×

ไบเดนไฟเขียว ส่งทหารอีก 1,000 นายไปอัฟกานิสถาน

โดย THE STANDARD TEAM
15.08.2021
  • LOADING...
โจ ไบเดน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติให้กองทัพสหรัฐฯ ส่งทหารเพิ่มเติมอีก 1,000 นายไปยังอัฟกานิสถาน ซึ่งจะทำให้มีทหารอเมริกันถูกส่งไปรวมประมาณ 5,000 นาย เพื่อช่วยให้การถอนทหารสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรออกจากอัฟกานิสถานดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและปลอดภัย ขณะที่กลุ่มตาลีบันยังคงรุกคืบเข้ายึดครองเมืองต่างๆ ในประเทศเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

 

ไบเดนระบุในแถลงการณ์ว่า เขาอนุมัติการส่งทหาร “เพื่อให้แน่ใจว่าการถอนเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรออกจากอัฟกานิสถาน ตลอดจนการอพยพชาวอัฟกันที่ช่วยเหลือกองกำลังของเราในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ และการอพยพผู้ที่มีความเสี่ยงจากการรุกรานของตาลีบัน จะดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและปลอดภัย” 

 

เจ้าหน้าที่กลาโหมรายหนึ่งเปิดเผยว่า การอนุมัติส่งทหาร 5,000 นายของไบเดนในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ (14 สิงหาคม) นั้นรวมถึงทหาร 1,000 นายที่ประจำอยู่ในอัฟกานิสถานอยู่แล้ว ขณะที่กองพันทหาร 1,000 นายจากกองบินที่ 82 (82nd Airborne Division) จะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังกรุงคาบูล จากเดิมที่จะส่งไปประจำการในคูเวต โดยคาดว่ากองกำลังชุดดังกล่าวจะเดินทางถึงกรุงคาบูลภายในช่วงสุดสัปดาห์นี้

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า วันนี้ (15 สิงหาคม) ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พล.อ. มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วม จะบรรยายสรุปให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ทุกคนได้รับทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน

 

โดยการบรรยายสรุปดังกล่าวจะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ และมีขึ้นหลังจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอให้ฝ่ายบริหารของไบเดนอัปเดตสถานการณ์ในอัฟกานิสถานต่อสภาผู้แทนราษฎร

 

ไบเดนนับเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 4 ที่เข้ามากำกับดูแลการทำสงครามของทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน และไบเดนระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ว่า เขาจะยุติการทำสงครามดังกล่าวในสมัยของเขา

 

ก่อนหน้านี้ ไบเดนประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมว่า สหรัฐฯ จะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานโดยสมบูรณ์ภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ โดยระบุว่าถึงเวลาแล้วที่ชาวอัฟกันจะต้อง ‘ต่อสู้เพื่อตนเอง’ 

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การถอนทหารสหรัฐฯ เป็นการตัดสินใจที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากชาวอเมริกัน แต่ปฏิบัติการของกลุ่มตาลีบันที่เดินหน้ายึดครองเมืองต่างๆ ทั่วอัฟกานิสถานกำลังสร้างเรื่องปวดหัวให้กับฝ่ายบริหารของไบเดน ทั้งนี้การตัดสินใจในนาทีสุดท้ายของไบเดนให้มีการส่งทหารไปเพิ่มนั้นสะท้อนถึงสถานการณ์ความมั่นคงอันเลวร้ายที่กำลังดำเนินอยู่ในอัฟกานิสถาน

 

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มตาลีบันรุกคืบยึดครองพื้นที่ในอัฟกานิสถานได้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงเมืองสำคัญอย่างเช่น กันดาฮาร์ เฮรัต และคุนดุซ และขณะนี้กลุ่มตาลีบันกำลังเคลื่อนเข้าใกล้กรุงคาบูลมากขึ้นเรื่อยๆ

 

โมฮัมหมัด อาลี ฮาซรัต ประธานสภาจังหวัดนันกาฮาร์ เปิดเผยว่า จาลาลาบัด เมืองเอกของจังหวัดนันกาฮาร์ ตกอยู่ในการควบคุมของตาลีบันแล้วในเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งนั่นหมายความว่าเมืองเอก 23 เมืองจากทั้งหมด 34 เมืองของอัฟกานิสถาน ถูกกลุ่มตาลีบันยึดครองได้แล้ว

 

วิกฤตการณ์นี้อาจส่งผลต่อนโยบายต่างประเทศของไบเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของประเด็นสิทธิมนุษยชนในกลุ่มสตรีและเด็กหญิงชาวอัฟกัน หากตาลีบันเข้าควบคุมทั้งประเทศได้อีกครั้ง

 

เพโลซีชื่นชมการตัดสินใจของไบเดนเรื่องการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน แต่ขณะเดียวกันก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติของกลุ่มตาลีบันต่อสตรีและเด็กหญิง

 

“สหรัฐฯ ประชาคมระหว่างประเทศ และรัฐบาลอัฟกานิสถาน ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผู้หญิงและเด็กผู้หญิงจากการปฏิบัติที่ไร้มนุษยธรรมของกลุ่มตาลีบัน”

 

สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของสหประชาชาติ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม ชาวอัฟกัน 10,350 คน ได้ละทิ้งบ้านเรือนและถิ่นฐานของตนเอง เพื่ออพยพไปยังกรุงคาบูล

 

ดูจาร์ริกเผยว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) มีความกังวลว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศจะส่งผลกระทบต่อสตรีและเด็กผู้หญิง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 80% ของชาวอัฟกันเกือบ 250,000 คนที่อพยพหนีภัยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 

 

ภาพ: Kent Nishimura / Los Angeles Times via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X