอเลต วอเทียร์, ลุลา-กันยารัตน์ ติยะพรไชย x Season Five, อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม x Maiyarap (แชมป์-นครินทร์ จรูญวิทยา), จีน่า-ณัฐชา เดอซูซ่า x Youngohm (โอม-รัธพงศ์ ภูรีสิทธิ์) และ เป๊ก ผลิตโชค x Hollaphonic มาผลิตผลงานร่วมกัน
และกำลังจะขยายเป็น Shake the World ที่ไม่หยุดแค่การร่วมงานของศิลปินในประเทศไทย แต่จะไปจับมือกับศิลปินดังของประเทศพม่า ที่ใช้งบประมาณมากกว่า 5 ล้านบาท เพื่อผลิตเพลงสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ทุกคนได้ฟัง
บุกตลาดใหม่ด้วยเพลงลูกทุ่ง และฟีเจอร์คาราโอเกะ
หลังจากประสบความสำเร็จในการช่วยสนับสนุนให้เพลงฮิปฮอปได้รับความนิยมเป็นกระแสหลักในปีที่ผ่านมา ก้าวต่อไป JOOX มองไปที่ตลาดเพลงลูกทุ่ง ที่มีศักยภาพมากพอที่จะขึ้นมาเป็นเพลงกระแสหลักด้วยเช่นกัน โดยเริ่มจากการแนะนำเพลงลูกทุ่งที่น่าจะเหมาะกับกลุ่มคนฟังหลักของ JOOX ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และต่อด้วยการ Collaborate ศิลปินลูกทุ่งกับศิลปินเพลงสาขาอื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่ไพเราะ สนุกสนาน และน่าสนใจออกมา
นอกจากนี้ JOOX จะพัฒนาฟีเจอร์คาราโอเกะที่ได้รับความนิยมจนมียอดการร้องสูงเกิน 5 ล้านครั้งในปี 2018 และมีการแชร์เพลงที่ร้องแบบคาราโอเกะออกไปมากกว่า 2.6 ล้านครั้ง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก โดยเริ่มต้นที่การเปิดตัว Duet Video ให้ผู้ใช้สามารถร้องคาราโอเกะไปพร้อมกับศิลปินคนโปรดในรูปแบบวิดีโอได้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
