เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้ง Amazon แสดงความมั่นใจต่อการทำงานร่วมกับว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในอนาคต หลังจากที่ทั้งคู่เคยมีปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงในอดีต โดยเฉพาะประเด็นการกำกับดูแลธุรกิจ ซึ่งเบโซส์กล่าวในงาน DealBook Summit ของ The New York Times ว่า “ผมรู้สึกมองโลกในแง่ดีมากในครั้งนี้ เขาดูมีพลังในการลดกฎระเบียบต่างๆ ถ้าผมสามารถช่วยเหลือได้ผมก็จะช่วย”
ย้อนกลับไปในสมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก เขามักโจมตีเบโซส์ และบริษัทในเครือทั้ง Amazon และ The Washington Post อย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวหาว่าหลบเลี่ยงภาษีและเผยแพร่ ‘ข่าวปลอม’
รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์ Amazon ว่าเป็นต้นเหตุของปัญหางบประมาณของไปรษณีย์สหรัฐฯ จนถึงขั้นที่ในปี 2019 Amazon ถึงกับระบุว่าการโจมตีเบื้องหลังของทรัมป์ทำให้บริษัทต้องสูญเสียสัญญา JEDI มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากกระทรวงกลาโหม
ความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่เริ่มต้นก่อนที่ทรัมป์จะเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยก่อนการเลือกตั้งปี 2016 เบโซส์ วิจารณ์พฤติกรรมของทรัมป์ว่า ‘บ่อนทำลายประชาธิปไตย’ และหลังจากที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เบโซส์ใช้ The Washington Post เป็น ‘ที่หลบภาษี’ เบโซส์ถึงกับทวีตเสนอจะส่งทรัมป์ขึ้นไปบนอวกาศด้วยจรวดของ Blue Origin บริษัทอวกาศของเขา
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเบโซส์กล่าวว่า ทรัมป์ดูสงบ มั่นใจ และมีความนิ่งมากขึ้นกว่าสมัยดำรงตำแหน่งครั้งแรก พร้อมทั้งกล่าวว่า “คุณคงเติบโตขึ้นในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เขาก็เช่นกัน”
นอกจากนี้เบโซส์ยังแสดงท่าทีประนีประนอมกับทรัมป์ก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยโพสต์แสดงความยินดีหลังชัยชนะของทรัมป์และชื่นชมความกล้าหาญของเขาหลังเผชิญเหตุพยายามลอบสังหารที่การชุมนุมหาเสียงของทรัมป์ในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อเดือนกรกฎาคม
ที่น่าสนใจคือ เบโซส์ ประกาศว่า The Washington Post จะไม่สนับสนุนผู้สมัครใดในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งที่กองบรรณาธิการร่างบทความสนับสนุน คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เอาไว้แล้ว ซึ่งเบโซส์กล่าวว่า “เรารู้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่เราก็ทำในสิ่งที่ถูกต้อง” พร้อมยืนยันว่าการตัดสินใจนี้ไม่ใช่ ‘การขลาดกลัว’
ทั้งนี้ Blue Origin ของเบโซส์จะต้องติดต่อกับรัฐบาลทรัมป์บ่อยครั้งในการแข่งขันเพื่อรับสัญญาจากรัฐบาลกลาง โดยบริษัทมีคู่แข่งสำคัญคือ SpaceX ของ อีลอน มัสก์ ซึ่งมัสก์เป็นพันธมิตรสำคัญของทรัมป์ในการรณรงค์หาเสียง และบริจาคเงินให้ America PAC ซูเปอร์แพ็กที่สนับสนุนทรัมป์เป็นจำนวนเกือบ 75 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.5 พันล้านบาท) เมื่อต้นปีนี้
อ้างอิง: