ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้คนในชาติมีความสามัคคี ในโอกาสครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ 9/11 ขณะที่สหรัฐฯ เตรียมจัดพิธีรำลึกในวันเสาร์นี้
ในวิดีโอที่ได้รับการเผยแพร่ในวันศุกร์ที่ 10 กันยายน หรือหนึ่งวันก่อนวันครบรอบเหตุการณ์ 9/11 ไบเดนได้กล่าวรำลึกถึงผู้เสียชีวิต 2,977 รายในเหตุวินาศกรรม ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติ
“เราขอเชิดชูเกียรติทุกท่านที่เสี่ยงชีวิตและสละชีวิตในช่วงนาที ชั่วโมง เดือน และปีหลังจากเหตุการณ์นั้น” ไบเดนกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานฉุกเฉินหลังเกิดเหตุโจมตี
“ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน การรำลึกถึงเหล่านี้นำพาความเจ็บปวดให้ย้อนกลับคืนมา ราวกับว่าคุณเพิ่งทราบข่าวเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว
เขายอมรับว่า เหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นผลักดันพลังมืดของธรรมชาติมนุษย์ นั่นคือ ความกลัวและความโกรธ ความแค้น และความรุนแรงต่อชาวอเมริกันมุสลิม แต่ย้ำว่าความสามัคคียังคงเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ
“เราได้เรียนรู้ว่าความสามัคคีเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องไม่มีวันแตกสลาย” ไบเดนกล่าว
ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษกล่าวว่า เหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นไม่สามารถ “สั่นคลอนความเชื่อของเราในเสรีภาพและประชาธิปไตย” โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตจากเหตุวินาศกรรม 9/11 มีชาวอังกฤษรวมอยู่ด้วย 67 คน
ทั้งนี้ เหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ถือเป็นฝันร้ายของชาวอเมริกันและคนทั่วโลก เมื่อมีผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบิน 4 ลำ และบังคับให้เครื่องบิน 2 ใน 4 ลำนั้น บินพุ่งเข้าชนตึกแฝดของอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในมหานครนิวยอร์ก ส่วนเครื่องบินอีก 2 ลำ ลำหนึ่งถูกบังคับให้พุ่งเข้าชนอาคารเพนตากอน ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ใกล้กับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ส่วนลำสุดท้ายตกลงที่เพนซิลเวเนีย หลังจากผู้โดยสารขัดขืนกลุ่มก่อการร้าย
มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 2,977 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 6,000 ราย ขบวนการก่อการร้ายอัลกออิดะห์ และ อุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำ ออกมายอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของฝ่ายตน โดยเหตุการณ์ 9/11 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ทำให้ทั่วโลกตื่นตัวเรื่องการก่อการร้ายมานับแต่นั้น
ภาพ: Kevin Dietsch / Getty Images
อ้างอิง:
