×

สำนักพิมพ์ญี่ปุ่นทุ่ม 180 ล้านบาท ลงทุนสตาร์ทอัพ AI แปลมังงะ ลดเวลาแปลลงครึ่งหนึ่ง พร้อมสู้ปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ หวังบุกตลาดโลก

27.06.2024
  • LOADING...
AI แปลมังงะ

สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่หลายแห่งของญี่ปุ่น ได้แก่ Shueisha, Shogakukan, Kadokawa และ Square Enix Holdings ได้ร่วมลงทุนรวม 780 ล้านเยน (ประมาณ 180 ล้านบาท) ใน Mantra สตาร์ทอัพที่ใช้ AI ในโตเกียว เพื่อลดเวลาในการแปลมังงะลงครึ่งหนึ่ง

 

Mantra ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ให้บริการแปลภาษาด้วย AI บนระบบคลาวด์ โดยใช้เทคโนโลยีจดจำภาพเพื่อระบุข้อความในมังงะ จากนั้น AI จะแปลข้อความ ซึ่งจะถูกตรวจสอบและปรับปรุงโดยนักแปลภาษาอีกครั้ง Shogakukan คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดเวลาในการแปลมังงะลงเหลือประมาณ 3 วัน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาถึง 7 วัน

 

มังงะขึ้นชื่อว่าแปลยาก เพราะมักใช้สำนวนเฉพาะตัว Mantra ใช้เทคโนโลยีจดจำภาพและโมเดลภาษาขนาดใหญ่เพื่อจับคู่คำพูดกับตัวละคร ทำให้อัตราความผิดพลาดในการแปลจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษอยู่ที่ 1.6%

 

เงินลงทุนก้อนใหม่นี้จะถูกนำไปใช้จ้างวิศวกรและนักวิจัย โดยเฉพาะด้านแมชชีนเลิร์นนิง Mantra วางแผนที่จะเพิ่มทีมเป็น 3 เท่า เป็น 35 คน ภายในปี 2025 เพื่อพัฒนาความแม่นยำในการแปล และขยายบริการไปสู่นิยาย เกม และวิดีโอ

 

Mantra ให้บริการแปลเป็น 18 ภาษา รวมถึงอังกฤษ จีน และโปรตุเกส ปัจจุบันมีสำนักพิมพ์และบริษัทแปลภาษาใช้บริการแปลมังงะประมาณ 100,000 หน้า หรือประมาณ 500 เล่มต่อเดือน

 

Shueisha ใช้ Mantra แปลซีรีส์ยอดฮิตอย่าง One Piece และ Spy x Family เป็นภาษาเวียดนาม ขณะที่ Shogakukan กำลังปรับแต่งบริการของ Mantra ให้เหมาะกับเนื้อหาของตน เพื่อที่จะสามารถเปิดตัวผลงานใหม่พร้อมกันทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยจะสร้างแพลตฟอร์มเนื้อหาใหม่ภายในปีงบประมาณนี้

 

บริษัทอื่นๆ ในญี่ปุ่นก็ใช้ AI แปลมังงะเช่นกัน เช่น CyberAgent ที่กำลังพัฒนาโมเดลแปลภาษา โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านการรู้จำอักขระด้วยแสง (OCR) และโมเดลภาษาญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากธุรกิจโฆษณา โดย CyberAgent กำลังพิจารณาที่จะให้บริการแปลเป็นภาษาอังกฤษ สเปน และฝรั่งเศส ในเบื้องต้น

 

Orange จะเริ่มเผยแพร่มังงะที่แปลแล้วในสหรัฐอเมริกาภายในฤดูร้อนนี้ บริษัทได้รับเงินลงทุนรวม 2.92 พันล้านเยน (ประมาณ 720 ล้านบาท) จาก 10 บริษัท รวมถึง Shogakukan และตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้สามารถแปลได้ 500 เรื่องต่อเดือนภายในสิ้นปี และ 50,000 เรื่องภายใน 5 ปี

 

รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะเพิ่มการส่งออกคอนเทนต์เป็น 4 เท่า เป็น 20 ล้านล้านเยน (ประมาณ 4.6 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2033 แม้ว่ามังงะญี่ปุ่นจะมีแฟนๆ อยู่ทั่วโลก แต่มีเพียง 2% ของผลงานทั้งหมดที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ

 

การเพิ่มจำนวนคอนเทนต์ที่แปลแล้วอาจช่วยต่อสู้กับปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ได้เช่นกัน สมาคมการเผยแพร่เนื้อหาในต่างประเทศรายงานว่า สำนักพิมพ์ญี่ปุ่นสูญเสียเงินจากปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์สูงถึง 8.31 แสนล้านเยน (ประมาณ 1.91 แสนล้านบาท) ในปี 2022

 

“เราจะมุ่งเน้นไปที่การเผยแพร่เนื้อหาอย่างเป็นทางการในต่างประเทศ ซึ่งการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นปัญหาใหญ่” Atsushi Ito จาก Shueisha กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับการใช้ AI สมาคมนักแปลญี่ปุ่นกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนว่า การแปลด้วย AI ในปัจจุบันไม่สามารถ “ถ่ายทอดความแตกต่างทางวัฒนธรรมหรือลักษณะนิสัยของตัวละครได้อย่างเหมาะสม

 

“นักแปลทำหลายสิ่งหลายอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่าโลกทัศน์ของงานต้นฉบับจะถูกถ่ายทอดออกมา” Sakigake Kamimura รองประธานสมาคมกล่าว “เราหวังว่าการมุ่งเน้นที่ระยะเวลาที่สั้นลงเพียงอย่างเดียวจะไม่นำไปสู่การแปลและสภาพการทำงานที่แย่ลง”

 

Dai Nippon Printing กำลังพิจารณาใช้ AI แปลมังงะสำหรับแอปพลิเคชันอ่านมังงะบนสมาร์ทโฟน แต่ “AI เพียงอย่างเดียวไม่สามารถแปลให้เสร็จสมบูรณ์ได้ และเรากำลังพิจารณาว่าต้องมีกรอบการทำงานแบบใด เพื่อให้มั่นใจในความเข้าใจของนักแปล” สำนักพิมพ์กล่าว

 

ภาพ: Lokyo Multimedia JP / Shutterstock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising