เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จและเดินทางมาไกลเกินความคาดหมายจริงๆ สำหรับ John Wick ภาพยนตร์แอ็กชันสุดเดือดที่เริ่มต้นจากเรื่องราวเล็กๆ ของอดีตนักฆ่าฝีมือฉกาจที่ต้องกลับมาถือปืนอีกครั้ง เพื่อออกไล่ล่าลูกเจ้าพ่อมาเฟียที่ดันไปฆ่าสุนัขสุดรักของเขา ก่อนจะถูกขยับขยายและต่อยอดจินตนาการจนเกิดเป็นโลกนักฆ่าอันกว้างใหญ่ ซึ่งดำเนินมาถึงภาคที่ 4 แล้ว
สำหรับ John Wick: Chapter 4 จะเล่าเรื่องราวหลังจากที่ John Wick (Keanu Reeves) ถูกหมายหัวจาก The High Table จนทำให้เขาต้องหลบหนีไปเรื่อยๆ อย่างไม่สิ้นสุด กระทั่ง The Marquis de Gramont (Bill Skarsgård) สมาชิก The High Table หน้าใหม่ ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัด John ให้สำเร็จ เขาจึงส่ง Caine (Donnie Yen) นักฆ่าตาบอดมากฝีมือ มาสังหาร John แต่ขณะเดียวกัน John ก็ค้นพบหนทางสู่อิสรภาพ นั่นคือการท้าดวลกับ The High Table โดยตรง ซึ่งแน่นอนว่า The Marquis de Gramont ก็ไม่ปล่อยให้ John ทำตามแผนได้ง่ายๆ การเผชิญหน้าระหว่าง John และนักฆ่าจากทั่วโลก จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
บทความที่เกี่ยวข้อง:
เมื่อพูดถึงแฟรนไชส์ John Wick เชื่อว่าแฟนๆ หลายคนน่าจะคาดหวังที่จะได้เสพฉากแอ็กชันเดือดๆ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของแฟรนไชส์มาตั้งแต่ภาคแรก และสำหรับ John Wick: Chapter 4 เราก็ขอกล่าวอย่างไม่เกินจริงว่า ผู้กำกับ Chad Stahelski และทีมสร้างได้ยกระดับฉากแอ็กชันให้ดุเดือด จัดเต็ม และบ้าคลั่ง มากกว่า 3 ภาคที่ผ่านมา จนเกินความคาดหมายของเราไปมากทีเดียว
ไล่เรียงตั้งแต่การหยิบจับสิ่งของรอบตัวมาเป็นอาวุธสังหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญที่ต้องมีในทุกๆ ภาค ฉากตะลุมบอลที่ผสมผสานการใช้ปืนและการต่อสู้ระยะประชิดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว หรือจะเป็นฉากดวล 1:1 ที่สนุกสนานเร้าใจไม่แพ้กัน ฉากขับรถไล่ล่ากลางกรุงปารีสที่ Keanu Reeves ลงทุนฝึกซ้อมขับรถนานกว่า 9 เดือนเพื่อเล่นฉากนี้ด้วยตัวเอง ไปจนถึงฉาก Long Take ในพื้นที่ปิด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเรื่อง จนเราแอบคิดว่าถ้า John จะเก่งกาจและหนังเหนียวเกินมนุษย์ขนาดนี้ เขาก็น่าจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ฉบับนักฆ่าคงไม่เกินจริงนัก
John Wick: Chapter 4 ไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์ที่ประโคมฉากแอ็กชันใส่ผู้ชมแบบเอามันอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังเป็นงานคราฟต์ชั้นเยี่ยมที่ผู้กำกับและทีมสร้างร่วมกันออกแบบฉากแอ็กชันทุกฉากอย่างประณีต ทั้งการออกแบบมุมกล้อง การจัดแสง จังหวะการตัดต่อ การคัดสรรเพลงและดนตรีประกอบ งานวิชวลเอฟเฟกต์ ไปจนถึงการออกแบบงานสร้าง ซึ่งถูกประกอบรวมกันจนกลายเป็นฉากแอ็กชันอันยอดเยี่ยมที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะทางภาพยนตร์ให้เราได้ชม
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ใครหลายคนตั้งตารอ เห็นจะเป็นการปรากฏตัวของแอ็กชันสตาร์ชื่อดังอย่าง Donnie Yen กับบทบาท Caine นักฆ่าตาบอดที่จะต้องมาประชันฝีมือกับ John แต่สำหรับผู้เขียน เราคิดว่าผู้กำกับแบ่งแอร์ไทม์ของทั้งตัวละครหลักและตัวละครสมทบได้ลงตัวมากๆ แต่ละคนต่างก็มีฉากที่เป็นภาพจำของตัวเอง จนไม่มีตัวละครไหนที่โดดเด่นมากน้อยไปกว่ากันเลย
ทั้งการปรากฏตัวครั้งแรกของ Caine ที่โชว์ฝีไม้ลายมือการต่อสู้จนสะกดเราได้อย่างอยู่หมัดตั้งแต่แรกเห็น, Akira (Rina Sawayama) และ Koji (Hiroyuki Sanada) สองพ่อลูกแห่งโรงแรม The Continental สาขาโอซาก้า กับคาแรกเตอร์ที่เปี่ยมเสน่ห์ไม่แพ้กัน, Tracker (Shamier Anderson) และสุนัขสุดรักของเขาที่ดุดันและน่ารักน่ากอดจนเราต้องยิ้มตาม ไปจนถึงตัวร้ายหลักของเรื่องอย่าง The Marquis de Gramont ซึ่งรับบทโดย Bill Skarsgård ที่ถ่ายทอดบทบาทของตัวเองออกมาได้อย่างน่าเกรงขาม
ขณะที่เรื่องราวของโลกนักฆ่าที่ถูกจัดระเบียบและควบคุมโดย The High Table แม้ในภาคนี้ผู้กำกับจะไม่ได้ขยับขยายโลกนักฆ่าให้กว้างใหญ่ขึ้นจนเราทำให้เซอร์ไพรส์เท่าไรนัก แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเพิ่มเติมกฎระเบียบใหม่ๆ ของ The High Table เข้ามาแทน นั่นคือกฎการท้าดวลกับสมาชิก The High Table ที่เป็นประเด็นหลักของเรื่อง ซึ่งผู้กำกับและทีมสร้างก็ยังคงสร้างสรรค์และฉายภาพกฎระเบียบดังกล่าวออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างมีเสน่ห์และน่าค้นหาเช่นเดิม อีกทั้งยังฉายภาพความยิ่งใหญ่และทรงอำนาจของ The High Table ให้เราได้สัมผัสชัดเจนมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ ไปพร้อมกันอีกด้วย
สลับมาที่ข้อสังเกตกันบ้าง สำหรับผู้เขียน John Wick: Chapter 4 มีข้อสังเกตข้อเดียวที่เรารู้สึกติดขัดคือ ความยาวของภาพยนตร์ที่นานเกินไปสักหน่อย โดยเฉพาะฉากแอ็กชันที่ลากยาวชนิดไม่หยุดให้เราได้พักหายใจ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทีมสร้างออกแบบมาไม่น่าสนใจ แต่ฉากแอ็กชันบางฉากก็ยาวนานจนเราแอบรู้สึก ‘ล้น’ ไปหน่อยเหมือนกัน แต่สำหรับใครที่อยากเสพแอ็กชันแบบเน้นๆ เราก็คิดว่าคุณน่าจะตื่นตาตื่นใจกับฉากแอ็กชันเหล่านั้นอย่างแน่นอน
ในภาพรวม John Wick: Chapter 4 ถือเป็นการกลับมาสานต่อเรื่องราวของโลกนักฆ่าที่ไม่ใช่แค่รักษามาตรฐานเดิมไว้ได้อย่างครบถ้วนเท่านั้น แต่ยังถูกตีบวกให้ดุเดือดและบ้าคลั่งมากกว่า 3 ภาคที่ผ่านมา โดยเฉพาะการออกแบบฉากแอ็กชันที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความประณีตของทีมสร้างที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อส่งมอบฉากแอ็กชันสุดเข้มข้นที่ไม่ได้มีดีแค่การต่อยตีให้เราได้ชมอย่างเต็มอิ่ม
John Wick: Chapter 4 เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่:
ภาพ: Mongkol Major
