เจ้าหน้าที่และสื่อท้องถิ่นของแอฟริกาใต้เปิดเผยในวันนี้ (31 สิงหาคม) ว่า เกิดเหตุไฟไหม้ใหญ่ขึ้นที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในนครโจฮันเนสเบิร์ก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 73 คน และบาดเจ็บอีก 43 คน
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 01.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในระหว่างสืบสวน เบื้องต้นมีรายงานว่า อพาร์ตเมนต์ดังกล่าวเป็นอาคารที่ถูกทิ้งร้าง ทำให้มีคนไร้บ้านเข้าไปอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งอพยพคนออกจากอาคารดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ถูกเพลิงเผาไหม้วอด ถือเป็นหนึ่งในเหตุอัคคีภัยร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของแอฟริกาใต้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่รายงานข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่าอาคารขนาด 5 ชั้นที่ถูกเพลิงไหม้ยังคงมีควันลอยโขมง พื้นที่ส่วนใหญ่ของอาคารกลายเป็นสีดำจากคราบเขม่าควันไฟ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาวางนอนอยู่ที่ถนนด้านข้างโดยมีผ้าคลุมมิดชิด
คอลลีน มัคฮูเบเล (Colleen Makhubele) โฆษกรัฐบาลท้องถิ่น กล่าวเป็นนัยว่า การที่คนไร้บ้านมาอาศัยอยู่ภายในอาคารดังกล่าวถือเป็นการครอบครองพื้นที่อย่างผิดกฎหมาย และก่อนหน้านี้เมืองได้พยายามแก้ปัญหาแล้ว แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะพวกเขาไม่ยอมย้ายออกไป
“สิ่งที่เกิดขึ้นนี้…เป็นเพราะพลเมืองไม่ยอมทำความเข้าใจและร่วมมือกับภาครัฐในการรักษากฎหมายของประเทศและกฎหมายส่วนท้องถิ่น แม้จะรู้อยู่แล้วว่าอะไรปลอดภัยและไม่ปลอดภัย” มัคฮูเบเลกล่าว
อนึ่ง นครโจฮันเนสเบิร์กเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้ชื่อว่ามีความเหลื่อมล้ำสูงสุดในโลก โดยมีประชาชนอยู่ในภาวะยากจน ตกงาน และเผชิญวิกฤตที่อยู่อาศัยเป็นวงกว้าง ขณะที่มีจำนวนคนไร้บ้านอยู่ประมาณ 15,000 คนด้วยกัน ส่วนเหตุเพลิงไหม้นั้นเกิดขึ้นแทบจะเป็นปกติ เพราะแอฟริกาใต้ประสบปัญหาการขาดแคลนพลังงานมายาวนาน ทำให้ประชาชนหลายคนหันไปใช้เทียนเพื่อให้แสงสว่าง และใช้ฟืนเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ที่อยู่อาศัย
ภาพ: Stringer / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: