กลุ่ม JMART ประกาศเป้าหมายผลักดันกำไร 3 ปีเติบโตเฉลี่ยปีละ 50% Market Cap แตะ 5 แสนล้านบาท เดินกลยุทธ์เชื่อมโยง Ecosystem ของธุรกิจในเครือ และลงทุนในธุรกิจอื่นที่มีศักยภาพในการต่อยอดการเติบโต เผยอยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนในธุรกิจบริหารทรัพยากรบุคคลและธุรกิจสื่อ คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เปิดเผยว่า เป้าหมายธุรกิจของกลุ่มบริษัทในช่วง 3 ปี (ปี 2565-2567) กำไรสุทธิจะเติบโตเฉลี่ย 50% ต่อปี และตั้งเป้ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (Market Cap) ของทั้งกลุ่ม JMART ทั้งหมดรวมกันในปี 2567 เพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 5 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่อยู่ราว 2 แสนล้านบาท โดยมาจากการเติบโตทุกธุรกิจของบริษัทในเครือทั้งหมด แบ่งออกเป็น
- ธุรกิจเจมาร์ท โมบาย ยังคงมียอดขายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร้านเจมาร์ทเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือต่างๆ และผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังมีการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคปรับเปลี่ยนอุปกรณ์โทรศัพท์และซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
- ธุรกิจบริหารจัดการหนี้เสียภายใต้การดำเนินงานของ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ยังมีแนวโน้มการเติบโตของพอร์ตการบริหารจัดการหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และขยายธุรกิจไปร่วมทุนกับพันธมิตรต่างๆ ซึ่งนำร่องจากธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ (AMC) โดยปัจจุบัน JMT อยู่การเตรียมตัวในการเริ่มธุรกิจ AMC กับธนาคารกสิกรไทย (KBANK) โดยคาดว่ากระบวนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2/65 และเริ่มดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3/65
- ธุรกิจสินเชื่อ Consumer Hire Purchase ดำเนินการโดย บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ประเมินว่ายังมีความสามารถในการเติบโตได้อีกมาก หลังจากได้รับเงินเพิ่มทุนจาก บมจ.ยู ซิตี้ (U), JMART และผู้ถือหุ้นเดิมของ JMART รวมกันราว 1 หมื่นล้านบาท ทำให้ SINGER สามารถเร่งการเติบโตของธุรกิจได้รวดเร็วมากขึ้น และจะเข้ามาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้เป็นตามเป้าได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านคอมมูนิตี้มอลล์ ดำเนินการโดย บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ปีนี้ยังคงมีแผนขยายโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่เพิ่มเติม ทำให้มีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น และมีแผนรุกเข้าสู่ธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ล่าสุดได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลวิมุตในพื้นที่โครงการ JAS green village คู้บอน และจะขยายแห่งที่ 2 ในย่านบางบัวทองเพิ่มเติม ขณะเดียวกันยัง Synergy กับ JMT ในการนำทรัพย์ที่เป็น NPA ที่ JMT ซื้อ มารีโนเวตขายสร้างรายได้เสริมเข้ามาให้กับ J ได้อีกด้วย
นอกจากนี้การร่วมทุนกับ KB Kookmin Card ภายใต้บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจบัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จะขยายการเติบโตในเชิงรุก และก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 5 ธุรกิจ Non-Bank ของประเทศไทย ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ซึ่งนำเทคโนโลยีมาผนวกเข้าใช้ในการขยายฐานลูกค้า รวมถึงการใช้ช่องทางผ่านสาขาของเจมาร์ทในการให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้า ทำให้สามารถขยายการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
โดยปัจจุบัน เคบี เจ แคปปิตอล อยู่ระหว่างการดำเนินงานจัดทำแผนการตลาด และขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจบัตรเครดิตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคาดว่าจะเปิดตัวบัตรเครดิตได้เร็วสุดปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567
ส่วนบริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ยังคงพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดตัว J NFT และจะมี J Metaverse ตามมา อีกทั้งยังมีการนำ JFin Coin มาใช้เป็นประโยชน์ใน Ecosystem ของเครือเจมาร์ทและพันธมิตร เพื่อให้เกิดการใช้งานจริง
“กลุ่มบริษัทมองโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง และจะทยอยประกาศออกมา เพื่อสร้างการเติบโตในแต่ละปีให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกับผสานความร่วมมือของธุรกิจในเครือให้มีการเติบโตไปพร้อมกัน” อดิศักดิ์กล่าว
เขากล่าวเพิ่มว่า นอกจากการเติบโตของแต่ละธุรกิจแล้ว ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงเป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันให้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้เป็นพันธมิตรจากกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ที่ได้เข้ามาเพิ่มทุน ทำให้บริษัทมีเงินที่รองรับการขยายการเติบโตให้กับธุรกิจในเครือกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเงินที่ไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนเป้าหมายการเติบโตของกำไรที่บริษัทตั้งไว้ในช่วง 3 ปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้านกิติพัฒน์ ชลวุฒิ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการลงทุน บมจ.เจ มาร์ท (JAMRT) กล่าวว่า ปีนี้ได้ตั้งงบประมาณการลงทุนไว้ 2 พันล้านบาท สำหรับการลงทุนในธุรกิจที่เสริมการเติบโตภายในกลุ่ม JMART โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนในธุรกิจบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resource) 1 ราย โดยจะเป็นการเข้าลงทุนตั้งแต่ก่อนบริษัทดังกล่าวจะดำเนินการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และกำลังศึกษาแผนลงทุนในธุรกิจแพลตฟอร์มสื่ออีก 1 ราย นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการ SMEs และสตาร์ทอัพหลายราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- “นี่เป็นราคาที่เราพึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย” เจ้าของสุกี้ตี๋น้อยกล่าวหลัง Jaymart ควักเงิน 1.2 พันล้านบาทเข้าถือหุ้น 30% เผยปีหน้าเล็งขยายไปสระบุรี สุพรรณบุรี และโคราช
- JMART’ ควัก 1.2 พันล้านบาท ซื้อ ‘สุกี้ตี๋น้อย’ สัดส่วน 30% คาดดีลแล้วเสร็จธันวาคมนี้
- ‘กลุ่มเจมาร์ท’ ผนึก WorldBridge Group จากกัมพูชา หวังเติมเต็มอีโคซิสเต็มธุรกิจในเครือ รุกสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้‘
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP